สหรัฐ 15 ส.ค.-ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงหนักกว่า 800 จุด มากที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว จากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามการค้าและภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐหลักๆ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ดาวโจนส์ เอสแอนด์พี และแนสแดค ต่างปิดตัวลดลงเฉลี่ยราว 3% ในการซื้อขายเมื่อวันพุธ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตัวลดลงถึง 800.49 จุด หรือ 3.05% ปิดที่ 25,479.42 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี ลดลง 85.72 จุด หรือ 2.93% ปิดที่ 2,840.6 จุด และดัชนีแนสแดค คอมโพสิต ลดลง 242.42 จุด หรือ 3.02% ปิดที่ 7,773.94 จุด ท่ามกลางแรงเทขายหุ้นอย่างหนัก จากความห่วงกังวลของกลุ่มนักลงทุนต่อสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ทั้งห่วงกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประกอบกับปัญหาความวุ่นวายประท้วงในฮ่องกงและสถานการณ์เบรกซิท ส่งผลกระทบต่อสภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก
โดยหลายฝ่ายชี้ให้เห็นถึงสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐกำลังถดถอย สอดคล้องกับข้อมูลของเยอรมนีและจีน ซึ่งต่างมองว่าธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยิ่งร่วมกันเติมเชื้อเพลิงให้มีการกักตุนสินทรัพย์ อาทิ ทองคำ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลงจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าและเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ลดลง 1.87 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์แหล่งทะเลเหนือ ปิดที่ 59.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.82 ดอลลาร์.-สำนักข่าวไทย