กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.-เลขาสมช.ย้ำจำเป็นคงพรก.ฉุกเฉิน เนื่องจากคลายล็อกเฟส 5 กิจการเสี่ยงสูงต้องมีกฎหมายดูแล ยืนยันตั้งแต่เลิกเคอร์ฟิวส์ไม่มีการลิดรอนสิทธิ์ประชาชน หรือหากใครไม่เห็นด้วยอยากให้ใช้กฎหมายไหนที่ดีกว่าให้เสนอมา
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคนในข่าว ทาง Mcot FM 100.5 News Network ถึงการต่ออายุพรก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ในขณะที่กลุ่มและพรรคการเมืองเรียกร้องให้ยกเลิกเนื่องจากไม่พบเชื้อโควิดจากคนในประเทศว่า การไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศตลอดช่วงเวลา 30 กว่าวัน แสดงให้เห็นว่าพรก.ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายที่ใช้ควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นกฎหมายนี้จึงยังคงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้อยู่ เพราะในการประกาศกิจการผ่อนคลายเฟส 5 ประกอบด้วยสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด และโรงเรียน ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง จึงควรมีกฎหมายคอยกำกับดูแลไว้ และหากจะบอกว่ามีพรบ.ควบคุมโรคติดต่อมาดูแลแล้ว ถือว่าไม่เพียงพอ เพราะพรบ.โรคติดต่อเหมาะใช้ในการแก้ปัญหากรณีมีการแพรร่รระบาด แตกต่างจากพรก.ฉุกเฉิน ที่ใช้สำหรับการป้องกันด้วย
“กฎหมายโรคติดต่อให้เฉพาะเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขในการปฎิบัติงาน ซึ่งไม่เพียงพอ กับสถานการณ์อย่างที่เป็นอยู่ซึ่งต้องใช้ ตำรวจ และทหารเข้าไปร่วมด้วย หรือถ้ามีกฎหมายไหนที่ใช้ได้ดีกว่าพรก.ฉุกเฉิน ก็ขอให้บอกมาจะได้นำไปพิจารณาใช้ อยากบอกว่าอย่ารังเกียจรังงอนกับพรก.ฉุกเฉินนักเลย ตั้งแต่ยกเลิกเคอร์ฟิวส์ สำหรับประชาชนทั่วไป กฎหมายนี้ไม่ได้ไปริดรอนสิทธิเสรีภาพใครเลย เราไม่ได้ใช้ในเรื่องการเมือง จะเห็นจากวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมามีการชุมชุมเคลื่อนไหวการเมืองหลายพื้นที่ ก็ไม่ได้นำพรก.ฉุกเฉินไปจับกุมหรือควบคุมใคร ดังนั้นต้องถามว่าทำไมต้องไปกังวลกับกฎหมายฉบับนี้มากนัก เราต้องดูที่ผลลัพท์การจัดการโรค จะกลัวพรก.ฉุกเฉินหรือกลัวเชื้อโรคกันแน่”พล.อ.สมศักดิ์กล่าว.- สำนักข่าวไทย