TNA News-Now-Next: ไทยกับการเป็นเจ้าภาพประชุมเศรษฐกิจระดับโลก

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.- ในวันที่ 12-18 ตุลาคม 2569 ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพให้ประชาคมโลกได้เห็นอีกครั้ง ด้วยการเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) และธนาคารโลก (World Bank Group: WBG) หรือ IMF-WBG Annual Meetings ซึ่งเป็นเวทีการประชุมทางเศรษฐกิจสำคัญของโลก


รู้จักธนาคารโลกและ IMF

ธนาคารโลกและ IMFก่อตั้งขึ้นในปี 2487 (ค.ศ. 1944) โดยเป็นผลจากการประชุมที่เมืองเบรตตันวูดส์ของสหรัฐ (Bretton Woods Conference) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกที่ได้รับความเสียหายหนักจากสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งสองสถาบันนี้มีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการพัฒนา แต่มีหน้าที่และบทบาทที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน


ธนาคารโลกมุ่งเน้นการพัฒนาในระยะยาว

ธนาคารโลกมีบทบาทหลักในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและการลดความยากจนในประเทศกำลังพัฒนา ด้วยการให้เงินทุนสำหรับโครงการพัฒนา เช่น ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล และพลังงานสะอาด, การให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค เช่น คำปรึกษาทางเศรษฐกิจ การวางนโยบาย และการปฏิรูประบบราชการ, การวิจัยและเผยแพร่ข้อมูล เพื่อช่วยในการวางแผนพัฒนาอย่างมีข้อมูลรองรับ, การเสริมสร้างศักยภาพภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและให้บริการประชาชน

ในด้านการช่วยเหลือวิกฤตเศรษฐกิจ ธนาคารโลกมีบทบาทสำคัญในการช่วยบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจโลกมาโดยตลอด เช่น วิกฤตการเงินโลกปี 2008 ธนาคารโลกได้เพิ่มสินเชื่อฉุกเฉินอย่างมากและสนับสนุนโครงการคุ้มครองทางสังคม เพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ธนาคารโลกตอบสนองด้วยการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อจัดการด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ รวมถึงสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนและช่วยเหลือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


IMF มุ่งรักษาเสถียรภาพทางการเงินของโลก

IMF มีหน้าที่หลักในการดูแลเสถียรภาพทางการเงินระหว่างประเทศ, ส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงิน, รักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน, ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ประสบปัญหาด้านการเงินหรือดุลการชำระเงิน ด้วยการติดตามและวิเคราะห์เศรษฐกิจโลก พร้อมให้คำแนะนำเชิงนโยบายแก่ประเทศสมาชิก, การให้เงินกู้ฉุกเฉินและระยะสั้น สำหรับประเทศที่ประสบวิกฤตทางการเงิน และการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและอบรมบุคลากร เช่น ระบบภาษี การเงิน การจัดการงบประมาณภาครัฐ และการบริหารหนี้สาธารณะ

ประเทศไทยกับธนาคารโลก

ประเทศไทยเป็นสมาชิกของธนาคารโลกตั้งแต่ปี 2492 และได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาชนบท ระบบการศึกษา พลังงาน และคมนาคม ในช่วงหลังมานี้ บทบาทของธนาคารโลกในประเทศไทยได้เปลี่ยนจากการให้เงินกู้โดยตรงมาเป็นการให้คำปรึกษาและสนับสนุนเชิงวิชาการ เนื่องจากประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับสูงตั้งแต่ปี 2554

โครงการสำคัญที่ร่วมมือกับธนาคารโลก ได้แก่ การพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการปฏิรูปการศึกษา โครงการด้านพลังงานสะอาดและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เป้าหมายของกรอบความร่วมมือในการพัฒนาประเทศไทย คือ สนับสนุนให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นประเทศที่ใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเติบโตแบบมีส่วนร่วมและมีความยั่งยืน กรอบความร่วมมือนี้สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) โดยมุ่งเน้นที่การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญเพื่อลดความยากจนและกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง

ประเทศไทยกับ IMF

ประเทศไทยเป็นสมาชิก IMF ในปีเดียวกับที่เป็นสมาชิกธนาคารโลก และเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนที่ได้รับการสนับสนุนจาก IMF ในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่เติบโต เงินเฟ้อสูง และขาดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น

เหตุการณ์สำคัญที่สุดที่ไทยเกี่ยวข้องกับ IMF คือ วิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เมื่อค่าเงินบาทตกต่ำอย่างรุนแรง ระบบการเงินพังทลาย รัฐบาลไทยจึงขอรับความช่วยเหลือจาก IMF และได้รับแพ็คเกจเงินกู้มูลค่ากว่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 551,500 ล้านบาทในปัจจุบัน)

ปัจจุบัน ประเทศไทยไม่มีการกู้ยืมจาก IMF อีกต่อไป แต่ยังคงมีความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษาและการฝึกอบรมด้านเศรษฐกิจและการคลัง

ไทยกับการเป็นเจ้าภาพ IMF-WBG Annual Meetings ปี 2569

IMF และธนาคารโลกมีการประชุมประจำปีทุกเดือนตุลาคม โดยจะจัดที่สำนักงานใหญ่ของ IMF และธนาคารโลกที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน และตามพิธีปฏิบัติ ในปีที่ 3 จะเวียนจัดในประเทศสมาชิกที่ได้รับคัดเลือก เพื่อสะท้อนความเป็นสากลของทั้งสององค์กร และในการประชุมประจำปี 2566 ที่กรุงมาร์ราเกซของโมร็อกโก มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปี 2569 ตามที่ไทยเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือก

เหตุผลที่ไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ

ประเทศไทยผ่านเกณฑ์การพิจารณาที่ละเอียดและเข้มงวด ซึ่งครอบคลุมในหลายมิติเพื่อให้มั่นใจว่า ประเทศนั้น ๆ จะสามารถจัดการประชุมระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วย การมีห้องประชุมที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 3,500 คน การมีโรงแรมที่สามารถรองรับผู้เข้าพักอย่างน้อย 4,000 ห้อง การมีแผนจัดการการเดินทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 12,000 คน การอำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมืองและสนามบินนานาชาติที่รองรับเที่ยวบินจากทุกมุมโลก และการจัดการด้านอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพ เช่น อาหารเครื่องดื่ม การต้อนรับ การรักษาความปลอดภัย การจัดการกรณีฉุกเฉิน

ไทยเคยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกเมื่อ 34 ปีก่อน

ธนาคารโลกมีสมาชิก 189 ประเทศ ขณะที่ IMF มีสมาชิก 190 ประเทศ แต่มีเพียง 3 ประเทศที่ได้รับเกียรติให้จัดการประชุมประจำปีถึง 2 ครั้ง ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ทูร์เคียหรือตุรกี และไทย

ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปี 2534 เป็นการประชุมประจำปีครั้งที่ 46 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ซึ่งสร้างขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรีในปี 2532 เพื่อรองรับการประชุมระดับโลกดังกล่าว ศูนย์ประชุมแห่งนี้ได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดการประชุมระดับโลกนี้อีกครั้งในวันที่ 12-18 ตุลาคม 2569 ซึ่งจะเป็นการประชุมประจำปีครั้งที่ 81 ของ IMF และธนาคารโลก

การเตรียมพร้อมสู่การรายงานข่าวระดับโลก

ในขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ ในไทยที่เกี่ยวข้องกับการประชุมกำลังช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้ทราบถึงการประชุมครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย IMF ได้ร่วมกับรอยเตอร์ ซึ่งเป็นองค์กรสื่อระดับโลก จัดการอบรมผู้สื่อข่าวในหลายประเทศรวมทั้งไทย ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำงานของเสาหลักเศรษฐกิจโลกทั้ง 2 แห่งนี้

โดยในปีนี้ ผู้สื่อข่าวของฝ่ายข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย อสมทได้รับโอกาสให้เข้าร่วมในการฝึกอบรมสัมมนาที่กรุงนิวเดลีของอินเดียระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2568 และการฝึกอบรมสัมมนาที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 นับเป็นการปูทางที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้สื่อข่าวไทยในการเตรียมพร้อมสำหรับการรายงานข่าวการประชุมในฐานะประเทศเจ้าภาพ

เนื้อหาในการอบรมเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทและโครงสร้างของ IMF รวมถึงความท้าทายเฉพาะของการรายงานข่าวเศรษฐกิจที่ซับซ้อน ผู้เข้าร่วมอบรมยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทางการของ IMF ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้การเรียนรู้ตัวย่อและศัพท์เฉพาะทางด้านเศรษฐกิจและการเงินยังช่วยเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญทำให้สามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเข้าใจง่าย ความรู้และทักษะที่ได้รับจากการอบรมนี้จะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการประชุมระดับโลกได้อย่างมีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนต่อไป

Final Thoughts: เวทีแสดงศักยภาพและความภาคภูมิใจ

นับเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้ต้อนรับผู้ว่าการธนาคารกลาง, รัฐมนตรีคลัง, ผู้บริการสถาบันการเงินระดับโลก นักวิชาการ และสื่อมวลชนจากทั่วโลก การประชุมระดับโลกนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีหารือประเด็นเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพในฐานะศูนย์กลางการจัดประชุมนานาชาติ รวมถึงเผยแพร่ความงดงามทางวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว และโอกาสทางการค้าการลงทุนสู่สายตาประชาคมโลก การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในหลายมิติ.-814,819.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยประเทศไทยฝนลดลง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง […]

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]