Fort Knox คลังทองคำสุดลึกลับของสหรัฐฯ

19 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล หนึ่งในสถานที่ซึ่งได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาและเป็นความลับมากที่สุดในสหรัฐฯ คือคลังทองคำสำรอง Fort Knox สถานที่เก็บทองคำสำรองครึ่งหนึ่งของทองคำสำรองสหรัฐฯ การเป็นสถานที่หวงห้ามและเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไปตรวจสอบเพียง 3 ครั้งในรอบ 88 ปีที่ผ่านมา นำไปสู่ทฤษฎีสมคบคิดว่า ทองคำใน Fort Knox อาจจะนำออกไปใช้ก่อนหน้านี้จนหมดแล้ว หรือถูกย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่อื่น จนถึงข่าวลือว่าทองที่อยู่ในคลังอาจจะไม่ใช่ทองคำบริสุทธิ์ก็เป็นได้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คลังทองคำสำรอง Fort Knox กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ อีลอน มัสก์ ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีในขณะนั้น แสดงความสนใจเปิดคลังทองคำสำรอง Fort Knox เพื่อพิสูจน์ว่าปริมาณทองคำสำรองครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ ยังมีอยู่จริงหรือไม่ แผนป้องกันทองคำสหรัฐฯ จากข้าศึก เมื่อปี 1935 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีแผนย้ายทองคำสำรองของชาติที่จัดเก็บในโรงกษาปณ์ตามเมืองใหญ่ทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกของประเทศ มาเก็บรักษายังสถานที่ซึ่งอยู่ใจกลางของประเทศ เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากข้าศึกที่ขึ้นบก สถานที่ที่เลือกใช้เก็บรักษาทองคำสำรองแห่งใหม่คือคลังทองคำที่อยู่ใกล้กับค่ายทหาร Fort Knox ทางตอนใต้ของเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี […]

ชัวร์ก่อนแชร์: XRF พิสูจน์ทองคำแค่ระดับพื้นผิว จริงหรือ?

18 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีการตั้งคำถามความแม่นยำในการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองคำด้วยเครื่อง X-ray Fluorescence (XRF) โดยอ้างว่าเครื่อง XRF ตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองคำแค่เพียงพื้นผิวเท่านั้น ไม่สามารถยืนยันผลได้จริง บทสรุป : 1.เครื่อง X-ray Fluorescence สามารถยิงรังสีเอ็กซ์ทะลุทองคำ 24K ได้ประมาณ 10-15 ไมโครเมตร2.การใช้เครื่อง XRF ตรวจสอบทองคำอาจไม่แม่นยำ หากวัสดุแปลกปลอมอยู่ลึกกว่าระยะที่เครื่อง XRF ตรวจสอบได้ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เครื่อง X-ray Fluorescence (XRF) สามารถตรวจสอบได้ทั้งชนิดและปริมาณของธาตุที่อยู่ในทองคำ ทำงานด้วยการวัดปริมาณฟลูออเรสเซนต์ที่ปลดปล่อยมาจากธาตุองค์ประกอบที่อยู่ในทองคำ โดยที่เครื่องจะปล่อยรังสีเอ็กซ์จากหลอดรังสีไปที่ทองคำ ส่งผลให้ทองคำคายพลังงานออกมาในรูปฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งพลังงานที่คายออกมาจะมีความแตกต่างกันตามเอกลักษณ์เฉพาะของธาตุแต่ละชนิดที่อยู่ในทองคำ ระยะในการแทรกซึมของรังสีเอ็กซ์ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของทองคำ โดยทองคำ 24K จะมีระยะในการแทรกซึมของรังสีเอ็กซ์ประมาณ 10-15 ไมโครเมตร ทองปลอมที่เกิดจากการชุบทองด้านนอก […]

“ทังสเตน” โลหะสอดไส้ทองปลอม

17 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ในช่วงที่มีการระบาดของทองปลอมเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ความท้าทายของการตรวจสอบทองปลอมคือกระแสการนำ ทังสเตน โลหะที่มีคุณสมบัติคล้ายกับทองคำมาใช้ในการปลอมแปลง ทำให้ยากต่อการแยกแยะสำหรับประชาชนทั่วไป ความคล้ายคลึงระหว่าง ทังสเตน และ ทองคำ มาจากความหนาแน่นที่ใกล้เคียงกัน โดยทองคำมีความหนาแน่นประมาณ 19.3 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร ส่วน ทังสเตน มีความหนาแน่นประมาณ 19.25 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร ความหนาแน่นที่ใกล้เคียงกันมาก ทำให้ไม่สามารถแยกทองคำบริสุทธิ์และทองคำที่ผสมทังสเตนได้จากการชั่งน้ำหนักเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีราคาที่แตกต่างกันถึง 1,000 เท่า จึงเริ่มพบการนำทังสเตนมาผลิตทองปลอมอย่างแพร่หลายตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980’s เป็นต้นมา กระบวนการใช้ทังสเตนทำทองปลอมที่พบได้บ่อยคือการนำแผ่นทังสเตนมาชุบทอง หรือการนำทองแท่งมาเจาะรูตรงกลาง แล้วสอดไส้แท่งทังสเตนเข้าไปข้างใน คดีซื้อทองยัดไส้ทังสเตนในสหรัฐฯ เมื่อปี 2012 อิบราฮิม ฟาเดิล นักค้าทองรายย่อยต้องสูญเงินไปเกือบ 2 ล้านบาท เมื่อพบว่าทองแท่งน้ำหนัก 10 ออนซ์จำนวน 4 แท่งที่ซื้อจากแหล่งค้าทองเจ้าประจำ กลายเป็นทองคำสอดไส้ทังสเตน จากเดิมที่ซื้อมาในราคา 18,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ […]

6 เทคนิคพิชิต “ทองปลอม”

16 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ช่วงต้นปี 2025 เกิดภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจจากนโยบายสงครามการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ มีนักลงทุนไม่น้อยหันไปพึ่งพาทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยสูง (Safe Haven) อย่าง ทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำช่วงต้นปี 2025 เพิ่มสูงกว่าปีก่อนถึงบาทละ 10,000 บาท ทำให้ตลาดการซื้อขายทองกลับมาคึกคักอย่างมากตลอดเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ผู้บริโภคต้องพึงระวังจากการลงทุนในทองแท่งหรือทองรูปพรรณ คือการตกเป็นเหยื่อทองปลอมที่ระบาดอยู่ในตลาดการซื้อขายทองคำในขณะนี้ ยังมีเทคนิคง่าย ๆ ช่วยตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองคำแท้ (23k และ 24k) ด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่ในบ้าน โดยไม่เสี่ยงอันตรายหรือสร้างความเสียหายต่อเนื้อทองคำ และยังช่วยป้องกันการตกเป็นเหยื่อการครอบครองทองปลอมโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย 1.การจุ่มน้ำ ทองคำเป็นโลหะที่มีความหนาแน่นสูงกว่าน้ำและมีความถ่วงจำเพาะสูง เมื่อนำทองคำจุ่มลงในน้ำจะต้องจมเสมอ หากทองคำลอยอยู่บนผิวน้ำ ยืนยันได้ว่าทองคำดังกล่าวไม่ใช่ทองแท้ 2.การใช้แม่เหล็กดูด ทองคำเป็นโลหะที่ไม่มีคุณสมบัติดูดติดแม่เหล็ก การนำแม่เหล็กมาดูดกับทองคำจึงไม่ทำให้ทองคำเคลื่อนไหว หากทองคำเคลื่อนไหวตามแรงดึงดูดของแม่เหล็ก ยืนยันได้ว่าทองคำดังกล่าวไม่ใช่ทองแท้ 3.หยดน้ำส้มสายชู หยดน้ำส้มสายชู 2-3 หยดลงบนทองคำ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ทองคำแท้จะไม่ทำปฏิกิริยากับกรดของน้ำส้มสายชู แต่หากเนื้อทองเปลี่ยนสี ยืนยันได้ว่าทองคำดังกล่าวไม่ใช่ทองแท้ 4.ถูกับผิวหนัง การสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นทองคำแท้ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: แนวคิดโลกกลมเผยแพร่มาจากวงการภาพยนตร์ จริงหรือ?

13 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับทฤษฎีโลกแบนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าแนวคิดโลกกลมแท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด เนื่องจาก Universal Pictures บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ชื่อดัง นำภาพลูกโลกทรงกลมหมุนรอบตัวเองมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของบริษัทในปี 1927 ทั้ง ๆ ที่องค์การ NASA เพิ่งจะเริ่มต้นโครงการ Apollo ในทศวรรษที่ 1960’s และภาพถ่ายโลกจากอวกาศเป็นครั้งแรกในปี 1972 เท่านั้น บทสรุป : 1.มนุษย์ค้นพบว่าโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลมหลายพันปี2.หลักฐานถ่ายภาพโลกทรงกลมจากอวกาศมีมาตั้งแต่ปี 1946 FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อย่างไรก็ดี การค้นพบว่าโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม เป็นความรู้ที่มนุษยชาติค้นพบมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลหลายร้อยปี โฆษกของศูนย์อวกาศ จอห์น เอฟ. เคนเนดี องค์การ NASA ยืนยันต่อสำนักข่าว Reuters ว่า ชาวกรีกโบราณส่วนใหญ่เชื่อว่าโลกเป็นทรงกลมตั้งแต่ 500 ปีก่อนคริสตกาล แม้ในสมัย […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ถ้าโลกกลม ต้องรู้สึกแรงเหวี่ยงเวลาโลกหมุน จริงหรือ?

12 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการสนับสนุนทฤษฎีโลกแบนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าหากโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลมและหมุนรอบตัวเองจริง เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์ที่อยู่บนโลกจะไม่รู้สึกขณะที่โลกหมุนรอบตัวด้วยความเร็ว และหากโลกหมุนไปทางทิศตะวันออกจริง การเดินทางด้วยเครื่องบินไปในทิศตะวันออก จะต้องใช้เวลานานกว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินไปในทิศตะวันตก เนื่องจากทิศตะวันตกเป็นทิศตรงกันข้ามกับการหมุนของโลก บทสรุป : 1.มนุษย์ไม่รับรู้ถึงการเคลื่อนที่ แต่รับรู้เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงความเร็วของการเคลื่อนที่2.มนุษย์ไม่รู้สึกว่าโลกหมุนเพราะโลกหมุนด้วยความเร็วคงที่3.โลกหมุนไปทางทิศตะวันออก แต่การบินไปทิศตะวันตกไม่ทำให้เร็วกว่าทิศตะวันออก4.เนื่องจากเครื่องบินเคลื่อนที่ไปพร้อมกับการหมุนของโลกจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วง FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ไม่รู้สึกว่าโลกหมุนเพราะความเร็วคงที่ แม้โลกหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็ว 1,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มนุษย์ไม่รู้สึกถึงความเร็วดังกล่าว เนื่องจากเป็นการหมุนด้วยความเร็วคงที่ เควิน ลี รองศาสตราจารย์ภาควิชาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนบราสกา อธิบายว่า มนุษย์ไม่ได้รับรู้ถึงการเคลื่อนที่ แต่รับรู้เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงความเร็วของการเคลื่อนที่ เช่น การเร่งหรือการชะลอความเร็ว ตัวอย่างเช่น เราไม่รู้สึกระหว่างโดยสารรถยนต์ จนกระทั่งรถชะลอความเร็วด้วยการใช้เบรก หรือความรู้สึกปราศจากการเคลื่อนไหวเวลาโดยสารเครื่องบิน ก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องบินหยุดอยู่กับที่เช่นกัน โลกหมุนรอบแกนกลางไปทางทิศตะวันออก แต่กระนั้น ทิศทางการหมุนของโลก ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเวลาที่ใช้เดินทางโดยเครื่องบินแต่อย่างใด โรเบิร์ต ฟรอสต์ ผู้ฝึกสอนการบินขององค์การ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ถ้าโลกกลมคนที่อยู่ด้านใต้ของโลกต้องยืนกลับหัว จริงหรือ?

09 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับทฤษฎีโลกแบนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าแนวคิดโลกกลมเป็นสิ่งที่ขัดต่อสามัญสำนึก เพราะหากเป็นจริงคนที่อยู่ในเมืองที่อยู่ฝั่งด้านใต้โลกจะต้องอยู่กันอย่างห้อยหัวลง และที่ผ่านมายังไม่มีภาพถ่ายจากอวกาศยืนยันว่ามีเมืองที่คนห้อยหัวลงมาก่อน บทสรุป : 1.ในอวกาศไม่มี การตั้ง หรือ การดิ่ง2.การตั้งคือการอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับแรงโน้มถ่วง ส่วนการดิ่งคือการไปในทิศทางเดียวกับแรงโน้มถ่วง3.ไม่มีภาพเมืองแนวห้อยหัวเพราะกล้องซูมจากอวกาศไม่ถึงพื้นโลก FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ในอวกาศไม่มี การตั้ง หรือ การดิ่ง เดวิด บราวน์ ศาสตราจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาสเตท อธิบายว่า ในอวกาศไม่มีนิยามของคำว่า การตั้ง หรือ การดิ่ง ส่วนดาวเคราะห์อย่างโลก ความหมายของการตั้งคือการอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับแรงโน้มถ่วง ส่วนการดิ่งคือการไปในทิศทางเดียวกับแรงโน้มถ่วง แรงโน้มถ่วงดึงดูดสรรพสิ่งเอาไว้กับพื้นโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดหรืออยู่ในตำแหน่งใดบนโลกก็ตาม เดวิด บราวน์ ตั้งสมมติฐานว่า หากโลกมีสัณฐานเป็นรูปทรงแนวราบเหมือนจาน ทุกสิ่งในโลกจะถูกแรงโน้มถ่วงดูดไปรวมกันที่กึ่งกลางของจานโลก ของที่อยู่ริมจานโลกจะตกลงในทิศทางด้านข้างแทนแนวดิ่ง ไม่มีภาพเมืองแนวห้อยหัวเพราะกล้องซูมไม่ถึง สาเหตุที่ไม่มีภาพถ่ายจากอวกาศแสดงภาพบ้านเมืองกลับหัวในพื้นที่ที่อยู่ทางด้านใต้ของโลก เนื่องจากไม่มีเลนส์ที่สามารถซูมได้ไกลพอที่จะมองเห็นวัตถุบนโลกจากอวกาศ ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่กล้องทั่วไปไม่สามารถถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ตรงเส้นขอบฟ้าจากเครื่องบินพาณิชย์ได้เช่นกัน […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ภาพผาน้ำแข็งยักษ์ล้อมโลกจากดาวเทียม Starlink จริงหรือ?

06 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการสนับสนุนทฤษฎีโลกแบนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่ามีการเผยแพร่ภาพถ่ายจากดาวเทียม Starlink จากบริษัท SpaceX ที่แสดงให้เป็นว่าทวีปต่าง ๆ ของโลกถูกห้อมล้อมด้วยน้ำทะเล และด้านนอกของมหาสมุทรคือกำแพงน้ำแข็งยักษ์ที่รู้จักในชื่อทวีปแอนตาร์กติกา และมีการแชร์คลิปวิดีโอที่อ้างว่า เป็นการสำรวจกำแพงน้ำแข็งยักษ์ที่อยู่ขอบโลก โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ที่มีเส้นรอบวงเกือบ 100,000 กิโลเมตร มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 200 ฟุต และเป็นพื้นที่ที่มีเรือรบของกองทัพเรือสหราชอาณาจักรลาดตระเวนเพื่อป้องกันการข้ามพ้นขอบโลกอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย บทสรุป : 1.ดาวเทียม Starlink อยู่สูงจากพื้นโลกแค่ 550 กิโลเมตร ไม่มีทางถ่ายภาพโลกได้ทั้งหมด ไม่ว่ากลมหรือแบน2.ผาน้ำแข็งยักษ์ในคลิปวิดีโอคือผาน้ำแข็งส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติกา FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อย่างไรก็ดี การตรวจสอบโดย Fact Checker พบความผิดปกติในข้ออ้างหลายประการ ภาพจากดาวเทียม Starlink ไม่สูงพอจะจับภาพโลกทั้งใบได้ วงโคจรของดาวเทียมแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามระดับความสูง ได้แก่ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: กำแพงน้ำแข็งยักษ์กั้นมหาสมุทรไม่ให้ไหลออกนอกโลก จริงหรือ?

05 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับทฤษฎีโลกแบนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าสัณฐานของโลกมีลักษณะแบน โดยมีน้ำทะเลล้อมรอบทวีปต่าง ๆ ที่อยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเล และสิ่งที่ล้อมรอบมหาสมุทรอีกทีก็คือกำแพงน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่รู้จักในชื่อทวีปแอนตาร์กติกา บทสรุป : 1.สิ่งที่ดึงน้ำในมหาสมุทรเอาไว้บนผิวโลก ก็คือแรงที่เรียกว่าแรงโน้มถ่วง (Gravity) ของโลกนั่นเอง2.แรงโน้มถ่วง ยังเป็นสาเหตุให้โลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม จากการดึงดูดสรรพสิ่งไปยังศูนย์กลางของโลก3.ระดับน้ำทะเลในแต่ละที่ของโลกยังมีความแตกต่างกันเพราะแรงโน้มถ่วงที่ต่างกันอีกด้วย FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อย่างไรก็ดี ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า สัณฐานของโลกไม่ได้มีรูปทรงแบนหรือมีลักษณะเป็นชามตามที่กล่าวอ้าง โดยสิ่งที่ดึงน้ำในมหาสมุทรเอาไว้บนผิวโลก ก็คือแรงที่เรียกว่าแรงโน้มถ่วง (Gravity) ของโลกนั่นเอง แรงโน้มถ่วง ยังเป็นสาเหตุให้โลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม จากการดึงดูดสรรพสิ่งไปยังศูนย์กลางของโลก นอกจากนี้ ไม่ใช่พื้นดินทุกส่วนบนโลกจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลตามที่กล่าวอ้าง ประเทศเนเธอร์แลนด์มีพื้นที่ 26% ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล โดยจุดต่ำที่สุดอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 7 เมตร ยิ่งไปกว่านั้น ระดับน้ำทะเลในแต่ละที่ของโลกยังมีความแตกต่างกันเพราะแรงโน้มถ่วงที่ต่างกันอีกด้วย ระดับน้ำทะเลแต่ละแห่งของโลกมีความแตกต่างกัน เพราะโลกไม่ได้มีสัณฐานเป็นทรงกลมสมบูรณ์ ความแตกต่างของพื้นผิวของโลกในแต่ละแห่ง ส่งผลให้แรงโน้มถ่วงของโลกที่ไม่เท่ากัน (Gravity […]

ชัวร์ก่อนแชร์: โลกแบนเพราะมองไม่เห็นส่วนโค้งของโลกจากที่สูง จริงหรือ?

03 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสนับสนุนทฤษฎีโลกแบนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าคลิปวิดีโอที่ถ่ายจากบอลลูนสูงกว่า 120,000 ฟุตหรือ 37 กิโลเมตร แสดงขอบฟ้าของโลกเป็นเส้นตรง แสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้วสัณฐานของโลกเป็นพื้นที่แบนราบ ไม่ใช่ทรงกลม พร้อมอ้างว่าหนึ่งในความพยายามปิดบังข้อเท็จจริงเรื่องโลกแบนคือการยุติการจำหน่ายกล้องถ่ายรูปของบริษัท Nikon รุ่น Coolpix P1000 เนื่องจากสามารถซูมภาพได้ไกลมาก ๆ อาจจะเปิดเผยเส้นขอบของโลกที่ถูกปกปิดเป็นความลับมานาน บทสรุป : 1.การจะสังเกตส่วนโค้งของโลกจำเป็นต้องอยู่สูงอย่างน้อย 1% ของรัศมีโลกที่ 63 กิโลเมตรหรือประมาณ 200,000 ฟุต2.ภาพจากสถานีอวกาศที่ความสูง 400 กิโลเมตร หรือ 1.3 ล้านฟุต เทียบเท่า 7% ของรัศมีโลก แสดงสัณฐานของโลกทรงกลมชัดเจน FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ส่วนโค้งของโลกสังเกตได้จากตำแหน่งที่สูงเพียงพอ โลกมีรัศมีเฉลี่ย 6,371 กิโลเมตร […]

สัญญาณชีวิตนอกโลกจากดาว Bennu

30 เมษายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล การศึกษาที่มาของดาวเคราะห์น้อย ประโยชน์ไม่ได้มีเพียงแค่การป้องกันการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติจากเหตุการณ์พุ่งชนครั้งใหญ่เท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การไขปริศนาครั้งใหญ่เกี่ยวกับคุณสมบัติของจักรวาลในยุคแรก และปัจจัยที่นำไปสู่การกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก Bennu ความเสี่ยงพุ่งชนโลกในศตวรรษหน้า ดาวเคราะห์น้อย Bennu ถูกค้นพบในปี 1999 ตั้งชื่อนกในเทพปกรณัมอียิปต์ ซึ่งเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ การก่อกำเนิด และการเกิดใหม่ Bennu เป็นดาวเคราะห์น้อยชนิด C-type (โครงสร้างหลักเป็นคาร์บอน) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 490 เมตร ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ประมาณ 1.19 ปี Bennu อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Apollo มีต้นกำเนิดจากแถบดาวเคราะห์น้อย (Asteroid Belt) ซึ่งอยู่ระหว่างวงโคจรดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี คาดว่าเริ่มโคจรมาใกล้โลกเมื่อ 1-2.5 ล้านปีที่แล้ว โอกาส Bennu เฉียดโลกในปี 2060/2135 คาดว่า ดาวเคราะห์น้อย Bennu จะโคจรมาใกล้โลกที่สุดในวันที่ 23 กันยายน 2060 โดยจะอยู่ห่างจากโลกประมาณ 750,000 […]

การพุ่งเฉียดโลกของดาว Apophis ในปี 2029

29 เมษายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล หนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่เคยได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสจะพุ่งชนโลกมากที่สุดได้แก่ Apophis ดาวเคราะห์น้อยที่นักดาราศาสตร์เคยเชื่อว่าจะพุ่งชนโลกในปี 2029 ทำสถิติเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกตามมาตรวัดความเสี่ยงของ Torino scale สูงที่สุดในระดับที่ 4 Apophis ถูกค้นพบในปี 2004 ตั้งชื่อในภาษากรีกตามเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายและความตายของอียิปต์ (Apep) Apophis เป็นดาวเคราะห์น้อยชนิด S-type (โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นซิลิกาหรือหิน) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 340 เมตร ความยาวสูงสุดประมาณ 450 เมตร มีรูปร่างคล้ายถั่วลิสง ความสูงเทียบเท่าตึกเอ็มไพร์สเตตในนิวยอร์ก Apophis อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten เดินทางด้วยความเร็ว 107,928 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 29.98 กิโลเมตรต่อวินาที การค้นพบดาวเคราะห์น้อย Apophis นับเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความแปลกใจให้กับวงการดาราศาสตร์โลก เพราะโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะโคจรมาใกล้โลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 800 ปี และโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะพุ่งชนโลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 80,000 […]

1 2 3 39