“ชวน” แนะรัฐบาลอยากให้คนไทยปรองดอง ต้องไม่เลือกปฏิบัติ

รัฐสภา 13 ก.ย.-“ชวน” แนะหากรัฐบาลอยากให้คนไทยปรองดอง ต้องไม่เลือกปฏิบัติ เตือนนายกฯ-รมต. บริหารราชการแผ่นดินตามการถวายสัตย์ฯ ซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศชาติ และรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ ไม่บริหารประเทศเพื่อประโยชน์พรรคการเมืองของตัวเอง

การประชุมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระกันอภิปรายนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยนายชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย อภิปรายวันนี้ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะพรรคฝ่ายค้านหรือรัฐบาลแต่ความจริงก็คือความจริง ซึ่งความจริงไม่สามารถเปลี่ยนไปตามฐานะ ดังนั้นข้อมูลที่จะอภิปรายปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งครั้งก่อนต้องการให้ระบาดบรรจุนโยบายเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้กำหนดไว้เลย และปัจจุบันได้บรรจุไว้แม้จะเป็นเพียงบรรทัดเดียว


โดยหยิบยกปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยถือหลักว่า ชีวิตมีค่ามากกว่าเงิน จะพรากนโยบายเศรษฐกิจ ขาดทุนกี่หมื่นกี่แสนล้านไม่เท่ากับชีวิตคน 7,500 คนที่เสียชีวิตไปจากความผิดพลาดนโยบายด้านความมั่นคง ซึ่งความสำเร็จที่จะแก้ไขปัญหาได้คือการต้องยอมรับความจริง ว่าสาเหตุทั้งหมดเกิดเกิดขึ้นจากอะไร เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2544 ซึ่งภาคใต้เป็นพื้นที่สำคัญดังนั้นต้องหาทางที่จะทำให้เกิดความสงบให้ได้

และอ้างอิงถึงคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ระบุถึงความสามัคคีปรองดอง ซึ่งเห็นว่าไม่มีใครไม่เห็นด้วย แต่จะเกิดความสามัคคีปรองดองได้ จะต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค อย่าเลือกปฏิบัติ ซึ่งได้แจ้งไว้ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา


“รัฐบาลลองทบทวนในช่วงที่ผ่านมาลองดูว่า อะไรที่ทำให้เกิดความขัดข้องหมองใจ ทำให้เกิดความขัดแย้งไม่ปรองดอง อันเกิดขึ้นจากความรู้สึกว่าไม่ได้รับการปฏิบัติโดยเสมอภาค” นายชวนกล่าว

นายชวนอภิปรายต่อ ถึงความสำเร็จของการทำตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงมา โดยอ้างอิง คำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ถึงการน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน รักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญทุกประการ

“ซื่อสัตย์สุจริตมีความหมายว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ มีข้าราชการนะจ๊ะหน่วยงาน กระทรวงทบวงกรม เป็นข้าราชการที่ไต่เต้ามา ต้องให้ให้เกียรติข้าราชการ ความซื่อสัตย์สุจริต ในการแต่งตั้งโดยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอาตำแหน่งมาเป็นราคา กระทรวงกรมนี้ราคาเท่านั้น ถ้าเราทำอย่างนี้ความซื่อสัตย์สุจริตก็เกิดไม่ได้ ฝากว่าความซื่อสัตย์สุจริตในฐานะนักการเมืองฝ่ายบริหารจะต้องปฏิบัติโดยหลักธรรมาภิบาลคือหลักคุณธรรมจริยธรรมที่ให้โอกาสคนเหล่านั้นขึ้นมาแสดงความสามารถไม่ใช่ด้วยราคา ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรักษาความซื่อสัตย์สุจริตได้ ก็จะได้คนไม่ดีเข้ามาทำงาน เราจะสำเร็จก็ต่อเมื่อมีคนช่วยงาน” นายชวนกล่าว


การปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แม้จะเป็นคำที่สั้น หากทำได้ไม่เพียงเพียงเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน แต่จะเป็นประโยชน์ต่อระบบการปกครองในระบบรัฐสภา ซึ่งในขณะนี้มีข้อหย่อนยานที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าระบบการปกครองไม่ได้ทำให้เกิดเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ กลายเป็นระบบเสมือนหนึ่งมือใครยาวสาวเอาสาวเอา ขอให้คณะรัฐมนตรีให้ความชัดเจนว่าการบริหารไม่ใช่เพื่อประโยชน์พรรคการเมืองของตัวท่าน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์เขตเลือกตั้งของท่าน แต่ต้องคิดถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน องค์กรองค์กรใดก็ตามที่เป็นเครื่องมือการบริหารประเทศจะต้องไม่รับใช้พรรคการเมือง ไม่รับใช้นักการเมือง ถ้าเป็นเช่นนี้ความเชื่อมั่นของระบบการปกครองจะมั่นคง และเห็นว่าการปกครองมีประสิทธิภาพ ใครที่คิดว่าระบบนี้อ่อนประสิทธิภาพ ต่างก็โทษระบบแต่แท้จริงแล้วอยู่ที่การปฏิบัติ

ส่วนการปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ รัฐรัฐบาลได้เขียนนโยบายถึงหลักนี้ทำไว้หลายช่วง แต่ต้องยอมรับความจริงว่าหลักนิติธรรมเป็นหัวใจของการปกครอง ปัญหาในภาคใต้ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นหากยึดหลักนิติธรรมตั้งแต่ต้น คือฝ่ายนิติบัญญัติออกกฏหมาย ฝ่ายบริหารดำเนินการบริหารตามกฏหมาย ฝ่ายตุลาการตัดสิน ปัญหาจะเกิด แต่บังเอิญในช่วงหนึ่งใช้ฝ่ายบริหารเป็นศาล

หากเราเชื่อมั่นในหลักนิติธรรม จะไม่มีสถานการณ์ใดที่เป็นพิษเป็นภัยต่อประเทศชาติบ้านเมือง ขอย้ำทั้งสามประการ โดยการปฏิญาณตนตามที่รัฐบาลได้กล่าวไป ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีการกล่าวปฏิญาณ แล้วเหตุใดยังมีการปัญหามีอันเป็นไปถูกดำเนินคดี และหนีคดี หรือถูกจำคุก คำตอบคือแม้ปฏิญาณไปแล้วแต่ไม่ปฏิบัติ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย