กาฐมาณฑุ 11 ก.ย.- โฆษกกองทัพเนปาลกล่าวว่า กองทัพจะกลับมาเจรจาอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้กับกลุ่มผู้ประท้วง “เจนซี” (Gen Z) เพื่อตัดสินใจเลือกผู้นำชั่วคราวคนใหม่ของประเทศ หลังจากเหตุประท้วงรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 ราย และส่งผลให้นายกรัฐมนตรีเคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่ง
โฆษกกองทัพเนปาลเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยอ้างถึงการหารือเรื่องผู้นำชั่วคราวคนใหม่ว่า การเจรจาเบื้องต้นกำลังดำเนินอยู่และจะดำเนินต่อไปในวันนี้ กองทัพกำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติอย่างช้าๆ
กระทรวงสาธารณสุขของเนปาลระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มขึ้นเป็น 30 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1,033 ราย
แถลงการณ์ของกองทัพระบุว่า คำสั่งห้ามชุมนุมจะยังคงมีผลบังคับใช้ในกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่ใกล้เคียงเกือบตลอดทั้งวัน ขณะที่โฆษกสนามบินกล่าวว่า เที่ยวบินระหว่างประเทศยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
การประท้วงครั้งนี้ถูกเรียกขานว่าเป็นการประท้วงเจนซี เนื่องจากผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่แสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลไม่สามารถต่อสู้กับการทุจริตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจได้
นายรามาน กุมาร การ์นา เลขาธิการสมาคมเนติบัณฑิตยสภาของศาลฎีกา ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงมาขอคำปรึกษา กล่าวว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้นางสุชีลา คาร์กี อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา มาเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ซึ่งมีรายงานข่าวว่า เธอตอบตกลงคำเชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลแล้ว
การประท้วงที่ทำให้สถานที่ของรัฐหลายแห่ง ตั้งแต่ศาลฎีกาไปจนถึงบ้านพักของรัฐมนตรี รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีโอลีถูกเผาไหม้ และการประท้วงได้สงบลงหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ลาออกนอกจากนี้ สถานประกอบการทางธุรกิจหลายแห่งก็ถูกจุดไฟเผาด้วย เช่น โรงแรมหลายแห่งในเมืองท่องเที่ยวโปขรา และโรงแรมฮิลตันในกรุงกาฐมาณฑุ.-813.-สำนักข่าวไทย