กระทรวงการต่างประเทศ 9 ต.ค.-โฆษก กต. แถลงคืบหน้าสถานการณ์ในอิสราเอล คนไทยเสียชีวิต 12 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน ขอกลับบ้าน 1,099 คน
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าเหตุความไม่สงบในตะวันออกกลาง ว่า เป็นสถานการณ์ที่กระทรวงการต่างประเทศได้รับการสั่งการจากนายกรัฐมนตรีให้แถลงข่าวเพื่อแจ้งสถานการณ์ให้ประชาชนทราบวันละ 2 ครั้ง ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ยังคงมีความรุนแรงและการโจมตีด้วยจรวด ที่เขตฉนวนกาซา ขณะที่ทางการอิสราเอลพยายามกระชับพื้นที่ ช่วยเหลือตัวประกัน ซึ่งพลเรือนอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน 100 คน เป็นชาวอิสราเอล ฝรั่งเศส เยอรมัน จอร์เจีย และไทย ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศให้อิสราเอลอยู่ในภาวะสงคราม เร่งอพยพพลเรือนใกล้เขตฉนวนกาซา ภายใน 20 ชั่วโมง
“รัฐบาลอิสราเอลแจ้งสถานการณ์ให้สถานทูตทราบ เพื่อลดความกังวล โดยท่าอากาศยานที่อิสราเอลยังคงเปิดตามปกติ และมีเที่ยวบินร้อยละ 50 แม้ว่าทางการไม่ได้แนะนำให้อพยพ แต่หากประเทศไหนต้องการจะอพยพ ให้ประสานงานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
นางกาญจนา กล่าวว่า ทางสถานทูตได้รับแจ้งจากนายจ้างเกี่ยวกับคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ว่า เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 8 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาล ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน และเสียชีวิต 12 คน เบื้องต้นการอพยพคนไทยในอิสราเอล ทางกองทัพเริ่มอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว โดยทางอิสราเอลขอให้สถานทูตช่วยแปลภาษา เพื่อแจ้งให้แรงงานไทยทราบ ส่วนการช่วยเหลือตัวประกันได้มีการประสานกับสถานทูตประเทศต่างๆ
“สำหรับการเตรียมการอพยพคนไทยกลับประเทศ ทางศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ได้เตรียมการให้เครื่องบินกองทัพไปอพยพเมื่อสถานการณ์พร้อม สัญญาณการส่งเครื่องบินไปขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้อพยพ สถานที่ที่จะไปรับ เรื่องเส้นทางการบิน ทางอิสราเอลพร้อมอำนวยความสะดวก ขณะที่ทางสถานทูตได้ให้แรงงานไทยกรอกแบบฟอร์มแสดงเจตจำนงเพื่อความสมัครใจ จากรายงานเมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 เวลา 21.00 น. มีแรงงานไทยจำนวน 1,099 คน แสดงความประสงค์จะกลับไทย ขณะที่อีก 22 คน ไม่ขอกลับ ทั้งนี้ จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในเวลา 13.00 น. วันนี้ (9 ต.ค.66) และจะแถลงข่าวในช่วงเย็นอีกครั้ง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย