“ปูติน” ขู่ใช้ขีปนาวุธล้ำสมัยถล่มเคียฟ
มอสโก 29 พ.ย.- รัสเซียได้เร่งโจมตียูเครนขนานใหญ่ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มุ่งเน้นทำลายระบบไฟฟ้าและพลังงาน ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูตินประธานาธิบดีรัสเซียขู่ว่า จะโจมตีกรุงเคียฟครั้งใหญ่ด้วยขีปนาวุธล้ำสมัย นายปูตินกล่าวระหว่างการประชุมที่คาซัคสถานว่า เขาเตรียมโจมตีศูนย์กลางการบริหารของยูเครนในกรุงเคียฟด้วยขีปนาวุธรุ่นใหม่ชื่อ โอเรชนิก (Oreshnik) ที่เพิ่งนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อไม่วันที่ผ่านมา เป็นอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงและไม่สามารถยิงสกัดได้ด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศ ก่อนนั้นไม่กี่ชั่วโมงรัสเซียได้ยิงถล่มระบบไฟฟ้าทั่วยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนกว่า 200 ครั้งในหลายเมือง เป็นการโจมตีที่ใช้เวลานานถึง 9 ชั่วโมง เพื่อตอบโต้ที่ยูเครนได้ใช้อาวุธที่สหรัฐและอังกฤษมอบให้ไปโจมตีในดินแดนของรัสเซีย แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ผลกระทบร้ายแรงมากทำให้ประชาชนกว่าล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้เพื่อปรับอากาศในครัวเรือนท่ามกลางอากาศหนาวเย็นจัด นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครนกล่าวว่า รัสเซียโจมตีมุ่งเน้นระบบไฟฟ้าแล้วยังใช้ขีปนาวุธที่ติดหัวรบแบบลูกปรายกับพลเรือน เขากล่าวหานายปูตินว่า จากพฤติกรรมต่าง ๆ และการยกระดับการโจมตี แสดงให้เห็นว่านายปูตินไม่มีความตั้งใจที่จะยุติสงคราม และพยายามขัดขวางไม่ให้ใครมาสงบศึกด้วย ด้านนายโจ ไบเดนประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ประณามรัสเซียที่ได้โจมตียูเครนอย่างโหดร้ายด้วยขีปนาวุธและโดรน ทำให้ประชาชนชาวยูเครนต้องเดือดร้ายอย่างแสนสาหัส การกระทำเช่นนี้ย้ำถึงความจำเป็นต้องช่ววยเหลือยูเครนในการป้องกันตัวเอง เช่นที่กว่า 50 ประเทศได้มุ่งมั่นช่วยเหลือในขณะนี้.-812(814).-สำนักข่าวไทย