ลอนดอน 22 พ.ค.- กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ชี้ว่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ควรอุดหนุนราคาอาหารและพลังงานให้แก่กลุ่มคนที่ยากจนที่สุดในสังคม ในยามที่คนทั่วโลกกำลังประสบปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น
นางคริสตาลีนา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ซึ่งเป็นชาวบัลแกเรีย ให้สัมภาษณ์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ว่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ควรช่วยเหลือประชาชนในลักษณะที่เจาะจง ด้วยการอุดหนุนด้านราคาให้แก่ประชาชนโดยตรง และจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขวิกฤตค่าครองชีพสูงในขณะนี้ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือคนยากจนข้นแค้นที่เดือดร้อนเพราะราคาอาหารและพลังงานแพงมาก อีกกลุ่มหนึ่งคือธุรกิจที่เดือดร้อนหนักที่สุดเพราะผลกระทบจากสงครามยูเครน หากรัฐบาลไม่ให้การสนับสนุนอย่างถูกต้อง การประท้วงที่เห็นในศรีลังกาอาจจะเกิดขึ้นซ้ำรอยในประเทศอื่น
นางกอร์เกียวา ชี้ว่า อาหารมีมากมาย แต่ไม่ถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียม วิธีแก้ไขคือ ปลูกให้มากขึ้นเท่าที่สามารถทำได้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้มากขึ้น เพราะนอกจากสงครามแล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็มีผล นอกจากนี้ยังต้องเปิดกว้างทางการค้า ไม่ควรมีประเทศใดมีอาหารเกินความต้องการแล้วสร้างอุปสรรคทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการส่งออกเพื่อแจกจ่ายไปยังประเทศอื่น
ส่วนเรื่องที่ธนาคารกลางหลายประเทศพากันขึ้นอัตราดอกเบี้ยหวังชะลอการขึ้นราคาสินค้านั้น กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟติงว่า ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้รัฐบาลที่กู้ยืมเงินในช่วงที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น รัฐบาลประเทศต่าง ๆ จะต้องรอบคอบอย่างยิ่งว่าจะใช้งบประมาณจำนวนใด และใช้ในเรื่องใด.-สำนักข่าวไทย