“ธรรมนัส” สั่งกรมชลฯ เฝ้าระวังน้ำท่วม-หลาก 15-20 ก.ค.

พระนครศรีอยุธยา 15 ก.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งกรมชลประทาน เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ช่วงวันที่ 15-20 ก.ค. อย่างใกล้ชิด ตามที่ สทนช. ประกาศเตือนมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะ 15-18 ก.ค. ซึ่งกรมอุตุฯ คาดจะมีพื้นที่เสี่ยงมากถึง 71 จังหวัด ทั้งยังย้ำให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมี 3 ปัจจัยที่จะทำให้สภาพอากาศแปรปรวน


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากระหว่างวันที่ 15 – 18 กรกฎาคม ทั้งยังระบุว่า เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนถึง 3 ปัจจัย ได้แก่ ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนในระยะนี้ได้แก่ มรสุมมีกำลังแรง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจึงต้องระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

ทั้งนี้ จะเรียกกรมชลประทานประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าของการจัดทำ “แผนที่น้ำ” ทั่วประเทศตามที่ได้สั่งการไปเนื่องจากการจะบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อป้องกันทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง ต้องมีแผนที่เส้นทางน้ำทั้งแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงเส้นทางออกสู่ทะเล รวมถึงคลองส่งน้ำที่จะเข้าสู่แปลงของเกษตรกร


นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน (SWOC) เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ในช่วงวันที่ 15 – 20 กรกฎาคม 2567 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

พร้อมกันนี้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ รวมถึงสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน พร้อมเตรียมแผนรับมือน้ำหลาก ด้วยการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารชลประทาน ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ปรับการระบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตลอดจนเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ ระบบสื่อสารสำรอง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมยึดปฏิบัติตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 67 อย่างเคร่งครัด.- 512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน