มอสโก 15 ก.ย.- รัสเซียเตือนประเทศในยุโรปว่า จะไล่ล่าประเทศใดก็ตามที่หาทางยึดทรัพย์สินของรัสเซีย หลังจากมีข่าวว่าสหภาพยุโรป หรืออียู มีแนวคิดจะนำทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ไปช่วยเหลือยูเครน ขณะที่ผู้นำสหรัฐพร้อมลงโทษรัสเซีย แต่ยุโรปต้องเลิกซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ทั้งนี้หลังจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สหรัฐและพันธมิตรได้สั่งห้ามการทำธุรกรรมกับธนาคารกลางและกระทรวงการคลังรัสเซีย รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียมูลค่า 300,000-350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.57-11.16 ล้านล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาลยุโรป สหรัฐและอังกฤษที่รัสเซียฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในยุโรป
รอยเตอร์รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ต้องการให้อียูหาทางนำบัญชีเงินสดที่ผูกกับทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้มาใช้สนับสนุนยูเครน ขณะที่โพลิติโก (Politico) ที่เป็นเว็บไซต์ข่าวการเมืองรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณาแนวคิดเรื่องนำเงินสดที่รัสเซียฝากไว้กับธนาคารกลางยุโรป ซึ่งเป็นเงินจากพันธบัตรครบกำหนดที่รัสเซียถือครองไว้ มาใช้สนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟูยูเครน
นายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีและอดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ในแพลตฟอร์มเทเลแกรมในวันนี้ว่า หากเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริง รัสเซียจะไล่ล่าประเทศสมาชิกอียู ตลอดจนคนเลวทรามของอียูและประเทศสมาชิกที่พยายามยึดทรัพ์สินของรัสเซียไปจนกว่าจะสิ้นศตวรรษนี้ รัสเซียจะไล่ล่าในทุกหนทางและทุกศาลทั้งระดับประเทศระดับสากล รวมถึงหนทางนอกศาลด้วย
ที่ผ่านมารัสเซียระบุว่า การที่ชาติตะวันตกยึดทรัพย์สินของรัสเซียจะเท่ากับเป็นการขโมย อีกทั้งยังจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นในพันธบัตรและสกุลเงินของสหรัฐและยุโรปด้วย
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า เขายินดีที่ใช้มาตรการลงโทษรัสเซีย แต่ยุโรปจะต้องยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย นอกจากนี้ยุโรปจะต้องปรับเปลี่ยนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียให้มีความเข้มข้นเท่ากับมาตรการของเขาด้วย นายทรัมป์แสดงความมั่นใจด้วยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนจะพบกันในอีกไม่นาน แต่เขาต้องเข้าไปมีส่วนร่วมและจัดการทุกอย่างเพราะผู้นำทั้งสองคนเกลียดกันมากเหลือเกิน.-814.-สำนักข่าวไทย