ดัชนีความเชื่อมั่น

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นการค้าชายแดนและค้าผ่านแดนของไทย ค่าดัชนีปัจจุบันยังไม่ถึงค่ากลาง ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจ แต่ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า มีสัญญาณดีขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค พ.ย.67 ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ชี้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนตุลาคม ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม และเริ่มเห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วยผ่อนคลายให้สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับสู่เกณฑ์ร้อนแรงอย่างมาก สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากเงินทุนไหลเข้าและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยฉุดคือความขัดแย้งระหว่างประเทศและความไม่แน่นอนทางการเมือง

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ส.ค.67 อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน กังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ไม่ชัดเจน ม.หอการค้าไทย คาดหากดิจิทัลวอลเล็ต ทันไตรมาส 4/67 หนุนเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.6-2.8%

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ส.ค.67 ปรับลงสู่เกณฑ์ “ซบเซา” นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ปัจจัยฉุดคือความขัดแย้งระหว่างประเทศ และนโยบายเฟด

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.67 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ยังความกังวลการเมือง เศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพสูง ความกังวลสงครามต่างประเทศ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยต่อเสียงสะท้อนภาคเอกชนทุกภาคกังวลใจเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก แนะภาครัฐเร่งหามาตรการดูแลหนี้ครัวเรือน ค่าครองชีพแพง และการเข้าแหล่งเงินทุนเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ หวังเร่งเบิกจ่ายงบปี 67 และปี 68 รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ตจะดันความเชื่อมั่นกลับมาดีขึ้นได้ ขณะที่วันแม่ปีนี้ยอดใช้จ่ายไม่คึกคักกังวลหลายด้าน แต่ศูนย์พยากรณ์ฯประเมินเศรษฐกิจไทยทั้งปีโต 2.6-2.8%

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.67 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 กังวลการเมือง เศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวช้า แถมค่าครองชีพที่ยังสูง รวมถึงปัญหาสงครามต่างประเทศ ภาคเอกชนกังวลใจเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก แนะภาครัฐเร่งหามาตรการดูแลหนี้ครัวเรือน ค่าครองชีพแพง

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) 3 เดือนข้างหน้า “ทรงตัว” มองว่าการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนปัจจัยลบจะมาจากการคงอัตราดอกเบี้ยของ FED, เงินเฟ้อ และการไหลออกของเงินทุน