กาฐมาณฑุ 17 ก.ย. – การท่องเที่ยวในเนปาลได้รับผลกระทบจากการประท้วงนองเลือดต่อต้านรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยอดจองห้องพักและโรงแรมหายไปกว่าครึ่งทั้งที่อยู่ในช่วงไฮซีซั่น
แม้ผู้คนในกรุงกาฐมาณฑุ จะเริ่มออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติอีกครั้งตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังผ่านพ้นเหตุการณ์ประท้วงนองเลือดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ภาพรวมบรรยากาศในเมืองหลวงของเนปาลก็ยังถือว่าค่อนข้างเงียบเหงา ขณะที่ยังสามารถพบเห็นร่องรอยความเสียหายของอาคารและยวดยานจำนวนมากที่ถูกวางเพลิงเผาทำลายในช่วงการประท้วง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 72 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลซึ่งมีแกนนำเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม Gen Z ที่ไม่พอใจคำสั่งห้ามใช้งานแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ของรัฐบาล และขยายวงกลายเป็นการประท้วงต่อต้านการทุจริตและไม่พอใจกลุ่มอภิสิทธิ์ชนรวมถึงความไม่เท่าเทียมทางสังคม เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเนปาล โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากการประท้วงเกิดขึ้นในช่วงไฮซีซั่นของเนปาล ทำให้ในช่วงนี้แทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรุงกาญมาณฑุ ขณะที่ยอดจองห้องพักตามโรงแรมต่างๆ หายไปกว่า 30-50 % ในเดือนนี้ ส่วนของเดือนหน้าถูกยกเลิกทั้งหมด โรงแรมหลายแห่งได้รับความเสียหายจากการประท้วง การท่องเที่ยวแบบเดินป่าปีนเขาก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้บริการลดลง 30% ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มักจะเที่ยวชมกรุงกาฐมาณฑุก่อนจะเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ แต่เมื่อการประท้วงในเมืองหลวงเนปาลรุนแรง ทำให้หลายประเทศออกคำเตือนห้ามเดินทางมายังกรุงกาฐมาณฑุเนื่องจากความไม่ปลอดภัย
ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นอุตสากรรมหลักที่สร้างรายได้และเม็ดเงินต่อเนปาลมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 8% ของจีดีพีทั้งประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการหวังว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเยือนเนปาลอีกครั้ง หลังจากการประท้วงยุติลงและสถานการณ์ทั่วไปในตอนนี้เริ่มกลับมาเป็นปกติ.-815.-สำนักข่าวไทย