4 ก.ย.- ผบ.ทอ.บรรจุประจำการเครื่องบิน AT-6TH ครบ 8 ลำ เสริมเขี้ยวเล็บทัพอากาศไทย จ่อจัดหาเครื่องบินทดแทนปลดประจำการ เห็นด้วย หลัง มทภ.2 บอกเครื่องบินไม่ได้มีไว้โชว์แค่วันเด็ก ชี้หากเหนือท้องฟ้าเป็นของไทย ขอให้มั่นใจอุ่นใจ
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 68 ที่ฝูงบิน 411 กองบิน 41 พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงการบรรจุประจำการเครื่องบิน AT-6TH ในวันนี้ ว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันดีที่กองทัพอากาศได้ทำพิธีบรรจุประจำการเครื่องบิน AT-6TH จำนวน 8 ลำ ที่ซื้อจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในลักษณะคล้ายว่ามีข้อตกลงคุณธรรม ที่มีคณะกรรมการ ทำให้โครงการนี้เรารับประกันได้ว่านอกจากจะมีประโยชน์ด้านความมั่นคงแล้ว ยังมีความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นโครงการที่ตรวจสอบได้ ถือเป็นโครงการต้นแบบของกองทัพอากาศ และยังจะมีโครงการอื่นๆ อีกเกี่ยวกับข้อตกลงคุณธรรม
เมื่อถามว่า ก่อนที่จะเข้าประจำการนั้นได้มีการปฏิบัติภารกิจมาแล้วในเรื่องของภัยพิบัติภาคเหนือ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี ระบุว่า เครื่องบินมีการทยอยเข้ามาประจำการ ซึ่งเครื่องบินที่เข้ามาก่อนนั้นได้ทำการฝึกบินและเข้าไปปฏิบัติภารกิจตามขีดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาภัยพิบัติ การถ่ายภาพลงมาเพื่อให้ข้างล่างได้เห็นว่ามีพื้นที่ตรงไหนที่น้ำท่วมในภาคเหนือ หรือมีพื้นที่ไฟป่า ซึ่งเราสามารถติดกล้องขึ้นไปลาดตระเวนได้ และส่งข้อมูลดาวน์ชิ้งค์ลงมา
เมื่อถามอีกว่าในช่วงสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพอากาศมีปัญหาในเรื่องของภารกิจหรือไม่ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี กล่าวว่า เครื่องบินมีขีดความสามารถในการลาดตระเวน ถ่ายภาพ และส่งภาพมาให้กับภาคพื้นดินได้เห็นสภาวะและรับรู้ถึงสถานการณ์ในแบบเรียลไทม์ สถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกขีดความสามารถหนึ่งในขีดความสามารถของเครื่องบิน AT-6TH
ส่วนนอกเหนือจาก AT-6TH และเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่จัดซื้อแล้ว ในอนาคตกองทัพอากาศจะซื้อเครื่องบินรุ่นใดบ้าง พลอากาศเอก พันธ์ภักดี เผยว่า ปัจจุบันนี้เราได้รับการอนุมัติให้ตัดซื้อกริพเพนที่เป็นเครื่องบินโจมตีขับไล่ทดแทน ซึ่งถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีความสำคัญเพื่อทดแทนเครื่องบิน F-16 ฝูงบิน 102 ซึ่งในอนาคตจะมีการปลดประจำการเครื่องบินฝูง 403 กองบิน 4 ซี่งจะต้องมีความจำเป็นต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนมาอีก 1 ฝูง ส่วนเครื่องบินแบบอื่นๆ อาจเป็นเครื่องบินอาร์ลฟ่าเจ็ท F-5 ฝูงบิน 231 กองบิน 13 หรือฝูงบิน 211 กองบิน 21 ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและมีขีดความสามารถที่สูง และที่สำคัญคือมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกำลังพลกองทัพอากาศ และบริษัทอุตสาหกรรมการบินที่เป็นที่ซีเคียวริทีพาร์ทเนอร์ของกองทัพอากาศให้มีขีดความสามารถ พัฒนาต่อยอดไปได้
ส่วนฝูงบิน 231 กับ 211 ที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอุดรธานี ทางกองทัพอากาศกำลังพิจารณาดูว่าเราจะจัดหาเครื่องบินแบบอากาศยานไร้คนขับมาทดแทน หรือทบทวนเรื่องสมุดปกขาว เพราะมองว่าภัยคุกคามในอนาคต หากมีอากาศยานไร้คนขับติดอาวุธก็มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าของที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ จะทำให้เราสามารถตอบสนองภารกิจตอบโต้ทางภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจริงๆ การที่กองทัพอากาศได้มีภารกิจช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้กองทัพอากาศได้ทบทวนแนวทางการปฏิบัติความเหมาะสม ความพร้อมที่ลงตัวที่สุด เราไม่สามารถใช้งบประมาณจำนวนมากทีละเยอะๆ ได้ ซึ่งเราต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าที่สุด และที่สำคัญเรากำลังสร้างการร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับอุตสาหกรรมภายในประเทศอย่างยั่งยืน และปกติเป็นเรื่องของการพัฒนา เพราะถึงเวลานั้นเราต้องพึ่งพาตนเอง


สำหรับการสรุปผลการป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชาที่ผ่านมา ศักยภาพของกองทัพอากาศเป็นอย่างไรบ้างนั้น พลอากาศเอก พันธ์ภักดี ระบุว่า กองทัพอากาศทุกวันนี้เรามีการฝึกซ้อมและมีความพร้อมทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งเชื่อมั่นในขีดความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน รวมถึงนักบินทุกคนมีความรับผิดชอบในหน้าที่และมีความพร้อมปฏิบัติภารกิจ 24 ชั่วโมง ซึ่งตนอาจไม่ต้องพูดว่าผลการปฏิบัติเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าหลายคนคงรับทราบว่าความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศ กองทัพบก ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เชื่อว่ามีความสำเร็จอย่างสูงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเราสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามอีกว่านอกจากปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว AT-6TH มีขีดความสามารถนำไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาได้หรือไม่ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี เผยว่า ในส่วนของขีดความสามารถของเครื่องบินถือเป็นคุณลักษณะที่ทางทหารทุกคนทราบดี ในเรื่องของระยะทาง เรื่องของความเร็ว เรื่องของความแม่นยำ ความทันสมัย ความอ่อนตัวความสามารถเรามีสูงมาก ซึ่งเป็นคุณลักษณะของกำลังทางอากาศ
ส่วนที่มีกระแสในโซเชียลว่า AT-6TH เป็นการมาเสริมภารกิจของเครื่องบินกริพเพนและ F-16 ซึ่งอาจเป็นการใช้งบประมาณเยอะเกินไปนั้น พลอากาศเอก พันธ์ภักดี ระบุว่า ภารกิจเราแยกอย่างชัดเจน โดย AT-6TH จะอยู่ในพื้นที่จำกัดเฉพาะภารกิจนั้น โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด เส้นทางลำเลียงยาเสพติด การถ่ายภัยพิบัติน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือไฟป่า ต่อคุณลักษณะเด่นของ AT-6TH คือ มีความประหยัด เงียบ หากเราจะไปดูการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้วเอาเครื่องใหญ่ๆ ไปก็ไม่คุ้มค่า อาจเกิดเสียงดัง ซึ่งต้องใช้จุดอ่อน จุดแข็งที่เรามีอยู่ให้คุ้มค่ากับภารกิจอย่างเหมาะสม
ส่วนมองอย่างไรจากการที่แม่ทัพภาคที่ 2 ที่เคยพูดว่าเครื่องบินไม่ได้ซื้อไม่ได้ซื้อมาเพื่อการโชว์วันเด็ก พลอากาศเอก พันธ์ภักดี กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับแม่ทัพภาคที่ 2 เพียงแต่เรามียุทโธปกรณ์ สิ่งหนึ่งที่อยากทำให้เห็น คือ เราอยากให้ประชาชนเห็นศักยภาพขีดความสามารถ ว่าเราทำอะไรได้บ้าง สำคัญคือวันเด็กเราจะได้แสดงศักยภาพให้กับเด็กๆ และประชาชนได้เห็นว่าเหนือท้องฟ้าของประเทศเรายังมีเครื่องบินที่ดูแลปกป้องอธิปไตยอยู่ ในยามเกิดภัยสงครามเครื่องบินก็ยังมีขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ซึ่งเคยมีอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศท่านหนึ่งได้พูดไว้ว่าถ้าเกิดเสียงเครื่องบินที่อยู่บนท้องฟ้าเป็นเครื่องบินของเราขอให้อุ่นใจ มีวามมั่นใจ สบายใจ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่ใช่เครื่องบินของเราอันนี้เราก็จะต้องระมัดระวัง อาจจะเกิดความสูญเสียในอนาคตได้เยอะ -สำนักข่าวไทย