ไทยถูกปรับ Credit rating outlook ลงมาเป็นลบ กดดันเงินบาทอ่อนค่า

กรุงเทพฯ 25 ก.ย.-SCB FM ชี้ไทยถูกลดอันดับ Credit rating outlook จาก “Stable” เป็น “Negative” เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว -ฐานะการคลังของรัฐอ่อนแอ มองกรอบเงินบาทสิ้นปี 68 ที่ 31.00-32.00 บาท/ดอลลาร์

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส สายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB Financial Markets: SCB FM) เปิดเผยว่า หลัง Fitch Ratings ปรับลด Credit rating outlook ของประเทศไทยจาก “Stable” เป็น “Negative” เงินบาทปรับอ่อนค่าลง โดยอ่อนค่าเกือบ 20 สตางค์เมื่อเทียบกับระดับราคาเปิดของวัน อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทนี้ไม่ได้เป็นผลจาก Fitch Ratings อย่างเดียว แต่เป็นเพราะเลขส่งออกไทยเดือน ส.ค. ที่ออกมาในเวลาใกล้เคียงกันอ่อนแอกว่าคาดเช่นกัน จึงยิ่งซ้ำเติมมุมมองที่เศรษฐกิจไทยจะชะลอลงชัดเจนขึ้นในไตรมาสข้างหน้า สำหรับปัจจัยต่างประเทศก็กดดันให้บาทอ่อนค่าเช่นกัน เพราะดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมี Correction กลับไปแข็งค่าขึ้นหลังเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ยอดขายบ้านใหม่) ออกมาดีกว่าคาด และ Jerome Powell ยังไม่ให้สัญญาเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในระยะต่อไป จึงทำให้ US Treasury yields กลับมาสูงขึ้น สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ปรับสูงขึ้นเล็กน้อยราว 3-4 bps หลัง Fitch Ratings ปรับ Outlook ลง


Fitch Ratings กังวลเกี่ยวกับกันชนทางการคลัง (Fiscal buffer) และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลง โดยหนี้สาธารณะรวมอยู่ที่ 59.4% ต่อ GDP ในเดือนสิงหาคม 2025 ใกล้เคียงกับค่า Median ของกลุ่มประเทศที่มีอันดับ “BBB” ที่ 59.6% และเพิ่มขึ้นมากถึง 25 percentage points จากระดับ pre-Covid-19 อย่างไรก็ดี ไทยยังมีเสถียรภาพต่างประเทศที่แข็งแกร่ง และยังมีความสามารถในการจัดหาเงินทุนเพื่อชำระหนี้ภาครัฐได้ค่อนข้างดี จึงทำให้ไม่ถูกปรับลด Credit rating ลงจาก BBB+ โดยภาระดอกเบี้ยจากหนี้ต่างประเทศของไทยยังต่ำ คิดเป็น 0.7% ของรายได้จากต่างประเทศ ซึ่งต่ำกว่าค่า Median ของกลุ่มอันดับ “BBB” ที่อยู่ที่ 5.7% อีกทั้ง สถานะสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิของรัฐบาลไทยยังค่อนข้างสูง โดยคิดเป็น 47% ต่อ GDP ซึ่งสูงกว่าค่า Median ของกลุ่มอันดับ “BBB” ที่อยู่ที่ -2% อีกด้วย

ปัจจัยที่อาจนำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง คือ
1)เศรษฐกิจมหภาคที่มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในระยะปานกลาง เศรษฐกิจไทยไม่เพียงแค่โตต่ำในปีนี้ (คาด 1.8%) แต่ศักยภาพของเศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มลดลงด้วย ปัจจัยที่จะทำให้เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าโตต่ำคือ ภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอลงมากจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ การบริโภคเอกชนที่จะแย่ลงจากรายได้ครัวเรือนที่ต่ำและหนี้สูง รวมถึงการลงทุนเอกชนที่จะขยายตัวต่ำจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจโตแค่ราว 1.5% และ Potential growth ของไทยปรับลดลงด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือกังวล


2)ฐานะการคลังของภาครัฐอ่อนแอ ความสามารถในการรักษาสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในระยะปานกลาง ปรับลดลง และการขาดดุลงบประมาณที่ต่อเนื่อง โดยนายวชิรวัฒน์มองว่า เศรษฐกิจไทยที่ยังมีแนวโน้มชะลอลงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการคลังเข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งจะยิ่งทำให้ Fiscal space แย่ลง โดยภาครัฐเตรียมออกมาตรการการคลังเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของครัวเรือน อย่างไรก็ดี มาตรการจะทำให้ Fiscal space ปรับลดลง ซึ่ง Fitch Ratings ประเมินว่ารัฐจะขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นไปที่ 4.6% ต่อ GDP ในปีงบประมาณนี้ และ 4.3% ต่อ GDP ในปีงบประมาณหน้า นอกจากนี้ ภาครัฐยังไม่มีแนวนโยบายในการปรับลดการขาดดุลทางการคลังอย่างชัดเจน เพราะจำเป็นต้องใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่การจัดเก็บรายได้ภาครัฐเพิ่มขึ้นยังทำได้ยาก

หากไทยยังไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างและผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้นได้อย่างยั่งยืน ก็มีโอกาสถูกปรับลด Credit rating ลงได้ในท้ายที่สุด โดยหากดูสถิติในต่างประเทศพบว่า ประเทศที่ถูกปรับ Outlook มักจะถูกปรับ Rating ตามมาในระยะ 12-18 เดือนหลังจากนั้น ซึ่งไทยถูก Moody’s ปรับ Outlook เป็น Negative เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีโอกาสที่จะถูกปรับ Rating ลงในปีหน้า เพราะประเด็นที่บริษัท Credit rating (ทั้ง Fitch และ Moody’s) ปรับลด Outlook ของไทยลงมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างและระยะยาว ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการปรับแก้และทำได้ไม่ง่ายนัก อีกทั้ง การเมืองไทยยังมีความไม่แน่นอนสูง และคาดว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงต้นปีหน้า ทำให้การดำเนินนโยบายอาจไม่ต่อเนื่อง นโยบายการคลังอาจถูกมุ่งเน้นไปที่นโยบายระยะสั้นเป็นหลัก ซึ่งยังไม่สามารถแก้ปัญหาระยะยาวที่บริษัทจัดอันดับกังวลได้

อย่างไรก็ดี หากทางการไทยมีแผนงานในการปรับวินัยทางการคลัง (ทำ Fiscal consolidation) เพื่อให้ฐานะทางการคลังปรับดีขึ้น และมีการสื่อสารต่อสาธารณะได้อย่างชัดเจน ก็อาจทำให้ไทยยังไม่ถูกปรับ Credit rating ลงได้ โดยให้จับตาการทบทวน Credit rating ไทยของทาง Moody’s ในเดือน ตุลาคมนี้


สำหรับมุมมองเงินบาท อาจเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าได้หากไทยถูกปรับ Credit rating ลงจริง แต่คาดว่าผลกระทบต่อเงินบาทและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yields) จะไม่มากนัก เนื่องจาก 1) มองว่าปัจจัยที่อาจทำให้ถูกลด Rating ลงไม่ใช่ประเด็นใหม่ และตลาดรับรู้อยู่แล้ว และ 2) Rating ของไทยยังคงอยู่สูงกว่าระดับ Non-investment grade อยู่อีก 3 notches ดังนั้น หากถูกปรับ Rating ลงจริง ก็อาจไม่ส่งผลกระทบต่อหนี้และการระดมทุนมากนัก และเมื่อดูที่ปัจจัยอื่นประกอบ ทั้งเงินดอลลาร์ที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อได้อีกเล็กน้อย และราคาทองคำที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ประเมินว่าเงินบาทอาจอยู่ในกรอบ 31.00-32.00บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปลายปีนี้ แต่ในระยะสั้น บาทอาจยังอยู่ในกรอบ 31.85-32.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเร่งเทปูน 500 ลบ.ม. อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติม

กทม. 25 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ “เขตภัยพิบัติ” เป็นประกาศตามเหตุการณ์ ไม่ได้ระบุระยะทาง เร่งเทปูน 500 ลูกบาศก์เมตร อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติมจุดทรุด เตรียมกระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำรับมือทันที นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาว่า นายกฯ ได้ติดตามสั่งการทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และได้รับความร่วมมือร่วมใจที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงภาคส่วนเอกชนต่างๆ อีกด้วย ทำให้เหตุการณ์รอบนอกเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เหลือเพียงข้างในที่เป็นเรื่องเชิงเทคนิค นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ หลังเกิดเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน และไม่ได้สั่งให้เตรียมการต้อนรับแต่อย่างใด ท่านมาแบบตามสบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่ท่านนายกฯ ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยให้กำลังใจกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน นายชัชชาติ เปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการเทปูนลง 500 ลูกบาศก์เมตรไปในถนนทรุด แต่สิ่งที่ต้องมีการประเมินต่อคือ ปูนไหลลงไปในอุโมงค์เท่าไร เนื่องจากยังอุดกระสอบทรายได้ไม่เต็มที่ จึงมีปูนบางส่วนที่ไหลไปในอุโมงค์หรือสถานี อุปสรรคคือการเทปูนไปแล้วไม่ลงตรงจุด เนื่องจากปูนจะไหลไปในจุดที่ต่ำสุดเช่นเดียวกับการไหลของดิน […]

รฟม.-ผู้รับจ้าง เร่งแก้ไขถนนทรุด ยันเยียวยา ปชช.เต็มที่

กรุงเทพ 25 ก.ย. -รฟม.-ผู้รับจ้าง เร่งแก้ไขถนนทรุด หน้า รพ.วชิรพยาบาล คืนสภาพการจราจรภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที – พีแอล และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน PMCSC 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ร่วมแสดงเจตจำนงขออภัยประชาชนทุกท่านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นมา โดย รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา ยืนยันพร้อมรับผิดชอบ ดูแลแก้ไขปัญหาให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเยียวยาประชาชน ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างดีที่สุด โดย รฟม.ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะเร่งประชาสัมพันธ์ และลงพื้นที่ดูแลทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบทันที นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ รฟม. ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. เพื่อยืนยันความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง […]

สภาฯ เคาะวันแถลงนโยบายรัฐบาล 29-30 ก.ย.นี้

รัฐสภา 25 ก.ย.-สภาฯ เคาะวันแถลงนโยบายรัฐบาล 29-30 ก.ย.นี้ ฝ่ายค้านได้เวลา 15 ชั่วโมง “ปกรณ์วุฒิ” ลั่นแบ่งพอๆ กัน ปชน. 9 ชั่วโมง เพื่อไทย 6 ชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมร่วมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี สส. และ สว. พิจารณาแนวทางดำเนินการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนส่งถึงประธานรัฐสภา ว่า มีความพร้อมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ภายหลังประชุม ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบกำหนดวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ โดยจะเริ่มอภิปรายในเวลา 09.00 น. ทั้งสองวัน แต่วันที่สองจะให้จบการอภิปรายในเวลา 18.00 […]

ผบ.ตร.รอคณะกรรมการฯ พิจารณาเคาะ “ทุบหรือซ่อม” สน.สามเสน แห่งใหม่

25 ก.ย. – ผบ.ตร. รอคณะกรรมการฯ เคาะ ทุบหรือซ่อม สน.สามเสน แห่งใหม่ มูลค่า 40 ล้านบาท พบชาวบ้านแจ้งความแล้ว 11 คน จัดหาที่พักให้ข้าราชการตำรวจ 3 แห่ง เตรียมสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชา หากต้องกลับไปอยู่ที่เดิม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ พ.ต.อ.ชายวุธ ชายโอฬาร ผกก.สน.สามเสน เข้าร่วมประชุมที่ สน.สามเสน ชั่วคราว พร้อมทั้งไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจ สน.สามเสน ที่เข้ามาพักอาศัยในสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ในที่ประชุมมีวาระการประชุมทั้งหมด 3 เรื่อง คือ การดูแลเรื่องการจราจร การดูแลที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ สน.สามเสน ที่ได้รับผลกระทบ และเรื่องการสอบสวน ซึ่งจะร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องแรกเรื่องการดูแลสภาพจราจร ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องจัดหาที่พักให้กับข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบ […]