TNA News-Now-Next: ไทยกับการเป็นเจ้าภาพประชุมเศรษฐกิจระดับโลก

กรุงเทพฯ 30 ก.ค.- ในวันที่ 12-18 ตุลาคม 2569 ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพให้ประชาคมโลกได้เห็นอีกครั้ง ด้วยการเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) และธนาคารโลก (World Bank Group: WBG) หรือ IMF-WBG Annual Meetings ซึ่งเป็นเวทีการประชุมทางเศรษฐกิจสำคัญของโลก


รู้จักธนาคารโลกและ IMF

ธนาคารโลกและ IMFก่อตั้งขึ้นในปี 2487 (ค.ศ. 1944) โดยเป็นผลจากการประชุมที่เมืองเบรตตันวูดส์ของสหรัฐ (Bretton Woods Conference) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกที่ได้รับความเสียหายหนักจากสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งสองสถาบันนี้มีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการพัฒนา แต่มีหน้าที่และบทบาทที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน


ธนาคารโลกมุ่งเน้นการพัฒนาในระยะยาว

ธนาคารโลกมีบทบาทหลักในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและการลดความยากจนในประเทศกำลังพัฒนา ด้วยการให้เงินทุนสำหรับโครงการพัฒนา เช่น ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล และพลังงานสะอาด, การให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค เช่น คำปรึกษาทางเศรษฐกิจ การวางนโยบาย และการปฏิรูประบบราชการ, การวิจัยและเผยแพร่ข้อมูล เพื่อช่วยในการวางแผนพัฒนาอย่างมีข้อมูลรองรับ, การเสริมสร้างศักยภาพภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและให้บริการประชาชน

ในด้านการช่วยเหลือวิกฤตเศรษฐกิจ ธนาคารโลกมีบทบาทสำคัญในการช่วยบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจโลกมาโดยตลอด เช่น วิกฤตการเงินโลกปี 2008 ธนาคารโลกได้เพิ่มสินเชื่อฉุกเฉินอย่างมากและสนับสนุนโครงการคุ้มครองทางสังคม เพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ธนาคารโลกตอบสนองด้วยการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อจัดการด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ รวมถึงสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนและช่วยเหลือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


IMF มุ่งรักษาเสถียรภาพทางการเงินของโลก

IMF มีหน้าที่หลักในการดูแลเสถียรภาพทางการเงินระหว่างประเทศ, ส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงิน, รักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน, ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ประสบปัญหาด้านการเงินหรือดุลการชำระเงิน ด้วยการติดตามและวิเคราะห์เศรษฐกิจโลก พร้อมให้คำแนะนำเชิงนโยบายแก่ประเทศสมาชิก, การให้เงินกู้ฉุกเฉินและระยะสั้น สำหรับประเทศที่ประสบวิกฤตทางการเงิน และการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและอบรมบุคลากร เช่น ระบบภาษี การเงิน การจัดการงบประมาณภาครัฐ และการบริหารหนี้สาธารณะ

ประเทศไทยกับธนาคารโลก

ประเทศไทยเป็นสมาชิกของธนาคารโลกตั้งแต่ปี 2492 และได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาชนบท ระบบการศึกษา พลังงาน และคมนาคม ในช่วงหลังมานี้ บทบาทของธนาคารโลกในประเทศไทยได้เปลี่ยนจากการให้เงินกู้โดยตรงมาเป็นการให้คำปรึกษาและสนับสนุนเชิงวิชาการ เนื่องจากประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับสูงตั้งแต่ปี 2554

โครงการสำคัญที่ร่วมมือกับธนาคารโลก ได้แก่ การพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการปฏิรูปการศึกษา โครงการด้านพลังงานสะอาดและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เป้าหมายของกรอบความร่วมมือในการพัฒนาประเทศไทย คือ สนับสนุนให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นประเทศที่ใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเติบโตแบบมีส่วนร่วมและมีความยั่งยืน กรอบความร่วมมือนี้สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) โดยมุ่งเน้นที่การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญเพื่อลดความยากจนและกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง

ประเทศไทยกับ IMF

ประเทศไทยเป็นสมาชิก IMF ในปีเดียวกับที่เป็นสมาชิกธนาคารโลก และเข้าร่วมโครงการเงินกู้ Stand-by ที่ได้รับการสนับสนุนจาก IMF ในช่วงระหว่างปี 2521 ถึง 2529 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่เติบโต เงินเฟ้อสูง และขาดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น เหตุการณ์สำคัญที่สุดที่ไทยเกี่ยวข้องกับ IMF คือ วิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เมื่อค่าเงินบาทตกต่ำอย่างรุนแรง ระบบการเงินพังทลาย รัฐบาลไทยจึงขอรับความช่วยเหลือจาก IMF และได้รับแพ็คเกจเงินกู้มูลค่ากว่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 551,500 ล้านบาทในปัจจุบัน)

ปัจจุบัน ประเทศไทยไม่มีการกู้ยืมจาก IMF อีกต่อไป แต่ยังคงมีความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษาและการฝึกอบรมด้านเศรษฐกิจและการคลัง

ไทยกับการเป็นเจ้าภาพ IMF-WBG Annual Meetings ปี 2569

IMF และธนาคารโลกมีการประชุมประจำปีทุกเดือนตุลาคม โดยจะจัดที่สำนักงานใหญ่ของ IMF และธนาคารโลกที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน และตามพิธีปฏิบัติ ในปีที่ 3 จะเวียนจัดในประเทศสมาชิกที่ได้รับคัดเลือก เพื่อสะท้อนความเป็นสากลของทั้งสององค์กร และในการประชุมประจำปี 2566 ที่กรุงมาร์ราเกซของโมร็อกโก มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปี 2569 ตามที่ไทยเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือก

เหตุผลที่ไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ

ประเทศไทยผ่านเกณฑ์การพิจารณาที่ละเอียดและเข้มงวด ซึ่งครอบคลุมในหลายมิติเพื่อให้มั่นใจว่า ประเทศนั้น ๆ จะสามารถจัดการประชุมระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วย การมีห้องประชุมที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 3,500 คน การมีโรงแรมที่สามารถรองรับผู้เข้าพักอย่างน้อย 4,000 ห้อง การมีแผนจัดการการเดินทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 12,000 คน การอำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมืองและสนามบินนานาชาติที่รองรับเที่ยวบินจากทุกมุมโลก และการจัดการด้านอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพ เช่น อาหารเครื่องดื่ม การต้อนรับ การรักษาความปลอดภัย การจัดการกรณีฉุกเฉิน

ไทยเคยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกเมื่อ 34 ปีก่อน

ธนาคารโลกมีสมาชิก 189 ประเทศ ขณะที่ IMF มีสมาชิก 190 ประเทศ แต่มีเพียง 3 ประเทศที่ได้รับเกียรติให้จัดการประชุมประจำปีถึง 2 ครั้ง ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ทูร์เคียหรือตุรกี และไทย

ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปี 2534 เป็นการประชุมประจำปีครั้งที่ 46 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสร้างขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรีในปี 2532 เพื่อรองรับการประชุมระดับโลกดังกล่าว ศูนย์ประชุมแห่งนี้ได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดการประชุมระดับโลกนี้อีกครั้งในวันที่ 12-18 ตุลาคม 2569 ซึ่งจะเป็นการประชุมประจำปีครั้งที่ 81 ของ IMF และธนาคารโลก

การเตรียมพร้อมสู่การรายงานข่าวระดับโลก

ในขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ ในไทยที่เกี่ยวข้องกับการประชุมกำลังช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้ทราบถึงการประชุมครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย IMF ได้ร่วมกับรอยเตอร์ ซึ่งเป็นองค์กรสื่อระดับโลก จัดการอบรมผู้สื่อข่าวในหลายประเทศรวมทั้งไทย ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำงานของเสาหลักเศรษฐกิจโลกทั้ง 2 แห่งนี้

โดยในปีนี้ ผู้สื่อข่าวของฝ่ายข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย อสมทได้รับโอกาสให้เข้าร่วมในการฝึกอบรมสัมมนาที่กรุงนิวเดลีของอินเดียระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2568 และการฝึกอบรมสัมมนาที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 นับเป็นการปูทางที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้สื่อข่าวไทยในการเตรียมพร้อมสำหรับการรายงานข่าวการประชุมในฐานะประเทศเจ้าภาพ

เนื้อหาในการอบรมเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทและโครงสร้างของ IMF รวมถึงความท้าทายเฉพาะของการรายงานข่าวเศรษฐกิจที่ซับซ้อน ผู้เข้าร่วมอบรมยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทางการของ IMF ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้การเรียนรู้ตัวย่อและศัพท์เฉพาะทางด้านเศรษฐกิจและการเงินยังช่วยเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญทำให้สามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเข้าใจง่าย ความรู้และทักษะที่ได้รับจากการอบรมนี้จะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการประชุมระดับโลกได้อย่างมีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนต่อไป

Final Thoughts: เวทีแสดงศักยภาพและความภาคภูมิใจ

นับเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้ต้อนรับผู้ว่าการธนาคารกลาง, รัฐมนตรีคลัง, ผู้บริการสถาบันการเงินระดับโลก นักวิชาการ และสื่อมวลชนจากทั่วโลก การประชุมระดับโลกนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีหารือประเด็นเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพในฐานะศูนย์กลางการจัดประชุมนานาชาติ รวมถึงเผยแพร่ความงดงามทางวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว และโอกาสทางการค้าการลงทุนสู่สายตาประชาคมโลก การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในหลายมิติ.-814,819.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]

นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี ศาล รธน.นัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ส.ค.- นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี หลังไต่สวนคดีคลิปเสียงเสร็จ ประชาชนตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” ด้านศาล รธน. นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลและห้ามบิดเบือน ภายหลังการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลได้บันทึกเสียงและภาพการไต่สวนแล้ว และย้ำอีกครั้งว่า ห้ามผู้เข้าฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามมิให้บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ศาลได้สั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. จากเดิมให้ยื่น 27 ส.ค. ซึ่งหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจ และนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.30 น. นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 […]

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งคุมเข้ม หลังเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นราธิวาส 21 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.บาดเจ็บ 6 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 รุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งปิดช่องทางหลบหนี คุมเข้มแนวชายแดน ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 20.20 น. บริเวณหน้า จุดตรวจ/จุดสกัด ฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ม.1 บ้านโคกมะเฟือง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้รถยนต์ Toyota Yaris สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิด ขับเข้าพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณดังกล่าว ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฐานได้ยิงตอบโต้เพื่อสกัดกั้นเส้นทางของคนร้าย หลังเกิดเหตุ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยกำลังในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนสกัดกั้น ประสานทุกภาคส่วนร่วมปิดล้อมตรวจสอบเส้นทาง […]

รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา “ช่องอานม้า”

21 ส.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา ‘ช่องอานม้า’ เป็นบทเรียนของไทย ชี้ความเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ระยะยาว พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เล่าเกี่ยวกับพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว โดยช่องอานม้าเป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เป็นช่องทางธรรมชาติใช้ชักลากไม้นำเข้าจากกัมพูชา ห้วงสงครามกลางเมืองชาวกัมพูชาได้หนีภัยสู้รบเข้ามา ไทยได้เอื้อเฟื้อ ตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรม โดยมีหน่วยงานสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบ ได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศ แต่มีส่วนหนึ่งยังคงปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ยอมกลับ ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเรา ทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน ปี 2542 ไทยและกัมพูชา เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่ชุมชนเดิม แต่กัมพูชาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจาก 30 หลังเป็นกว่า 100 หลัง ขณะที่ตลาดฝั่งไทยกลับลึกเข้ามาจากแนวเขตแดน 300 เมตร ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราว จนเป็นแบบถาวรและขยายบ้านเรือน ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วง ผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศ รวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก […]