กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – เอสซีจี เผยเตรียมพร้อมรับมือเศรษฐกิจโลกผันผวนจากสงครามการค้า ภูมิรัฐศาสตร์ตึงเครียด และราคาพลังงานไม่แน่นอน ปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุน เสริมสินค้า Smart Value – HVA – Green พัฒนาระบบหุ่นยนต์และ AI บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 2.50 บาทต่อหุ้น มุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจีเผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและผลกระทบจากสงครามการค้า โดยมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 30,320 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 18,436 ล้านบาท บอร์ดบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 สิงหาคม 2568 และวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น 14 สิงหาคม 2568
ในปี 2568 โลกเผชิญภาวะสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและขยายผลกระทบไปหลายภูมิภาค ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายจุด เช่น ตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก ส่งผลให้ราคาพลังงานโลกผันผวนและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นกว่า 15% จากค่าเฉลี่ยปี 2567 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูงและทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
สำหรับเอสซีจีซึ่งมีธุรกิจหลักด้าน ปูนซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เคมิคอลส์ และบรรจุภัณฑ์ ได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นโดยตรง และความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย
เอสซีจีปรับกลยุทธ์รับมือความไม่แน่นอน ดังนี้
- ลดต้นทุนและยกระดับประสิทธิภาพ
- นำระบบ หุ่นยนต์ (Robotics) และ AI มาใช้ในกระบวนการผลิตและโลจิสติกส์ เช่น คลังสินค้าอัตโนมัติ (AS/RS Warehouse) เพื่อเพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการจัดเก็บและขนส่ง
- ปรับกระบวนการใช้พลังงาน ลดการใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้แม้ราคาพลังงานผันผวน
- พัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
- ขยายสัดส่วนสินค้ากลุ่ม Smart Value และ High Value Added Products (HVA) เช่น CHILLOX ระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง Celica Curve ระบบหลังคา WINDSOR สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ และฉนวนกันความร้อน SCG DECARB by SCG
- เพิ่มบริการดิจิทัล DRS (Digital Reliability Service Solutions) เพื่อรองรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการระบบดูแลเชิงป้องกันและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- มุ่งสู่ Green Transition
- เดินหน้าโครงการ NZAP: Net Zero Accelerator Program “Go Together” เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
- ลงทุนในโครงการวิจัยและพัฒนา ร่วมมือกับสถาบันวิจัยและสถาบันการเงินระดับโลก เช่น สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดัน Green Products เข้าสู่ตลาดโลก
แม้เผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และราคาพลังงานผันผวน เอสซีจียังคงเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุก ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยหุ่นยนต์และ AI ขยายสินค้า Smart Value – HVA – Green และลงทุนในนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนและความแข็งแกร่งในการแข่งขันในระยะยาว. -512 – สำนักข่าวไทย