กรุงเทพฯ 25 ก.ย.-ก.ล.ต. เดินหน้า “TouristDigiPay” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาทสำหรับใช้จ่าย เริ่มเปิดรับสมัครผู้ประกอบธุรกิจเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้ คาดเริ่มให้บริการไตรมาส 4/2568
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เดินหน้าโครงการทดสอบการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเปลี่ยนเป็นเงินบาท เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ TouristDigiPay โดยออกหลักเกณฑ์รองรับและเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ประกอบธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) สมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2568
ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการเกี่ยวกับโครงการทดสอบ (sandbox) การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเปลี่ยนเป็นเงินบาท เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (TouristDigiPay) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำนวัตกรรมและสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ตลอดจนออกหลักเกณฑ์รองรับโครงการดังกล่าว และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาโดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป
หลักเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ TouristDigiPay มีดังนี้
(1)ผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งมีความพร้อมในการดำเนินการตามรูปแบบ ขอบเขต และหลักเกณฑ์ของโครงการ TouristDigiPay และมีการเชื่อมต่อกับผู้ประกอบธุรกิจ e-money เพื่อให้สามารถนำเงินบาทที่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ไปซื้อสินค้าหรือบริการผ่านการสแกน Thai QR code ทั่วประเทศ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ก่อนให้บริการ
(2)ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ สามารถให้บริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยและพำนักอยู่ในประเทศไทยชั่วคราว โดยต้องทำความรู้จักตัวตนของผู้ใช้บริการ (KYC/CDD) ตามเกณฑ์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลตามประเภทใบอนุญาตที่ได้รับ
(3)ผู้เข้าร่วมต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การรวบรวมและประเมินข้อมูลผู้ใช้บริการการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท การรายงานข้อมูลต่อ ก.ล.ต. และมีแผนรองรับการยุติการให้บริการ ตลอดจนแผนประเมินประสิทธิภาพการให้บริการ
ทั้งนี้ โครงการ TouristDigiPay เปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่สนใจสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2568 – วันที่ 26 ธันวาคม 2568 โดยสามารถดูรายละเอียดการขอรับความเห็นชอบได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/Shortcut/Touristdigipay
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. กล่าวถึง TouristDigiPay ว่า เป็นโครงการทดสอบ (Sandbox) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง โดย ก.ล.ต. สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเชื่อว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านการสแกน Thai QR Code ซึ่งจะส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ตลอดจนกระจายรายได้สู่ชุมชนและท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม.-516.-สำนักข่าวไทย