ศาลปกครองรับคำร้องใหม่ขอคุ้มครองชั่วคราวแบน 2 สาร

กรุงเทพฯ  11 มิ.ย. – กลุ่มเกษตรกรยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางอีกครั้ง เพื่อให้เร่งรัดการพิจารณาและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส นำเสนอข้อมูลใหม่ทั้งความเดือดร้อนของเกษตรกรและผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจชาติ


นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า วันนี้ (11 มิ.ย.) ได้เดินทางไปยังศาลปกครองกลาง เพื่อยื่นคำร้องอีกครั้งให้ศาลเร่งรัดพิจารณาและมีคำสั่งคำร้องคุ้มครองชั่วคราวในการกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์จากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้แบนสารพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส โดยมีเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบไปร่วมแสดงออกถึงความทุกข์ร้อนบริเวณหน้าศาลปกครองกลาง คดีนี้ร่วมกับเกษตรกรอีก 10 คน ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลายชนิดยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม ว่า ได้รับผลกระทบจากประกาศดังกล่าวที่กำหนดให้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 อันเป็นผลให้ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า ห้ามนำผ่าน ห้ามส่งออก และห้ามครอบครอง มีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากประกาศกระทรวงเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ถูกฟ้อง 4 ราย คือ กระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการวัตถุอันตราย และกรมวิชาการเกษตร ศาลรับคำฟ้องและแจ้งว่าจะเร่งพิจารณาคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในการออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎหรือประกาศและกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุดโดยไม่ชักช้า แต่ผู้ร้องเห็นว่าเวลาเนิ่นนานพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่มีการพิจารณาใด ๆ จึงได้นำเสนอข้อมูลใหม่ประกอบคำร้องวันนี้

สำหรับข้อมูลประกอบคำร้องใหม่ คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการยกเลิกพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสนั้น ไม่ได้เป็นความเดือดร้อนของผู้ฟ้องเพียง 11 คน แต่เป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรจำนวนมาก อีกทั้งกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอาหารและอาหารสัตว์ ซึ่งจะไม่สามารถใช้วัตถุดิบในประเทศที่ผลิตหรือกำลังผลิตในแปลงเกษตรกรก่อนหน้าการประกาศยกเลิกการใช้สารทั้ง 2 ชนิด อีกทั้งไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เนื่องจากประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปริมาณเหมาะสมสำหรับการแปรรูปอาหารและอาหารสัตว์ยังคงใช้สารพาราควอตและ/หรือคลอร์ไพริฟอสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่สามารถใช้วัตถุดิบเหล่านั้นได้จะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท การเลิกจ้างงานประมาณ 12 ล้านคน ตลอดจนผลกระทบด้านสังคม รวมทั้งเกิดความสูญเสียความมั่นคงด้านอาหารจากการที่อาหารหลายชนิดที่ประชาชนทั่วไปใช้บริโภคประจำวันจะขาดตลาดและกระทบต่อการส่งออก นอกจากนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีกำลังปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการให้สอดรับกับนโยบายรัฐ ขณะที่ภาครัฐยังไม่มีสารทดแทนที่เหมาะสมทั้งด้านประสิทธิภาพและต้นทุนให้แก่เกษตรกร


นายสุกรรณ์ กล่าวต่อว่า ศาลรับคำร้องใหม่ไว้แล้ว ซึ่งผู้ร้องรอการเรียกไต่สวนเพื่อพิจารณาข้อร้องขอ พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้ภาครัฐพิจารณาถึงคำสั่งของกรมวิชาการเกษตรที่ให้เกษตรกรนำสารเคมีไปคืนร้านค้า ทางร้านค้ารับคืน แต่ไม่คืนเงินให้เกษตรกร หากไม่คืนภายในเวลาที่กำหนดจะมีโทษจำคุกถึง 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 1 ล้านบาท อีกทั้งเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เกษตรกรต้องเริ่มเพาะปลูก หากไม่ใช้พาราควอตซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืชที่มีประสิทธิภาพจะทำให้ผลผลิตตกต่ำมากกว่าร้อยละ 40-80 โดยกรมวิชาการเกษตรยืนยันว่ายังไม่มีสารใดมีประสิทธิภาพทัดเทียม ดังนั้น จึงเป็นการออกคำสั่งที่ไม่มีความรับผิดชอบ

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการที่นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ร่วมประชุมพิจารณา (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องอาหารที่มีสารพิษตกค้าง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งที่ประชุมจะผ่อนปรนการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าเกษตรจากประเทศที่ยังใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสได้ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2564 จึงเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ดังนั้น หากจะเปิดให้สินค้าจากต่างประเทศที่ใช้สารเคมี 2 ชนิดมาจำหน่ายในไทยได้ ก็ต้องผ่อนปรนให้เกษตรกรและอุตสาหกรรมเกษตรในประเทศใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสไปได้อีก 1 ปีเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก