ชัวร์ก่อนแชร์: Sanewashing เมื่อสื่อพยายามใช้เหตุผลกับ โดนัลด์ ทรัมป์

19 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ในระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คำว่า Sanewashing ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในแวดวงสื่อสารมวลชนของสหรัฐฯ เมื่อสื่อหลายสำนักถูกวิจารณ์เรื่องการพาดหัวข่าวการหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทำให้ดูเป็นเหมือนเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ทั่วไป ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาในการหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ เต็มไปด้วยการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นจริง หรือสื่อความหมายไม่ตรงกับหัวข้อที่นำเสนอเลยก็ตาม จนคำว่า Sanewashing ถูกกล่าวถึงอย่างมากตลอดช่วงหลังของปี 2024 เป็นต้นมา

Sanewashing คือการลดทอนแง่มุมสุดโต่งของบุคคลหรือแนวคิดใด ๆ เพื่อให้ดูเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น


Poynter Institute องค์กรด้านสื่อมวลชนและการตรวจสอบข้อเท็จจริง นิยามความหมายของ Sanewashing ว่า เป็นการกระทำเพื่อปรับเปลี่ยนความเห็นที่รุนแรงและอุกอาจ ให้ดูเหมือนเป็นสิ่งปกติที่สังคมยอมรับได้

สถิติการโกหกของ โดนัลด์ ทรัมป์

ฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงของหนังสือพิมพ์ Washington Post พบว่า ในช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข้อมูลทำให้เข้าใจผิดรวมกันกว่า 30,573 ครั้ง หรือเฉลี่ย 21 ครั้งต่อวัน


หนังสือพิมพ์ Toronto Star ของประเทศแคนาดา พบว่าระหว่างปี 2017-2019 โดนัลด์ ทรัมป์ เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง 5,276 ครั้ง หรือหรือเฉลี่ย 6 ครั้งต่อวัน

นักวิเคราะห์ทางการเมืองและหน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ปริมาณข้อมูลเท็จที่เผยแพร่โดย โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ จนความต่อเนื่องในการพูดเรื่องไม่จริงของ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นจุดขายบนเส้นทางธุรกิจและการเมืองของเขาไปในที่สุด

ข้อกล่าวหาสื่ออเมริกันทำ Sanewashing ให้ โดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อเดือนกันยายน 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปแสดงวิสัยทัศน์แก่องค์กร Economic Club of New York หน่วยงานที่มีเป้าหมายส่งเสริมการศึกษางานด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองในนิวยอร์ก

ในช่วงหนึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคำถามถึงการใช้นโยบายทางกฎหมายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการดูแลเด็กเล็ก

แต่กลายเป็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการชี้แจงไปกับการพูดถึง กำแพงภาษี การขาดดุลการค้า และการฉ้อโกง ซึ่งไม่ตรงกับประเด็นที่ถูกถาม

แต่รายงานข่าวถึงเหตุการณ์ในวันนั้น สื่อหลายสำนักกลับพาดหัวข่าวให้เหมือนไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เช่น หนังสือพิมพ์ New York Times พาดหัวข่าวว่า Trump Calls for an Efficiency Commission, an Idea Pushed by Elon Musk และ สำนักข่าว AP ก็พาดหัวข่าวว่า Trump Suggests Tariffs Can Help Solve Rising Child Care Costs in a Major Economic Speech

สำนักข่าวต่าง ๆ ทั้ง MSNBC และ The Week วิจารณ์การพาดหัวข่าวเช่นนี้ โดยบอกว่าเป็นการ Sanewashing ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นความพยายามหาเหตุผลให้กับคำกล่าวอ้างที่ไม่มีเหตุผลใด ๆ

ไม่ต่างจากการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2024 ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกถามถึงปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย อดีตประธานาธิบดีได้ตอบว่า คนที่ก่อคดีอาชญากรรมเป็นเพราะมีพันธุกรรมที่ไม่ดี

ซึ่งหนังสือพิมพ์ New York Times พาดหัวข่าวประกอบรายงานดังกล่าวว่า In remarks about migrants, Donald Trump invoked his long-held fascination with genes and genetics ซึ่งเป็นการพาดหัวข่าวที่ถูกวิจารณ์เรื่อง Sanewashing อย่างแพร่หลาย

แอนดรูว์ เรฟกิน อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ New York Times วิจารณ์ว่าเป็นการพาดหัวข่าวที่เสียสติ (Headline Lunacy) ส่วน มาร์ค เจคอป อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Chicago Tribune เหน็บแนมว่า New York Times ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนความเห็นที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติ ให้กลายเป็นหัวข้อเกี่ยวกับพันธุกรรมของมนุษย์

เช่นเดียวเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะแต่งตั้งให้ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ มาทำหน้าที่สอบสวนที่มาของโรคเรื้อรังและโรคในเด็กที่พบมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้ง โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง โรคอ้วน ภาวะมีบุตรยาก และ โรคออทิสติก

อย่างไรก็ดี ในรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ New York Times กลับเลือกที่จะไม่เอ่ยถึงโรคออทิสติก

พาร์คเกอร์ มอลลี นักเขียนจากนิตยสารการเมือง The New Republic โต้แย้งว่า การเชื่อมโยงโรคออทิสติกกับโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ เป็นสิ่งที่ควรย้ำเตือนให้ผู้อ่านระมัดระวังในการรับสาร เนื่องจาก โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เผยแพร่ข่าวปลอมว่า โรคออทิสติกมีความสัมพันธ์กับการฉีดวัคซีน

พาร์คเกอร์ มอลลี มองว่า การตัดเนื้อหาเกี่ยวกับโรคออทิสติกออกไปจากรายงานข่าว เป็นเหมือนการทำให้นโยบายของผู้ที่สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด ฟังดูเหมือนนโยบายทางการเมืองทั่วไป

ปัจจัยที่ทำให้สื่อหันมา Sanewashing ให้ โดนัลด์ ทรัมป์

ไมเคิล โทมาสกี นักเขียนจากนิตยสารการเมือง The New Republic ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุว่า การที่สื่อหันมารายงานข่าวในเชิง Sanewashing ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการร่วมมือระหว่างบริษัทผู้ผลิตสื่อและอดีตผู้นำสหรัฐฯ แต่ปัจจัยน่าจะมาจากผู้สื่อข่าวการเมืองทุกวันนี้ อาจไม่คุ้นเคยกับสไตล์การหาเสียงด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยข้อโต้แย้งแบบ โดนัลด์ ทรัมป์ มาก่อน และเป็นความท้าทายของสื่อที่จะนำเสนอเนื้อหาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อย่างครบถ้วน ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลาของการออกอากาศ และข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์

หนังสือพิมพ์ New York Times วิเคราะห์ว่า ความไม่สอดคล้องในคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ค่อยถูกหยิบมาเป็นประเด็น เพราะผู้คนเริ่มเคยชินกับสไตล์การหาเสียงดังกล่าวไปแล้ว

ไบรอัน คลาส์ นักรัฐศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว AP ว่า การที่สื่อมวลชนเริ่มคุ้นชินในคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับนักการเมืองทั่วไป คือสิ่งที่เรียกว่า ความธรรมดาของความบ้า (Banality of Crazy)

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2024 หนังสือพิมพ์ New York Times เผยแพร่ผลสำรวจการแสดงความเห็นในที่สาธารณะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน

การวิเคราะห์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์พบว่า เมื่อเทียบกับ 9 ปีที่แล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ในปัจจุบันใช้เวลาในการพูดสุนทรพจน์นานขึ้น นำเสนอเนื้อหาสุดขั้วมากขึ้น มีเนื้อหาในแง่ลบถี่ขึ้น และใช้คำสบถบ่อยขึ้น และมีทักษะด้านการอธิบายเนื้อหาที่ซับซ้อนในระดับเด็กนักเรียนชั้นเกรด 4 ต่างจากสุนทรพจน์ในยุคแรกที่มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีอารมณ์ขันกว่านี้

วิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง

นิตยสาร Editor & Publisher แนะนำวิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง ด้วยวิธีที่เรียกว่า Truth Sandwich Technique ซึ่งเป็นการนำคำอธิบายที่ถูกต้อง มานำเสนอพร้อมกับความเห็นของนักการเมืองที่น่าสงสัย

หนึ่งในวิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมืองของ Poynter Institute องค์กรด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริง คือการนำสุนทรพจน์ของนักการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายมาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านได้เห็นไปพร้อม ๆ กัน

นิตยสารการเมือง The New Republic ย้ำว่า หน้าที่ของการป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง ไม่มีตกอยู่กับสื่อมวลชนเท่านั้น ผู้อ่านก็สามารถป้องกันการ Sanewashing นักการเมืองในสื่อต่าง ๆ ได้ ด้วยการค้นหาแหล่งที่มาของข้อมูลที่ถูกต้อง และสนับสนุนสำนักข่าวที่ให้ความสำคัญต่อความถูกต้องของรายงานข่าวมากกว่ายอดการรับชม หรือสื่อที่เน้นให้เกิดความสมดุลของรายงานข่าวมากกว่านำเสนอข้อเท็จจริง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/False_or_misleading_statements_by_Donald_Trump
https://en.wikipedia.org/wiki/Sanewashing

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย