“พิชัย” เร่งติดตามปัญหาการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – “พิชัย” เร่งติดตามปัญหาการค้าชายแดน ไทย-กัมพูชา เตรียมหารือกับหลายฝ่ายเพื่อออกมาตรการลดผลกระทบ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังนายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุม ครม. เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือในทุกมิติ โดยเฉพาะสถานการณ์โลกและชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีร่วมกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมหามาตรการรองรับในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด ในด้านปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเงิน การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน มอบหมายให้นายพิชัย รับผิดชอบ หารือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน กำหนดมาตรการและเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงปัญหาราคาพืชผลเกษตร เพื่อให้กระทรวงคลัง, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตรฯ เร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยเฉพาะราคาข้าว เพื่อสรุปมาตรการเยียวยาแก่เกษตรกร นายพิชัย กล่าวว่า เตรียมเรียกประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ราคาพืชผลเกษตรภายในประเทศตกต่ำ จึงต้องการให้กรมศุลกากรติดตามดูแลปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อหารือในรายละเอียด เตรียมออกมาตรการยกระดับราคาพืชผลเกษตร และลดผลกระทบกับประชาชนภายในสัปดาห์หน้า.-515- สำนักข่าวไทย

“อลงกต” ระบุจะแก้ปัญหาชายแดนได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้นำสั่งการ

รัฐสภา​ 24 มิ.ย.-“อลงกต” ชี้วุฒิสภาไม่สนหน้าตา ครม.ชุดใหม่ บอกเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ระบุจะแก้ปัญหาชายแดนได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้นำสั่งการ ย้ำควรปิดด่านถาวรแสดงความมีศักดิ์ศรี นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ว่า สิ่งที่ทาง สว.ไม่ได้ใส่ใจหรือสงสัยกับหน้าตาว่าจะหล่อไม่หล่อ สวยไม่สวย ดีหรือไม่ดี แต่สิ่งที่เราต้องใส่ใจคือการปล่อยคลิปเสียงนั้น ปล่อยมาเพื่ออะไร ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจากการปล่อยคลิปคือรัฐมนตรีลาออก เริ่มเกิดความไม่เสถียรภาพในระบบการเมืองไทยแล้ว นี่คือสิ่งที่พญาละแวกสอง ต้องการใช่หรือไม่ อีกทั้งเริ่มมีการออกมาข่มขู่แล้วว่าหากใครเห็นต่างจะมีการสั่งเก็บ “ถามว่า ครม.จะมีหน้าตาแบบไหนก็แล้วแต่ ทาง สว.คงไม่ได้สนใจภาพรวมตรงนั้น เพราะเราถือว่าเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องของเขา แต่สิ่งที่เรามีข้อสังเกตคือ นี่คือระเบิดที่เกิดขึ้นจากการปล่อยคลิประหว่างที่มีการเปลี่ยน ครม.” นายอลงกต กล่าว นายอลงกต กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเราควรตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชา ซึ่งนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตน และควรที่จะมีการปิดด่านถาวร ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา ตนได้มีการสอบถามกับทางด้านกระทรวงการคลัง ระหว่างการส่งสินค้าไปที่ประเทศกัมพูชากับสินค้าที่ประเทศกัมพูชาส่งกลับมามายังประเทศไทย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าของเราส่งไปมากกว่า โดยสิ่งที่เราส่งไปคือน้ำมันกับเครื่องอุปโภคบริโภค แต่สิ่งที่เขาส่งมาคือพวกมันสำปะหลัง มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท แต่มูลค่าที่เราส่งไปอยู่ที่ […]

ปธ.หอการค้า ห่วงเสถียรภาพการเมือง หวั่นเกิดความวุ่นวาย-กระทบเจรจาสหรัฐ

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- ประธานหอการค้า กังวลเสถียรภาพการเมือง หวั่นเกิดความวุ่นวาย-กระทบเจรจาสหรัฐ ไม่ขอวิเคราะห์การเมือง ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ชัดเจนโดยเร็วและเป็นที่ยอมรับ ชี้ไทยอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงพายุเศรษฐกิจ มองปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่กระทบมาก นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับสมเด็จฮุน เซน ประธานองคมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยยอมรับว่ากระทบต่อเสถียรภาพการเมืองของไทย ตนขอไม่วิเคราะห์การเมือง แต่สิ่งที่ภาคเอกชนมองคือต้องรีบจบโดยเร็วและให้มีความชัดเจนว่าจะออกมาในรูปแบบใด และเป็นที่ยอมรับได้ทั้งภาคประชาชนภาคสังคมและต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นปัญหาเรายังจะมีอยู่ ในขณะนี้มองว่าตามรัฐธรรมนูญมี 2 ทางเลือก หากนายกรัฐมนตรีลาออก ครม.จะไปทั้งชุด ปัญหาก็คือ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการเจรจากับสหรัฐ จะดำเนินการยังไง หากต้องรอจัดตั้งคณะเจรจาใหม่ก็ยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ ซึ่งหากจบช้ากว่าที่จะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 8 กรกฎาคมของสหรัฐ หรือวันที่ 9 กรกฎาคม ตามเวลาในประเทศไทย ก็จะเหนื่อย ส่วนอีกทางเลือก แต่ถ้าหากยุบสภา ครม. […]

ประชุม JBC

นายกฯ ขอบคุณทีมเจรจา JBC มั่นใจจะหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ชาติ

14 มิ.ย. – นายกฯ ติดตามการประชุม JBC ให้กำลังใจผู้แทนไทยและทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง แนะยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้าในการประชุมตลอดวันนี้ และได้รับรายงานความคืบหน้าประชุม JBC ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพที่กรุงพนมเปญ ฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย ร่วมหารือกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา   ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้เริ่มหารือกลุ่มเล็ก ก่อนประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นด้านเทคนิคที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC และคาดว่าจะมีการประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ (อาทิตย์ที่ 15 มิ.ย.) ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า บรรยากาศในการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเชื่อว่าการพูดคุยกันจะลดความตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคตได้ กลไก JBC ที่ผ่านมาสามารถแก้ไขปัญหาระหว่างกันได้อย่างดี […]

จากด่านสู่ดุลอำนาจ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ : ไทย-กัมพูชา กับบทบาทใหม่ของเศรษฐกิจ

ใครพึ่งใคร? – วิเคราะห์แรงกดดันเศรษฐกิจชายแดนต่อกัมพูชา หลังไทยจำกัดการข้ามแดน กรณีพิพาทบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แม้เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา กัมพูชาตัดสินใจถอยกำลังออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการยกระดับความขัดแย้ง กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ “ความมั่นคงยุคใหม่” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเป็นตัวตัดสิน หากแต่เกิดจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไทยเลือกใช้ แทนการเผชิญหน้าด้วยแสนยานุภาพ ผ่าน “มาตรการจำกัดการข้ามแดน” ที่บีบช่องทางการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะที่ด่านอรัญประเทศ – จุดยุทธศาสตร์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา จุดเปลี่ยน : เมื่อเศรษฐกิจกลายเป็นเครื่องมือของความมั่นคงไทยเลือกใช้ “แรงบีบเชิงเศรษฐกิจโดยสันติวิธี” เป็นกลยุทธ์กดดันคู่ขนานกับการเจรจา ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่ : ไทยยังส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมจะยกระดับมาตรการเหล่านี้ หากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด มาตรการซึ่งสำหรับกัมพูชาแล้ว เปรียบเสมือนกดทับ “เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ” ของฝั่งตะวันตกที่ต้องพึ่งพาการค้าข้ามแดนจากไทยเป็นหลัก ไทย : ผู้ถือ “กุญแจด่าน” และพลังการค้าข้ามพรมแดนข้อได้เปรียบของไทยยิ่งชัดเจน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการค้าข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ (เมษายน 2568) ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 64,612 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น […]

หอการค้าฯ ชี้ค้าขาย​ไทย-กัมพูชา ยังทำได้ แต่ต้องปรับโลจิสติกส์

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยการส่งออกไปกัมพูชายังดำเนินต่อเนื่อง แม้มีมาตรการจำกัดการข้ามแดน ผู้ประกอบการรายใหญ่ปรับตัวเกี่ยวกับ​การ​จัดระบบขนส่ง แต่รายย่อยแนวชายแดนเริ่มได้รับผลกระทบ นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไปกัมพูชาในปัจจุบันมีทั้งรูปแบบการส่งออกตามแนวชายแดนโดยตรง และการส่งข้ามแดนผ่านเวียดนามเพื่อส่งไปจีนและนำลงเรือส่งต่อยังประเทศปลายทาง โดยในภาพรวม ผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถปรับตารางการขนส่งให้สอดคล้องกับเวลาปิด–เปิดด่านได้ แม้จะมีต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นและเกิดความล่าช้าในบางช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายย่อยตามแนวชายแดนซึ่งพึ่งพาการค้าขายรายวันกับฝั่งกัมพูชาจะได้รับผลกระทบมากกว่า ทั้งจากการจำกัดระยะเวลาเปิดด่าน และความไม่แน่นอนที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนกัมพูชาในการเดินทางข้ามแดนมาซื้อสินค้า ทำให้ยอดจำหน่ายลดลง ทั้งนี้ นายจีรพันธ์ประเมินว่า ผลกระทบโดยรวมยังไม่ถึงขั้นรุนแรง และทั้งสองฝ่ายยังคงมีความพยายามเจรจาในระดับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่า​ ทั้งรัฐบาลไทยและกัมพูชาต่างไม่ต้องการให้สถานการณ์กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่. -512 – สำนักข่าวไทย

...