กระบี่ 10 ก.ย. – “พิมพ์รพี” เผย “ชวน” ส่งหนังสือถึง ครอบครัว 3 เยาวชน จ.กระบี่ เหยื่อคลั่งหลอนยาบ้า เสียใจสุดซึ้ง สูญเสียอนาคตชาติ ชี้ทีมประชาธิปัตย์กระบี่ เสนอแนวทางเร่งกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ หลังพบระบาดหนัก เกิดเหตุลักขโมยมากขึ้น
ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ทำหนังสือถึงครอบครัวของเหยื่อชายหลอนยาบ้า ก่อเหตุสะเทือนขวัญยิงนักเรียนก ม.6 3 ศพ โดยในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงนำมาซึ่งความโศกเศร้า เสียใจของครอบครัวเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งความรู้สึกสะเทือนใจของประชาชนที่ได้รับทราบเหตุการณ์ด้วย จึงขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้กับครอบครัว พร้อมขอให้ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของนักเรียนทั้งสามคนสู่สุคติ โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ทั้งตน นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ และนายธนวัช ภูเก้าล้วน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่อง พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขี้น
“เราพบว่าลูกหลานเสพยาเสพติดมากขึ้น ก่อให้เกิดการลักเล็กขโมยน้อยในชุมชน เช่น การขโมยผลปาล์มซึ่งเกือบ 100% พบว่าเป็นคนที่ติดยาเสพติด ซึ่งทีมกระบี่พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า จังหวัดจำเป็นต้องยกเครื่องมาตรการการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติดให้มีความเข้มข้นมากกว่าที่เป็นอยู่ ชาวบ้านต้องกล้าที่จะแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ โดยไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลใด ๆ การบังคับใช้กฎหมายต้องเด็ดขาด จริงจัง ข้าราชการต้องออกมาทำงานร่วมกับผู้นำท้องถิ่น จับมือกับประชาชน เพื่อให้กระบี่ของเรากลับมาเป็น “เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” อีกครั้ง”
ดร.พิมพ์รพี กล่าวด้วยว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเด็ก ม.6 สามคน ทำให้ประเทศสูญเสียกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมือง คนหนึ่งเป็นนักกีฬาเปตอง อีกคนเป็นนักกีฬาฟุตบอล ส่วนน้องอีกคนสืบสานศิลปะพื้นบ้านมโนราห์ เป็นความสูญเสียที่ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะในพื้นที่ใดก็ตาม กฎหมายยาเสพติดที่ออกมาใหม่จำเป็นต้องกลับมาทบทวน เพราะการกำหนดปริมาณยาเสพติดไว้ว่า ยาบ้า 15 เม็ด หรือใช้น้ำหนักไม่เกิน 375 มิลลิกรัม เฮโรอีนไม่เกิน 300 มิลลิกรัม ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีในครอบครัวเพื่อเสพ ไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรง เข้ารับการบำบัดรักษาได้ กลายเป็นช่องโหว่ทำให้เกิดกองทัพมดจำหน่ายยาเสพติด โดยพกติดตัวคราวละน้อย ๆ เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมาย และทำให้ทั้งผู้ค้าและผู้เสพ ไม่มีความเกรงกลัว เนื่องจากไม่มีโทษทางอาญา หลักคิดที่ว่า ผู้เสพเป็นผู้ป่วย ไม่ใช่อาชญากร จำเป็นต้องมีการจัดลำดับแยกแยะให้ชัดเจน ไม่ใช่เหมารวม จนทำให้อาชญากรปะปนอยู่ในสังคมจนนำไปสู่การก่อเหตุสะเทือนขวัญ .-สำนักข่าวไทย