Jubilant demonstrators celebrate in Kathmandu as Nepal PM Oli quits

TNA News-Now-Next: เมื่อคน Gen Z เนปาลไม่ทน (อีกต่อไป)

10 ก.ย.- เมื่อรัฐบาลเนปาลสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภูเขาไฟแห่งความอัดอั้นของคนหนุ่มสาวที่ถูกสะสมมานาน โดยเฉพาะคนเจเนอเรชันซี (Gen Z) ก็ปะทุออกมาให้โลกได้เห็นในสัปดาห์นี้ จุดเริ่มต้นการประท้วงก่อนหน้าการประท้วง การติดแฮชแท็ก #NepoBaby หรือแปลได้ว่า “เด็กเส้น” กำลังเป็นกระแสในโลกสื่อสังคมออนไลน์ในเนปาล สะท้อนถึงกระแสความไม่พอใจของคนหนุ่มสาวที่เห็นบรรดาลูกหลานนักการเมืองอวดรายอวดการใช้ชีวิตหรูหรา ในขณะที่คนส่วนใหญ่ดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ มีคนตกงานมากถึง 12.6% ตามผลการสำรวจมาตรฐานการครองชีพปี 2565-2566 ที่รัฐบาลเนปาลเป็นผู้เผยแพร่ ฟางเส้นสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลเนเปาลสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ เช่น Facebook, X, WhatsApp และ Youtube เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 รัฐบาลให้เหตุผลว่า แพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการกับทางการ หลายคนมองว่า เป็นการคุกคามเสรีภาพในการแสดงออก ขณะที่บางคนห่วงว่า จะไม่สามารถติดต่อกับคนในครอบครัวที่ไปทำงานในต่างประเทศ ข้อมูลของหนังสือพิมพ์กาฐมาณฑุโพสต์ในเนปาลระบุว่า ช่วงปีงบประมาณ 2566-2567 มีชาวเนปาลออกไปหางานทำในต่างประเทศส่วนใหญ่ในอินเดีย มากกว่า 741,000 คน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศราว 29 ล้านคนในปัจจุบัน การประท้วงบานปลาย รัฐบาลยอมถอยการประท้วงปะทุขึ้นในวันจันทร์ที่ 8 กันยายน เริ่มจากกรุงกาฐมาณฑุ และลุกลามไปยังเมืองอื่น ๆ […]

ทหารคุมเข้มรัฐสภาเนปาล ลาดตระเวนเมืองหลวง

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – ทหารได้เข้าคุ้มกันรัฐสภาของเนปาลและลาดตระเวนตามท้องถนนที่อยู่ในสภาพเงียบสงบในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศในวันนี้ ท่ามกลางมาตรการเคอร์ฟิวที่บังคับใช้ หลังจากเกิดเหตุการประท้วงต่อต้านการทุจริตเป็นเวลา 2 วัน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต และส่งผลให้นายเคพี ชาร์มา โอลิ นายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่ง เหตุการณ์ความไม่สงบในเนปาลเริ่มต้นขึ้นจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้โซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะมีการยกเลิกคำสั่งในภายหลัง แต่ประชาชนก็ยังเดินหน้าประท้วงรุนแรง หลังจากมีผู้เสียชีวิตถึง 19 คนเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อควบคุมฝูงชน บริเวณรอบอาคารรัฐสภาเต็มไปด้วยซากรถที่ถูกเผาไหม้และเศษเหล็กที่บิดเบี้ยว หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกองทัพพยายามดับเพลิงที่โถงหลักของอาคารรัฐสภา ขณะที่ตัวอาคารด้านนอกมีร่องรอยการถูกไฟไหม้จากการที่ผู้ประท้วงจุดไฟเผาเมื่อวันอังคาร โฆษกสภาผู้แทนราษฎรกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์จากบ้านพักของเขาในกรุงกาฐมาณฑุว่า เขาได้รับแจ้งจากหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาว่าไฟได้ทำลายโครงสร้างทั้งหมด ไม่มีอะไรเหลือแล้ว อาคารของรัฐบาลอีกหลายแห่ง ตั้งแต่ศาลฎีกาไปจนถึงบ้านพักของรัฐมนตรี รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของนายโอลิ ก็ถูกจุดไฟเผาในระหว่างการประท้วงเมื่อวันอังคาร โดยความไม่สงบเพิ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีประกาศลาออก ทางด้านโฆษกสนามบินระบุว่า เที่ยวบินได้รับผลกระทบ โดยสนามบินหลักในกรุงกาฐมาณฑุต้องปิดให้บริการจนถึงเวลา 18.00 น. หรือ ตรงกับ 19.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย รถหุ้มเกราะเฝ้าระวังอยู่บนถนนที่เงียบสงบ ร้านค้าและตลาดปิดทำการ ขณะที่รถดับเพลิงก็กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆ และกระบวนการเคลียร์เส้นทางก็กำลังดำเนินอยู่เช่นกัน โฆษกกองทัพกล่าวว่า กองทัพกำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก่อน ทหารมุ่งมั่นที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเสริมว่าผู้ต้องขังได้จุดไฟเผาเรือนจำในกรุงกาฐมาณฑุก่อนที่กองทัพจะเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ สื่อท้องถิ่นยังรายงานด้วยว่ามีการเตรียมการให้เจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงได้เจรจากัน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด นายบาลาแรม เคซี […]

เนปาลยกเลิกคำสั่งปิดกั้นโซเชียลมีเดียแล้ว

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – รัฐมนตรีของรัฐบาลเนปาล กล่าววันอังคารว่า เนปาลได้ยกเลิกคำสั่งปิดกั้นการใช้งานโซเชียลมีเดียแล้ว หลังจากเกิดเหตุประท้วงรุนแรงที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย นายปริถวี สุภา กูรุง (Prithvi Subba Gurung) โฆษกคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า รัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดียที่ประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บกว่า 100 ราย จากการประท้วงของกลุ่ม “เจนซี” (Gen Z) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ไม่พอใจคำสั่งห้ามใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายและยังต่อต้านการคอร์รัปชันที่แพร่หลายในประเทศด้วย นายกูรุง กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งปิดกั้นโซเชียลมีเดียแล้ว ตอนนี้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว ทางด้านนายเค.พี. ชาร์มา โอลิ (K.P. Sharma Oli) นายกรัฐมนตรีเนปาล กล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจาก “การแทรกซึมจากกลุ่มที่มีผลประโยชน์ส่วนตัวต่างๆ” เขากล่าวเสริมว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และให้การรักษาฟรีแก่ผู้บาดเจ็บ นายโอลิกล่าวในแถลงการณ์ช่วงดึกของวันจันทร์ว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุ ประเมินความเสียหาย และเสนอมาตรการภายใน 15 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ผู้จัดการประท้วง ซึ่งขยายวงกว้างไปยังเมืองอื่นๆ […]

เตือนภัยแก๊งคอลฯ อ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อ-หลอกโอนเงิน

ทำเนียบ 18 ก.ค.- “จิรายุ” เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเพจแอบอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อฟรี หลอกโอนเงิน ย้ำอย่าติดต่อหรือโอนเงินผ่านทางออนไลน์เด็ดขาด มอบตำรวจสืบจับทันที นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านรายการ “เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า” ว่าปัจจุบันมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ปรับรูปแบบการหลอกลวงใหม่ โดยที่ผ่านมามักจะใช้ช่องทางผ่านการโทรศัพท์หาเหยื่อโดยอ้างว่าเป็นตำรวจบ้าง เป็น หน่วยงานราชการสำคัญบ้าง อ้างว่ามีไปรษณีย์ตกค้างบ้าง รวมทั้งการส่งเอกสารหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสังคมไทยเริ่มคุ้นชินแล้ว ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยปัจจุบันพบว่ามีการหลอกลวงโดยใช้แพลตฟอร์ม Facebook เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดเพจแอบอ้างเป็น มูลนิธิหรือสำนักงานทนายสาธารณะที่ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือ ศูนย์ช่วยเหลือการถูกหลอกลวง โดยปัจจุบันพบว่าในแพลตฟอร์ม Facebook มีชื่อว่า “สำนักงานช่วยเหลือเหยื่อคดีทางออนไลน์” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพื่อหลอกลวงซ้ำกับคนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ หรือกรณีที่ซื้อสินค้าไม่ได้รับสินค้าหรือสินค้าไม่ตรงปกเป็นจำนวนมาก “กระบวนการเหล่านี้จะเปิด Facebook แฟนเพจและขึ้นหน้าเพจว่าเป็นองค์การไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โดนหลอกลวงทางออนไลน์โดยจะให้แอด LINE กับทนายความ โดยระบุว่าจะมีทีมทนายให้การช่วยเหลือเมื่อขบวนการมิจฉาชีพได้รับเรื่องจากผู้ที่เป็นเหยื่อก็จะส่งต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่ปลอมตัวเป็นตำรวจจากหลายหน่วยงาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการส่งบัตรข้าราชการตำรวจให้เหยื่อได้หลงเชื่อ จากนั้นจะทำงานเป็นทีมเพื่อหลอกลวงให้ผู้ที่โชคร้ายอยู่แล้วต้องโชคร้ายซ้ำสอง โดยคณะทำงานได้ ตรวจสอบบัตรประจำตัวตำรวจดังกล่าวไม่ปรากฏว่าเป็นตำรวจจริง และได้ตรวจสอบพบว่าชื่อ ทนายความดังกล่าวไม่ปรากฏอยู่ในสารบบของทะเบียนทนายความ” จิรายุ กล่าว นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้คณะทำงานได้ส่งเรื่องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบและจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้อยู่ ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อในกระบวนการหลอกลวงรูปแบบต่าง […]

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : Over Sharing แชร์เวอร์ อาจเจอดี !

ปัจจุบัน ‘โซเชียลมีเดีย’ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร แบ่งปันข้อมูล และแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างไร้พรมแดน แต่อย่างไรก็ตาม หากเราใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างขาดความระมัดระวังหรือใช้มากเกินความพอดี ก็อาจส่งผลเสียตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเสพติดโซเชียล การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หรือการละเลยความสัมพันธ์และหน้าที่ในชีวิตจริง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตโดยรวม สิ่งนี้เรียกว่า Over Sharing หรือการโพสต์และแบ่งปันเรื่องส่วนตัวมากเกินไปบนโลกออนไลน์ ที่อาจส่งผลให้เกิด Online Grooming หรือการถูกล่อลวงโดยอาชญากรไซเบอร์ได้ง่ายขึ้น Over Sharing สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับหลัก ๆ คือ แม้การเผยแพร่ข้อมูลบนโลกออนไลน์จะเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่หากใช้อย่างไม่เหมาะสมหรือมากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ หรือ Online Grooming ที่มักจะจับเป้าหมายจากโพสต์ที่แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง ซึมเศร้า หรือเหงา โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน อาชญากรจะแสดงความสนใจ เห็นอกเห็นใจ และเสนอความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การให้เงินหรือสิ่งของ ซึ่งอาจกลายเป็นกับดักในการล่อลวงเพื่อการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในอนาคตได้ นอกจากนี้ การเผยแพร่ข้อมูลที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว และสุขภาพจิตได้ รวมถึงส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ เช่น ในระยะสั้น […]

student using smartphone

ท่าทีวัยรุ่นหลังออสเตรเลียห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียล

ซิดนีย์ 29 พ.ย.- วัยรุ่นในออสเตรเลียและอีกหลายประเทศแสดงความคิดเห็น หลังจากรัฐสภาออสเตรเลียผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย วุฒิสภาออสเตรเลียผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวเเมื่อเย็นวันที่ 28 พฤศจิกายน หลังจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีสายกลางซ้ายได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายค้านสายอนุรักษ์นิยม โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2568 และจะกลายเป็นมาตรฐานให้แก่ประเทศอื่นในการบังคับให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องมีความรับผิดชอบในการปกป้องเด็ก นักเรียนหญิงในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียที่มีอายุครบ 16 ปีได้ไม่กี่วันยอมรับว่า โซเชียลมีเดียมีส่วนทำให้เกิดประเด็นเรื่องการเปิดเผยร่างกายและการรังแกทางไซเบอร์ แต่การห้ามใช้โดยสิ้นเชิงอาจผลักให้เด็กหลุดไปยังพื้นที่อันตรายและไม่เปิดเผยในโลกอินเทอร์เน็ต และจะสร้างคนรุ่นที่สามารถใช้เทคโนโลยีหลบหลีกการปิดกั้นได้เก่งยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ใช่ผลที่ทางการต้องการ ส่วนที่เบลเยียมซึ่งห้ามเด็กใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในกรุงบรัสเซลส์และแคว้นที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เด็กหญิงวัย 12 ปี มองว่า กฎหมายของออสอตรเลียไม่สมเหตุสมผล ทางการควรแบนบัญชีต้นทางที่โพสต์สิ่งไม่เหมาะสม มากกว่าการห้ามเด็กใช้งานอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับเด็กชายวัย 12 ปีคนหนึ่งในสเปนที่ไม่เห็นด้วย เพราะคนจำนวนมากที่ทำอาชีพนี้อาจได้รับผลกระทบ ขณะที่เด็กในวัยของเขาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ด้านเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในคิวบาเผยว่า มีเพื่อนสนิทถูกข่มขู่ทางไซเบอร์มาโดยตลอด จึงอยากให้ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งคิวบาบังคับใช้กฎหมายแบบออสเตรเลีย.-814.-สำนักข่าวไทย

“อีลอน มัสก์” โวยร่าง กม. ออสเตรเลียห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย

นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นเจ้าของแพลนฟอร์มโซเชียลมีเดีย “เอ็กซ์” หรือ ทวิตเตอร์เดิม วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลออสเตรเลียที่เสนอร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี

person uses social media

ออสเตรเลียจะห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย

แคนเบอร์รา 7 พ.ย.- ออสเตรเลียเตรียมออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าถึงการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า รัฐบาลจะออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบตรวจสอบอายุผู้ใช้งานเพื่อเป็นตัวช่วยในการปิดกั้นเด็กจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คาดว่ากฎหมายนี้น่าจะมีผลบังคับใช้ได้เร็วที่สุดในราวปลายปีหน้า ผู้นำออสเตรเลียให้เหตุผลว่า ปัจจุบันโซเชียลมีเดียกำลังส่งผลร้ายต่อเด็ก ๆ  โดยอ้างว่าการใช้งานโซเชียลมีเดียที่มากเกินไปในเด็กมีความเสี่ยงทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยเฉพาะความเสี่ยงในเด็กผู้หญิงที่อาจถูกล่อลวงให้เปิดเผยภาพของร่างกายที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้เด็กๆ ยังอาจเจอปัญหาการถูกบุลลี่จากโซเชียลมีเดียอีกด้วย รัฐบาลออสเตรเลียจะนำเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อรัฐสภาในปีนี้ ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบก็จะมีผลบังคับใช้ในอีก 12 เดือนหลังจากรัฐสภาให้สัตยาบันรับรองแล้ว คาดว่าการออกหมายนี้น่าจะผ่านสภาได้ไม่ยาก เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านก็ให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน ขณะนี้มีหลายประเทศที่มีกฎหมายควบคุมการใช้งานโซเชียลมีเดียของเด็ก แต่ออสเตรเลียนั้นถือว่ามีความเข้มงวดมากเพราะจะไม่มีข้อยกเว้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของเด็ก แม้ว่าเด็กจะได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ผู้ปกครองก็ตาม โดยเมื่อปีที่แล้วฝรั่งเศสได้เสนอให้ห้ามเด็กต่ำกว่า 15 ปีใช้โซเชียลมีเดีย แต่มีข้อยกเว้นให้ใช้ได้ถ้าพ่อแม่อนุญาต ขณะที่สหรัฐใช้เวลานับสิบปีเรียกร้องให้บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มต่าง ๆ จัดหาเทคโนโลยีปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของเด็กอายุน้อยกว่า 13 ปีหากไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ ทำให้แพลตฟอร์มส่วนใหญ่ต้องปิดกั้นการเข้าถึงบริการของเด็กที่อายุน้อยกว่า 13 ปี.-816(814).-สำนักข่าวไทย  

ชัวร์ก่อนแชร์ Keyword : PATHOLOGICAL LIAR? — ติดโกหก มโนเก่ง จนเป็นโรค โดยไม่รู้ตัว !

30 มีนาคม 2567 สิ่งนี้…เป็นอาการผิดปกติทางจิต ที่ทำให้พูดโกหกเรื่อย ๆ จนคิดว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง และสิ่งนี้… ถูกกระตุ้นให้เกิดมากยิ่งขึ้นในปัจจุบันจากโลกโซเชียลมีเดีย คือคำว่าอะไร ? มาร่วมไขคำตอบของคำปริศนากัน ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ อาจารย์ ธาม เชื้อสถาปนศิริ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล PATHOLOGICAL LIAR คืออะไร ? คือ การหลอกตัวเอง สร้างเรื่องโกหกเพื่อเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง เพื่อสร้างความประทับใจต่อผู้อื่น สาเหตุของการหลอกตัวเอง มักจะเกิดจาก “ปม” ในอดีต พฤติกรรมนี้ทำไปเพื่อการปรับตัวและการอยู่รอดของมนุษย์ เมื่อทำบ่อย ๆ ก็จะเริ่มเกิดความเคยชิน และสิ่งที่อันตราย คือ จะเริ่มแยกไม่ออกว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง เรื่องไหนคือเรื่องโกหก ปัจจุบันโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้คนติดต่อสื่อสารกันง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เกิดการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นเช่นกัน หลายคนจึงสร้างตัวตนที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ตัวเองขาด ดังนั้นการโกหกอาจไม่ใช่วิธีที่ดีในการสร้างความสุข และยังอาจส่งผลกระทบกลับมาทำร้ายตัวเองได้ ดังนั้นการเปิดใจและยอมรับการเป็นตัวของตัวเอง ไม่หลอกลวง จะส่งผลในทางที่ดีกว่า สัมภาษณ์เมื่อ : 7 มีนาคม […]

สหรัฐสอบซีอีโอโซเชียลเรื่องเด็กตกเป็นเหยื่อทางเพศ

วอชิงตัน 1 ก.พ.- ผู้บริหารของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ ถูกเรียกตัวไปพบคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐที่กำลังตรวจสอบกรณีเด็กตกเป็นเหยื่อทางเพศ คณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐได้เรียกตัวนายมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของเมตา (Meta) เจ้าของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม พร้อมกับซีอีโอของติ๊กต๊อก (TikTok) สแนป (Snap) ดิสคอร์ด (Discord) และเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์เดิม เข้าให้ปากคำ ตอบคำถามเป็นเวลาหลายชั่วโมง มีการซักถามอย่างเผ็ดร้อนในประเด็นที่มีเยาวชนตกเป็นเหยื่อการหาประโยชน์ทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะมาตรการในการป้องกันเด็กๆ คณะกรรมาธิการได้นำวีดีโอที่เหยื่อของโลกออนไลน์ให้การเอาไว้ว่าตกเป็นเหยื่ออย่างไร  จากนั้นได้ตั้งคำถามเรื่องการป้องกันเยาวชนจากการล่วงละเมิดออนไลน์ บางครั้งยังได้กล่าวว่า ซีอีโอเหล่านี้มือเปื้อนเลือด เพราะโซเชียลเป็นเหตุให้คนเสียชีวิต  ระหว่างนั้นบรรดาผู้ปกครองหลายสิบคนที่เข้าร่วมรับฟังได้แสดงอารมณ์ร่วมโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียงแสดงความไม่พอใจหรือปรบมือ นายโช ซื่อ ชิว ซีอีโอของติ๊กต๊อกได้กล่าวตอนหนึ่งว่า เขาเป็นพ่อลูก 3 ที่เข้าใจดีว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับผู้ปกครองทุกคน และยอมรับว่า ลูกของเขาเองไม่ได้ใช้ติ๊กต๊อก ขณะที่นายซัคเคอร์เบิร์ก ซึ่งขึ้นให้การในรัฐสภาเป็นครั้งที่ 8 แล้ว ถูกตั้งคำถามมากที่สุด เช่น เหตุใดจึงมีคำเตือนผู้ใช้ว่า อาจได้เห็นเนื้อหาเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศ แต่กลับไม่กำจัดออกไปจากสื่อเลย ช่วงหนึ่งเขาได้หันไปหาครอบครัวของเหยื่อ และกล่าวขอโทษกับสิ่งเลวร้ายที่พวกเขาต้องประสบ ไม่มีใครควรได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องทนทุกข์ ส่วนที่ด้านนอกอาคาร บรรดาผู้ปกครองได้ร่วมกันประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ออกกฎหมายเพื่อให้บริษัทเหล่านี้รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น  เช่น […]

อินโดนีเซียสั่งห้ามซื้อ-ขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย

อินโดนีเซียสั่งห้ามการซื้อ-ขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ในขณะที่รัฐบาลมีเป้าหมายในการควบคุมการซื้อ-ขายโดยตรงของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เนื่องจากส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กจำนวนหลายล้านบริษัท

1 2 3 6
...