วอชิงตัน 11 ก.ย. – ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวและนักวิจารณ์การเมืองฝ่ายขวาชาวอเมริกัน วัย 31 ปี และเป็นพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยิงเข้าที่คอจนเสียชีวิต เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระหว่างร่วมงานในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐยูทาห์ ซึ่งผู้ว่าการรัฐได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการลอบสังหารทางการเมือง
เหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้ผ่านไปแล้ว 6 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยต่อสาธารณะได้ โดยสื่อสหรัฐรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายว่ายังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย
ทางด้านนายคาช ปาเตล ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ กล่าวว่า มีการควบคุมตัวบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อเพื่อสอบปากคำ ก่อนจะปล่อยตัวไป เขาระบุว่าการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป

นายทรัมป์กล่าวในคลิปวิดีโอที่บันทึกในทำเนียบขาวและโพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลของเขา โดยให้คำมั่นว่ารัฐบาลของเขาจะตามล่าตัวผู้ต้องสงสัยให้ได้ นายทรัมป์ยังได้ประณามการลอบสังหารอันโหดเหี้ยมครั้งนี้ พร้อมยกย่องเคิร์กว่าเป็นผู้ที่มีศรัทธาอย่างแรงกล้า นอกจากนี้นายทรัมป์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ความแตกแยกทางการเมืองในประเทศที่เป็นเสมือนเชื้อเพลิงให้กับความรุนแรงในสหรัฐ นายทรัมป์ยังสั่งให้ลดธงชาติสหรัฐลงครึ่งเสาตามอาคารของรัฐบาลทั้งหมดจนถึงวันอาทิตย์ เพื่อไว้อาลัยแก่นายเคิร์ก
คลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือและเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต แสดงให้เห็นนายเคิร์กกำลังกล่าวปราศรัยต่อฝูงชนจำนวนมากที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ แวลลีย์ ในเมืองโอเร็ม รัฐยูทาห์ เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 23.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น เคิร์กเอามือไปแตะที่คอขณะที่ล้มลงจากเก้าอี้ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานต่างพากันวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยน่าจะยิงมาจากบนหลังคาในระยะไกลพอสมควร และเสริมว่ามีผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมครั้งนี้ประมาณ 3,000 คน
การสังหารครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ล่าสุดในเหตุการโจมตีบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายครั้งในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงความพยายามลอบสังหารนายทรัมป์ถึงสองครั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยเน้นย้ำถึงความรุนแรงทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
การปรากฏตัวของเคิร์กในวันพุธเป็นการเริ่มต้นของ “อเมริกัน คัมแบ็ก ทัวร์” (American Comeback Tour) ที่วางแผนไว้ 15 ครั้ง ตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยเขามักจะใช้เวทีเหล่านี้ ซึ่งมักจะดึงดูดนักศึกษาจำนวนมาก เพื่อเชิญชวนผู้เข้าร่วมให้ร่วมโต้วาทีสดกับเขา
เคิร์กและกลุ่มที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นที่ชื่อ “เทิร์นนิ่งพอยท์ ยูเอสเอ” (Turning Point USA) ซึ่งเป็นองค์กรเยาวชนสายอนุรักษ์นิยมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้คนรุ่นใหม่และผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่คนผิวขาวหันมาสนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
หลังจากชนะการเลือกตั้งและได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง นายทรัมป์ได้ให้เครดิตกับเคิร์กในการระดมผู้ลงคะแนนเสียงรุ่นใหม่และผู้ลงคะแนนเสียงที่เป็นคนผิวสีเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของเขา.-813.-สำนักข่าวไทย