กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – รัฐมนตรีของรัฐบาลเนปาล กล่าววันอังคารว่า เนปาลได้ยกเลิกคำสั่งปิดกั้นการใช้งานโซเชียลมีเดียแล้ว หลังจากเกิดเหตุประท้วงรุนแรงที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย
นายปริถวี สุภา กูรุง (Prithvi Subba Gurung) โฆษกคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า รัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดียที่ประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บกว่า 100 ราย จากการประท้วงของกลุ่ม “เจนซี” (Gen Z) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ไม่พอใจคำสั่งห้ามใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายและยังต่อต้านการคอร์รัปชันที่แพร่หลายในประเทศด้วย
นายกูรุง กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งปิดกั้นโซเชียลมีเดียแล้ว ตอนนี้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว
ทางด้านนายเค.พี. ชาร์มา โอลิ (K.P. Sharma Oli) นายกรัฐมนตรีเนปาล กล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจาก “การแทรกซึมจากกลุ่มที่มีผลประโยชน์ส่วนตัวต่างๆ” เขากล่าวเสริมว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และให้การรักษาฟรีแก่ผู้บาดเจ็บ นายโอลิกล่าวในแถลงการณ์ช่วงดึกของวันจันทร์ว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุ ประเมินความเสียหาย และเสนอมาตรการภายใน 15 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ผู้จัดการประท้วง ซึ่งขยายวงกว้างไปยังเมืองอื่นๆ เรียกการประท้วงครั้งนี้ว่าเป็น “การชุมนุมของเจนซี” พวกเขากล่าวว่า การประท้วงสะท้อนถึงความไม่พอใจของคนหนุ่มสาวที่แพร่หลายต่อการที่รัฐบาลไม่ดำเนินการจัดการกับการคอร์รัปชันและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลได้ตัดสินใจปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลายแห่ง รวมถึงเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งจุดชนวนความโกรธในหมู่คนหนุ่มสาว เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การปิดกั้นดังกล่าวสำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาล ท่ามกลางการกวาดล้างบัญชีปลอม ข้อมูลบิดเบือน และคำพูดสร้างความเกลียดชัง.-813.-สำนักข่าวไทย