กรุงเทพฯ 24 ส.ค.-อธิบดีกรมชลประทาน เผยเดินหน้าช่วยเหลือภาคอีสาน ระดมติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อเร่งระบายน้ำแม่น้ำชีและมูลออกสู่แม่น้ำโขง ป้องกันน้ำล้นตลิ่ง พร้อมสูบระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่ ย้ำให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากจะยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ระหว่าง 24-26 ส.ค.นี้ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า สั่งการให้สำนักงานชลประทานในลุ่มน้ำชีและมูลเร่งป้องกันภาวะน้ำล้นตลิ่งเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง อีกทั้งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะทำให้ในช่วงวันที่ 24 – 26 ส.ค. 65 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในหลายพื้นที่
ปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำชีมีแนวโน้มสูงขึ้น ได้เร่งระบายโดยยกบานประตูระบายน้ำที่เขื่อนชนบท เขื่อนมหาสารคามเขื่อนวังยาง และเขื่อนร้อยเอ็ดทุกบาน พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 15 เครื่อง ที่เขื่อนร้อยเอ็ดจะติดตั้งเพิ่มอีก 15 เครื่อง รวมทั้งเตรียมแผนติดตั้งอีก 20 เครื่องบริเวณเขื่อนวังยางและสะพานบ้านโนนยาง อ.เสลภูมิเพิ่มเติมเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ลำน้ำชีสู่ลำน้ำมูลที่จะไหลออกแม่น้ำโขง นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำจุดเสี่ยงอีก 6 จุดพร้อมเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ประตูระบายน้ำ D8 (ห้วยพระคือ) อีก 3 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ให้เร็วขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนลำน้ำยังซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำชี น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมขังพื้นที่ลุ่มของอ.โพนทองและเสลภูมิ จ. ร้อยเอ็ด โครงการชลประทานร้อยเอ็ดเตรียมเครื่องสูบน้ำ 23 เครื่องเข้าช่วยสูงเร่งระบายน้ำออกจากในพื้นที่ พร้อมนำกระสอบทราย12,000 กระสอบวางเสริมป้องกันจุดเสี่ยงน้ำท่วมตลอดแนวพนังกั้นน้ำ
สำหรับน้ำจากแม่น้ำชีจะไหลมาบรรจบกับแม่น้ำมูลบริเวณอ. เมือง จ. อุบลราชธานี ก่อนถึงตัวเมือง ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขงเพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำจากแม่น้ำชีที่จะไหลลงมา โดยติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำน้ำมูล100 เครื่องบริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร เดินเครื่องแล้ว 40 เครื่อง จะเดินเครื่องได้ครบทั้งหมดในอีก 2 วันและมีแผนจะติดตั้งที่เขื่อนธาตุน้อยและเขื่อนยโสธรอีกเพิ่มอีกเพื่อเร่งผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้รวดเร็วขึ้น
ผลจากการเดินเครื่องผลักดันน้ำทำให้ระดับน้ำแม่น้ำมูลชะลอการเพิ่มขึ้น โดยเช้านี้ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M7 ในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานีสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้เพียง 1 เซนติเมตร อีกทั้งระดับน้ำแม่น้ำโขงเริ่มลดลง โดยเมื่อวานนี้ระดับต่ำกว่าวันก่อนหน้า 30 เซนติเมตร จึงอาศัยจังหวะนี้เร่งระบายน้ำแม่น้ำมูลออกแม่น้ำโขง ประกอบกับยกบานระบายน้ำของเขื่อนปากมูลที่อ. โขงเจียมทุกบานเพื่อให้น้ำไหลออกรวดเร็วและทำให้ลำน้ำสามารถรองรับน้ำที่จะไหลมาเพิ่มได้
นายประพิศกล่าวย้ำว่า กำชับให้โครงการชลประทานในลุ่มน้ำชีและมูลทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ ตลอดจนเร่งช่วยเหลือพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน.-สำนักข่าวไทย