ซีเรีย 19 ธ.ค. – การอพยพชาวซีเรียที่ติดอยู่กลางการสู้รบในเมืองอเลปโปของซีเรียเริ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ยูเอ็นเตรียมลงมติส่งเจ้าหน้าที่เข้าสังเกตการณ์การอพยพพลเรือนซีเรียจากดินแดนยึดครองของกลุ่มกบฏ
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่าการอพยพชาวซีเรียออกจากพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏในเมืองอเลปโปของซีเรียเริ่มขึ้นอีกครั้ง หลังหยุดชะงักไปจากเหตุรถบัสที่ส่งไปอพยพผู้คนถูกเผาทำลาย อย่างไรก็ดี การอพยพพลเรือนชาวซีเรียครั้งใหม่สามารถนำชาวซีเรียออกจากดินแดนของกลุ่มกบฏได้แล้วอย่างน้อย 350 คน ทั้งหมดมุ่งหน้าสู่พื้นที่ของรัฐบาลซีเรีย และยังมีพลเรือนชาวซีเรียอีกหลายพันคนที่กำลังรอคอยการอพยพออกจากฝั่งตะวันออกของเมืองอเลปโป ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ ท่ามกลางความทุกข์ยากเพราะไม่มีทั้งอาหาร น้ำ และ การรักษาพยาบาล
ด้านองค์การยูนิเซฟ ระบุว่า พลเรือนส่วนหนึ่งที่รอคอยการอพยพ เป็นผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ และ เด็ก ซึ่งเด็กบางคนต้องถูกแยกจากพ่อแม่ ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเตรียมลงมติกันในวันนี้ต่อร่างญัตติที่จะส่งเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ เข้าสังเกตการณ์การอพยพพลเรือนชาวซีเรียออกจากดินแดนของกลุ่มกบฏ
ก่อนหน้านี้ รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรกับซีเรีย แสดงท่าทีคัดค้านร่างญัตติดังกล่าว แต่หลังจากได้ร่วมหารือกับสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง รัสเซียก็มีท่าทีอ่อนลงและเห็นด้วยกับร่างญัตติ ส่วนการลงมติจะมีขึ้นในเวลา 21.00 น. ของวันนี้ ทั้งนี้ การสู้รบ
ระหว่างรัฐบาลซีเรียและกลุ่มกบฏตลอดเกือบ 6 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 310,000 คน. – สำนักข่าวไทย