สธ.11 มี.ค.- ปลัด สธ.เผยสถานการณ์โควิด จ.สมุทรสาคร อยู่ในการควบคุม พบผู้ติดเชื้อลดลงเหลือ 30-50 รายต่อวัน เตรียมปิดโรงพยาบาลสนาม 7 แห่งใน 10 แห่ง รวมกว่า 2,100 เตียง ส่วนที่เหลือสำรองเผื่อฉุกเฉิน และจะปิดเพิ่มหากสถานการณ์ดีขึ้น
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการติดตามการบริหารจัดการและสถานการณ์โควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร ว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคใน จ.สมุทรสาคร มีแนวโน้มที่ดีขึ้น สามารถควบคุมได้ มาจากมาตรการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไป ทั้งการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก การเฝ้าระวังเชิงรุก มาตรการ Bubble and Seal ในโรงงานขนาดใหญ่ มีพนักงานรวม 50,474 คน พบการติดเชื้อร้อยละ 10 โดยได้นำผู้ติดเชื้อไปอยู่ในสถานที่กักกันจนปลอดเชื้อ และมีการตรวจหาภูมิคุ้มกันเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดเชื้อและมีภูมิคุ้มกันแล้ว
รวมถึงมาตรการ DMHT ได้แก่ เว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และการคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ ทำให้สามารถจำกัดการระบาดได้ ส่งผลให้ช่วงนี้พบผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ย 30-50 รายต่อวัน จึงเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ รวมถึงลดจำนวนเตียงในโรงพยาบาลสนาม จากเดิมต้องใช้ดูแลผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานต่างชาติ ปัจจุบันเริ่มว่างลงมาก มีการใช้งานจริง 120 เตียง ทำให้มีเตียงที่ไม่ได้ใช้งานเกินความจำเป็น จึงได้หารือกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในการวางแผนปิดโรงพยาบาลสนามจำนวน 7 แห่ง จำนวน 2,227 เตียง จากทั้งหมด 10 แห่ง รวม 4,127 เตียง เพื่อให้นำสถานที่ไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ตามปกติ ส่วนอีก 3 แห่ง รวม 1,900 เตียงสำรองไว้เผื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หากไม่มีความจำเป็นต่อการใช้งานจะมีการปิดเพิ่มซึ่งต้องดูตามสถานการณ์ต่อไป
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ในส่วนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จ.สมุทรสาคร ยังเป็นเป้าหมายสำคัญของประเทศที่จะได้รับวัคซีนในล็อตต่อๆ ไป เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ภาคเศรษฐกิจของจังหวัดกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว จากการที่ จ.สมุทรสาคร ได้รับวัคซีนจากซิโนแวคล็อตแรกจำนวน 70,000 โดส เพื่อฉีดให้ประชาชนเป้าหมาย 35,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ.-9 มี.ค.64) ฉีดไปแล้ว9,583 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 27.4 ซึ่งจะติดตามกลุ่มเป้าหมายให้มารับวัคซีนตามนัดหมายให้ครบ100% ภายใน 3 สัปดาห์ พร้อมวางแผนการฉีดวัคซีนและกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับล็อตต่อไปทั้งจาก แอสตราเซเนกา และจากซิโนแวค เพื่อให้มีการฉีดครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งจังหวัด จึงขอให้ประชาชนที่ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลให้มารับการฉีดวัคซีนตามวันและเวลาที่นัดหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย