ชัวร์ก่อนแชร์: Sanewashing เมื่อสื่อพยายามใช้เหตุผลกับ โดนัลด์ ทรัมป์

19 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ในระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คำว่า Sanewashing ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในแวดวงสื่อสารมวลชนของสหรัฐฯ เมื่อสื่อหลายสำนักถูกวิจารณ์เรื่องการพาดหัวข่าวการหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทำให้ดูเป็นเหมือนเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ทั่วไป ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาในการหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ เต็มไปด้วยการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นจริง หรือสื่อความหมายไม่ตรงกับหัวข้อที่นำเสนอเลยก็ตาม จนคำว่า Sanewashing ถูกกล่าวถึงอย่างมากตลอดช่วงหลังของปี 2024 เป็นต้นมา

Sanewashing คือการลดทอนแง่มุมสุดโต่งของบุคคลหรือแนวคิดใด ๆ เพื่อให้ดูเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น


Poynter Institute องค์กรด้านสื่อมวลชนและการตรวจสอบข้อเท็จจริง นิยามความหมายของ Sanewashing ว่า เป็นการกระทำเพื่อปรับเปลี่ยนความเห็นที่รุนแรงและอุกอาจ ให้ดูเหมือนเป็นสิ่งปกติที่สังคมยอมรับได้

สถิติการโกหกของ โดนัลด์ ทรัมป์

ฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงของหนังสือพิมพ์ Washington Post พบว่า ในช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข้อมูลทำให้เข้าใจผิดรวมกันกว่า 30,573 ครั้ง หรือเฉลี่ย 21 ครั้งต่อวัน


หนังสือพิมพ์ Toronto Star ของประเทศแคนาดา พบว่าระหว่างปี 2017-2019 โดนัลด์ ทรัมป์ เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง 5,276 ครั้ง หรือหรือเฉลี่ย 6 ครั้งต่อวัน

นักวิเคราะห์ทางการเมืองและหน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ปริมาณข้อมูลเท็จที่เผยแพร่โดย โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ จนความต่อเนื่องในการพูดเรื่องไม่จริงของ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นจุดขายบนเส้นทางธุรกิจและการเมืองของเขาไปในที่สุด

ข้อกล่าวหาสื่ออเมริกันทำ Sanewashing ให้ โดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อเดือนกันยายน 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปแสดงวิสัยทัศน์แก่องค์กร Economic Club of New York หน่วยงานที่มีเป้าหมายส่งเสริมการศึกษางานด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองในนิวยอร์ก

ในช่วงหนึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคำถามถึงการใช้นโยบายทางกฎหมายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการดูแลเด็กเล็ก

แต่กลายเป็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการชี้แจงไปกับการพูดถึง กำแพงภาษี การขาดดุลการค้า และการฉ้อโกง ซึ่งไม่ตรงกับประเด็นที่ถูกถาม

แต่รายงานข่าวถึงเหตุการณ์ในวันนั้น สื่อหลายสำนักกลับพาดหัวข่าวให้เหมือนไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เช่น หนังสือพิมพ์ New York Times พาดหัวข่าวว่า Trump Calls for an Efficiency Commission, an Idea Pushed by Elon Musk และ สำนักข่าว AP ก็พาดหัวข่าวว่า Trump Suggests Tariffs Can Help Solve Rising Child Care Costs in a Major Economic Speech

สำนักข่าวต่าง ๆ ทั้ง MSNBC และ The Week วิจารณ์การพาดหัวข่าวเช่นนี้ โดยบอกว่าเป็นการ Sanewashing ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นความพยายามหาเหตุผลให้กับคำกล่าวอ้างที่ไม่มีเหตุผลใด ๆ

ไม่ต่างจากการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2024 ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกถามถึงปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย อดีตประธานาธิบดีได้ตอบว่า คนที่ก่อคดีอาชญากรรมเป็นเพราะมีพันธุกรรมที่ไม่ดี

ซึ่งหนังสือพิมพ์ New York Times พาดหัวข่าวประกอบรายงานดังกล่าวว่า In remarks about migrants, Donald Trump invoked his long-held fascination with genes and genetics ซึ่งเป็นการพาดหัวข่าวที่ถูกวิจารณ์เรื่อง Sanewashing อย่างแพร่หลาย

แอนดรูว์ เรฟกิน อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ New York Times วิจารณ์ว่าเป็นการพาดหัวข่าวที่เสียสติ (Headline Lunacy) ส่วน มาร์ค เจคอป อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Chicago Tribune เหน็บแนมว่า New York Times ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนความเห็นที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติ ให้กลายเป็นหัวข้อเกี่ยวกับพันธุกรรมของมนุษย์

เช่นเดียวเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะแต่งตั้งให้ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ มาทำหน้าที่สอบสวนที่มาของโรคเรื้อรังและโรคในเด็กที่พบมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้ง โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง โรคอ้วน ภาวะมีบุตรยาก และ โรคออทิสติก

อย่างไรก็ดี ในรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ New York Times กลับเลือกที่จะไม่เอ่ยถึงโรคออทิสติก

พาร์คเกอร์ มอลลี นักเขียนจากนิตยสารการเมือง The New Republic โต้แย้งว่า การเชื่อมโยงโรคออทิสติกกับโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ เป็นสิ่งที่ควรย้ำเตือนให้ผู้อ่านระมัดระวังในการรับสาร เนื่องจาก โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เผยแพร่ข่าวปลอมว่า โรคออทิสติกมีความสัมพันธ์กับการฉีดวัคซีน

พาร์คเกอร์ มอลลี มองว่า การตัดเนื้อหาเกี่ยวกับโรคออทิสติกออกไปจากรายงานข่าว เป็นเหมือนการทำให้นโยบายของผู้ที่สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด ฟังดูเหมือนนโยบายทางการเมืองทั่วไป

ปัจจัยที่ทำให้สื่อหันมา Sanewashing ให้ โดนัลด์ ทรัมป์

ไมเคิล โทมาสกี นักเขียนจากนิตยสารการเมือง The New Republic ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุว่า การที่สื่อหันมารายงานข่าวในเชิง Sanewashing ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการร่วมมือระหว่างบริษัทผู้ผลิตสื่อและอดีตผู้นำสหรัฐฯ แต่ปัจจัยน่าจะมาจากผู้สื่อข่าวการเมืองทุกวันนี้ อาจไม่คุ้นเคยกับสไตล์การหาเสียงด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยข้อโต้แย้งแบบ โดนัลด์ ทรัมป์ มาก่อน และเป็นความท้าทายของสื่อที่จะนำเสนอเนื้อหาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อย่างครบถ้วน ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลาของการออกอากาศ และข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์

หนังสือพิมพ์ New York Times วิเคราะห์ว่า ความไม่สอดคล้องในคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ค่อยถูกหยิบมาเป็นประเด็น เพราะผู้คนเริ่มเคยชินกับสไตล์การหาเสียงดังกล่าวไปแล้ว

ไบรอัน คลาส์ นักรัฐศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว AP ว่า การที่สื่อมวลชนเริ่มคุ้นชินในคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับนักการเมืองทั่วไป คือสิ่งที่เรียกว่า ความธรรมดาของความบ้า (Banality of Crazy)

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2024 หนังสือพิมพ์ New York Times เผยแพร่ผลสำรวจการแสดงความเห็นในที่สาธารณะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน

การวิเคราะห์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์พบว่า เมื่อเทียบกับ 9 ปีที่แล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ในปัจจุบันใช้เวลาในการพูดสุนทรพจน์นานขึ้น นำเสนอเนื้อหาสุดขั้วมากขึ้น มีเนื้อหาในแง่ลบถี่ขึ้น และใช้คำสบถบ่อยขึ้น และมีทักษะด้านการอธิบายเนื้อหาที่ซับซ้อนในระดับเด็กนักเรียนชั้นเกรด 4 ต่างจากสุนทรพจน์ในยุคแรกที่มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีอารมณ์ขันกว่านี้

วิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง

นิตยสาร Editor & Publisher แนะนำวิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง ด้วยวิธีที่เรียกว่า Truth Sandwich Technique ซึ่งเป็นการนำคำอธิบายที่ถูกต้อง มานำเสนอพร้อมกับความเห็นของนักการเมืองที่น่าสงสัย

หนึ่งในวิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมืองของ Poynter Institute องค์กรด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริง คือการนำสุนทรพจน์ของนักการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายมาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านได้เห็นไปพร้อม ๆ กัน

นิตยสารการเมือง The New Republic ย้ำว่า หน้าที่ของการป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง ไม่มีตกอยู่กับสื่อมวลชนเท่านั้น ผู้อ่านก็สามารถป้องกันการ Sanewashing นักการเมืองในสื่อต่าง ๆ ได้ ด้วยการค้นหาแหล่งที่มาของข้อมูลที่ถูกต้อง และสนับสนุนสำนักข่าวที่ให้ความสำคัญต่อความถูกต้องของรายงานข่าวมากกว่ายอดการรับชม หรือสื่อที่เน้นให้เกิดความสมดุลของรายงานข่าวมากกว่านำเสนอข้อเท็จจริง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/False_or_misleading_statements_by_Donald_Trump
https://en.wikipedia.org/wiki/Sanewashing

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย