กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำต่อเนื่อง 7 เดือน และต่ำสุดในรอบ 32 เดือน เหตุความไม่แน่นอนการเมือง หลัง “แพทองธาร” พ้นนายกฯ -สงครามการค้าภาษีสหรัฐฯ-ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนสิงหาคม 2568 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 7 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 32 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยให้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผลกระทบจากสงครามการค้าที่สหรัฐฯ ได้ลดอัตราภาษีนำเข้าลงจาก 36% มาเหลือ 19% และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และฟื้นตัวได้ช้า
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 44.1 48.3 และ 58.0 ตามลำดับ ปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนกรกฎาคม ที่อยู่ในระดับ 45.6 49.8 และ 59.6 ตามลำดับ การที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ และค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงจากสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวลดลงจากระดับ 51.7 เป็น 50.1 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 32 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมาการที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า และค่าครองชีพสูง ตลอดจนปัญหาสงครามการค้า ยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากระดับ 36.7 เป็น 36.0 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวลดลงจากระดับ 58.9 มาอยู่ที่ระดับ 58.1 การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แสดงว่า ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นของบริโภคลดลงได้ในอนาคตหากการเมืองไทยขาดเสถียรภาพและเศรษฐกิจไม่สามารถจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล.-516-สำนักข่าวไทย