ชัวร์ก่อนแชร์: สมมุติฐานดูสเบิร์ก : HIV ≠ AIDS จริงหรือ?

04 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

AIDS Denialism คือแนวคิดการปฏิเสธโรคเอดส์ ทั้งการเชื่อว่าโรคเอดส์เป็นเรื่องลวงโลก ไวรัส HIV ไม่มีอยู่จริงหรือไม่ใช่สาเหตุของการก่อให้เกิดโรคเอดส์


หนึ่งในแนวคิด AIDS Denialism ที่อื้อฉาวที่สุด ได้แก่ Duesberg Hypothesis หรือ สมมุติฐานดูสเบิร์ก ซึ่งมีแนวคิดหลัก ๆ ที่เชื่อว่า ไวรัส HIV ไม่เป็นอันตราย และ ไม่ใช่สาเหตุของการป่วยเป็นโรคกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์

บทสรุป :

  1. ในอดีตมีนักวิทยาศาสตร์ไม่น้อยที่มีแนวคิด AIDS Denialism หรือการไม่เชื่อว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคเอดส์
  2. สมมุติฐานดูสเบิร์กเคยถูกใช้กำหนดนโยบายรับมือโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคเอดส์มากกว่า 3 แสนราย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


สมมุติฐานดูสเบิร์ก ตั้งตามชื่อของ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก นักชีววิทยาระดับโมเลกุลชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา วัย 86 ปี

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก สร้างชื่อเสียงในวงการวิทยาศาสตร์จากการวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งในทศวรรษที่ 1970’s ได้รับ Academic Tenure (การจ้างงานศาสตราจารย์แบบถาวรหรือสิทธิในการดำรงตำแหน่ง) จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ตอนอายุ 36 ปี ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Academy of Sciences) ตอนอายุ 49 ปี

อย่างไรก็ดี ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก เริ่มมีข้อขัดแย้งกับวงการวิทยาศาสตร์มากขึ้นในทศวรรษที่ 1980’s ซึ่งเป็นช่วงที่โรคเอดส์เริ่มแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในสหรัฐอเมริกา

Inventing the AIDS Virus

กระทั่งปี 1996 ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ได้ตีพิมพ์หนังสือที่ชื่อว่า Inventing the AIDS Virus ซึ่งเนื้อหาเต็มไปด้วยแนวคิด AIDS Denialism ที่ขัดแย้งข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์จำนวนมาก

ทั้งการระบุว่าเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อ ไวรัส HIV ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการป่วยเป็นโรคเอดส์ สาเหตุการแพร่ระบาดในประเทศพัฒนาแล้วมาจากการใช้สารเสพติดของกลุ่มชายรักชาย ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตอื่น ๆ ส่วนสาเหตุการแพร่ระบาดในประเทศกำลังพัฒนา มาจากปัญหาการขาดสารอาหารและสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย เช่นเดียวกับการใช้ยาต้านไวรัสบางชนิด

โรคเอดส์กับการใช้ยาเสพติด

หลักฐานที่ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ใช้อ้างว่าสารเสพติดคือสาเหตุทำให้โรคเอดส์ระบาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปช่วงทศวรรษที่ 1980’s คือสถิติการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการระบาดของโรคเอดส์ในช่วงเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านระบาดวิทยาพบว่าในช่วงปี 1990-2002 สถิติการเสียชีวิตจากสารเสพติดที่มีฝิ่นเป็นองค์ประกอบ สูงกว่าช่วงปี 1979-1990 ถึง 3 เท่า แต่ในทางกลับกันสถิติการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ลดลงอย่างมากหลังจากปี 1990 เป็นต้นมา

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่เปรียบเทียบการป่วยเป็นโรคฉวยโอกาสจากโรคเอดส์ในกลุ่มตัวอย่างที่ใช้สารเสพติด โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่มีผลตรวจไวรัส HIV เป็นบวกและลบ ซึ่งพบว่ามีเพียงกลุ่มตัวอย่างที่มีผลตรวจไวรัส HIV เป็นบวกและใช้สารเสพติดเท่านั้น ที่ป่วยเป็นโรคฉวยโอกาสจากโรคเอดส์

งานวิจัยปี 2008 ยังพบว่าการใช้สารเสพติดประเภท กัญชา โคเคน ยาบ้า และป๊อปเปอร์ ไม่ส่งผลต่อปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด CD4 หรือ CD8 จึงสรุปได้ว่าการใช้สารเสพติดไม่มีความเกี่ยวข้องกับการป่วยเป็นโรคเอดส์แต่อย่างใด

ผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์ในไทย

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ยังใช้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส HIV ในประเทศไทยช่วงต้นทศวรรษที่ 1980’s มาสนับสนุนสมมุติฐานของตนเอง

ดูสเบิร์กอ้างว่า แม้ประเทศไทยจะมีผู้มีผู้ติดเชื้อ HIV จำนวนมาก แต่มีผู้ป่วยโรคเอดส์ระหว่างปี 1984-1991 เพียง 123 ราย คือหลักฐานว่าการติดเชื้อ HIV ไม่มีความสัมพันธ์กับการป่วยเป็นโรคเอดส์

แต่ผลสำรวจโดย ทิม บราวน์ นักฟิสิกส์ทฤษฎีจากศูนย์ East–West Center มหาวิทยาลัยฮาวาย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย พบว่าการแพร่ระบาดของไวรัส HIV ระหว่างปี 1988-1993 มีความสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ในเมืองไทยอย่างชัดเจน และเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าโรคเอดส์มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HIV

Duesberg Hypothesis กับการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้

แม้จะถูกต่อต้านจากแวดวงวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2000 ทาโบ อึมบากี ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ในขณะนั้น ได้แต่งตั้งให้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์กและกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่มีแนวคิดการปฏิเสธโรคเอดส์บางราย มาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ของแอฟริกาใต้ เพื่อกำหนดนโยบายด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ซึ่งระบาดอย่างหนักในประเทศ

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก มองว่าปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ แท้จริงแล้วคือสิ่งที่หน่วยงานอนามัยระดับโลกอย่างองค์การอนามัยโลกอุปโลกน์ขึ้นมาเอง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการระดมทุนช่วยเหลือ โดยได้ความร่วมมือจากแพทย์ท้องถิ่นที่หวังประโยชน์จากเงินบริจาค

ส่วนอาการป่วยที่คล้ายกับระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องที่พบอย่างแพร่หลายในแอฟริกาใต้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก อธิบายว่าแท้จริงแล้วมีสาเหตุจากปัญหาการขาดสารอาหาร การดื่มน้ำปนเปื้อน การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย และปัจจัยจากการติดเชื้ออื่น ๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของชุมชนในเขตชนบท

อย่างไรก็ดี ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกามักพบในชุมชนเขตตัวเมืองมากกว่าชุมชนในเขตชนบทซึ่งมีปัญหาด้านการขาดสารอาหารและสุขอนามัยมากกว่าชุมชนเขตตัวเมือง แม้ปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายในเวลาต่อมา แต่การแพร่ระบาดของโรคเอดส์กลับเพิ่มขึ้นในแอฟริกา ดังนั้นปัญหาการขาดสารอาหารและสุขอนามัยจึงไม่ใช่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ตามที่กล่าวอ้าง

การเลือก ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และกลุ่มที่มีแนวคิด AIDS Denialism มาอยู่ในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์และแพทย์จำนวนกว่า 5,000 ราย ร่วมกันลงชื่อในปฏิญญาเดอร์บาน (Durban Declaration) เพื่อยืนยันว่า มีหลักฐานที่ชัดเจนและเป็นเอกฉันท์ ที่พิสูจน์ได้ว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการป่วยเป็นโรคเอดส์

ผลจากการนำผู้มีแนวคิด AIDS Denialism มากำหนดนโยบายแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวนมากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสตามเวลาที่เหมาะสม เป็นสาเหตุให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นถึง 330,000 ราย รวมถึงเหยื่อจำนวนมากที่เป็นเด็กทารก

การสนับสนุนผู้มีแนวคิด AIDS Denialism ทำให้ประธานาธิบดี ทาโบ อึมบากี ถูกวิจารณ์และสูญเสียความน่าเชื่อถือทางการเมืองอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะประกาศตัดขาดเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีแนวคิด AIDS Denialism อย่างสิ้นเชิงในปี 2002

แม็กซ์ เอซเซ็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน HIV และโรคเอดส์ แสดงความเห็นต่อบทบาทของ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ว่า “ประวัติศาสตร์จะพิพากษาเขา ถ้าไม่ในฐานะคนบ้าที่เป็นตัวตลกในวงการวิทยาศาสตร์ ก็ในฐานะผู้บงการเหตุสังหารหมู่ผู้ป่วยเอดส์ในแอฟริกา”

การเผยแพร่ AIDS Denialism ในวารสารการแพทย์

ต่อมาในปี 2009 ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และ เดวิด แรสนิก นักชีวเคมีชาวอเมริกัน ได้ร่วมกันเผยแพร่แนวคิด AIDS Denialism ใน Medical Hypotheses วารสารการแพทย์ที่สนับสนุนแนวคิดที่หลากหลายในวงการวิทยาศาสตร์

เนื้อหาที่ตีพิมพ์ย้ำถึงความปลอดภัยของไวรัส HIV โดยระบุว่าไวรัส HIV ไม่สามารถแบ่งตัวในร่างกายมนุษย์ ส่วนการใช้ยาต้านไวรัสกลับเป็นอันตรายและไม่สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้

นอกจากนี้ยังอ้างถึงการเพิ่มจำนวนประชากรในแอฟริกาใต้ อันเป็นผลจากนโยบายรับมือการแพร่ระบาดโรคเอดส์ของกลุ่มผู้มีแนวคิด AIDS Denialism อีกด้วย

คณะตรวจสอบงานวิจัยชิ้นนี้พบข้อบกพร่องในกระบวนการวิจัยหลายอย่าง ทั้งการใช้เทคนิค Cherry Picking หรือการเลือกนำเสนอแต่ข้อมูลที่สนับสนุนแนวคิดของตนเอง และจงใจปิดกั้นข้อมูลที่ขัดแย้งกับแนวคิดของตนเอง รวมถึงการนำความเห็นทางวิชาการมาใช้อย่างผิดบริบทอีกด้วย

แม้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะ จะยืนยันว่าไม่ผลประโยชน์ทับซ้อนในการทำงานวิจัยชิ้นนี้ แต่คณะตรวจสอบงานวิจัยพบว่า เดวิด แรสนิก ผู้ร่วมวิจัยเคยทำงานให้กับ แมทเทียส แรท เจ้าของธุรกิจอาหารเสริม รวมถึงวิตามินที่อ้างว่าใช้รักษาโรคเอดส์ ซึ่งการไม่ระบุข้อมูลดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณทางวิชาการ

เกิดกระแสกดดันไปยัง Elsevier สำนักพิมพ์วารสารการแพทย์ชั้นนำ ทำการระงับการตีพิมพ์ผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะ โดยหลังการพิจารณาภายในรวมกับคณะตรวจสอบงานวิจัยจากวารสาร The Lancet สำนักพิมพ์ Elsevier จึงลงความเห็นว่าผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องและเป็นภัยต่อวงการสาธารณสุขระดับนานาชาติ จึงตัดสินใจระงับการตีพิมพ์ผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และยุติการเผยแพร่งานวิจัยที่มีแนวคิด AIDS Denialism ทั้งหมด พร้อมทั้งปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบงานวิจัยของ Medical Hypotheses ให้เป็นไปตามมาตรฐานในเวลาต่อมา

มีการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์สอบสวน ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ในข้อหาการประพฤติมิชอบในวิชาชีพและการปิดบังผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ในปี 2010 มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์มีมติยุติการสอบสวน หลังไม่พบหลักฐานเพียงพอในการออกคำสั่งลงโทษ พร้อมอ้างว่าการสอบสวนไม่ได้พิจารณาไปถึงเนื้อหาที่อยู่ในงานวิจัยของปีเตอร์ ดูสเบิร์ก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ดังได้รับการคุ้มครองด้านเสรีภาพทางวิชาการ

AIDS Denialism และ Nobel Disease

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า สาเหตุที่ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีแนวคิด AIDS Denialism ที่เป็นอันตรายที่สุด เนื่องจากเขาได้รับการสนับสนุนจากชื่อเสียงในฐานะนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ไม่ใช่เพราะมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ

หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ให้การสนับสนุน ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ยังรวมถึง แครี มัลลิส นักชีวเคมีชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมี จากผลงานการคิดค้นกระบวนการสังเคราะห์ชิ้นส่วนดีเอ็นเอในหลอดทดลองที่เรียกว่าปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (Polymerase Chain Reaction หรือ PCR)

แครี มัลลิส ถือเป็นหนึ่งในผู้มีแนวคิด AIDS Denialism ที่ไม่เชื่อว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการป่วยเป็นโรคเอดส์ และไม่เชื่อว่ากิจกรรมของมนุษย์ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ท่าทีของ แครี มัลลิส ได้รับการเรียกขานเชิงล้อเลียนในวงการวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการป่วยด้วยโรค Nobelitis หรือ Nobel Disease ที่ใช้เรียกผู้ชนะรางวัลโนเบลบางรายที่การแสดงความเห็นขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในสาขาที่อยู่นอกเหนือความเชี่ยวชาญของตนเอง

AIDS Denialism ในปัจจุบัน

การเผยแพร่แนวคิด AIDS Denialism ยังมีให้เห็นในปี 2023 เมื่อมีการวางจำหน่ายหนังสือ The Real AIDS Epidemic: How the Tragic HIV Mistake Threatens Us All ของนักเขียน รีเบคกา คัลชอว์ ที่เนื้อหาสนับสนุนแนวคิด AIDS Denialism อย่างชัดเจน

ส่งผลให้ GLAAD กลุ่มสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ และ ACT UP กลุ่มรณรงค์ยุติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ รวมตัวกันเพื่อกดดันให้สำนักพิมพ์ Simon & Schuster ยุติการตีพิมพ์หนังสือ The Real AIDS Epidemic แม้ว่าสุดท้ายแล้วตัวหนังสือจะได้รับการตีพิมพ์ในเวลาต่อมาก็ตาม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.usatoday.com/story/news/factcheck/2023/01/18/fact-check-false-claim-cia-admitted-jfk-assassination/11041561002/
https://en.wikipedia.org/wiki/CIA_Kennedy_assassination_conspiracy_theory
https://edition.cnn.com/2023/06/30/politics/jfk-assassination-documents-national-archives-review/index.html
https://www.foxnews.com/politics/national-archives-completes-review-jfk-assassination-documents-99-publicly-available-white-house

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง