รฟท. ชี้คำพิพากษาศาลปกครอง ถือเป็นที่สุด

กรุงเทพ 21 ส.ค. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ย้ำคำพิพากษาศาลปกครอง วินิจฉัยตามเอกสารการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน พ.ศ.2462-2465 ถือเป็นที่สุด


กรณีข้อพิพาทบริเวณ “ที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง” จังหวัดบุรีรัมย์ ข้อพิพาทบริเวณ “ที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง” จังหวัดบุรีรัมย์ โดยอ้างอิงคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ซึ่งวินิจฉัยยืนยันอย่างชัดเจนว่าที่ดินทั้งหมดในบริเวณดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อันเป็นที่ดินของรัฐ
 

  1. เอกสารการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง ประกอบด้วย
       1.1 พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวง ต่อจาก นครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2462  ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2462 (รัชกาลที่ 6)
       1.2 พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินแลอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ประกาศ ณ ลงวันที่ 7
    พฤศจิกายน 2464  ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2464 (รัชกาลที่ 6)
       1.3 พระราชบัญญัติจัดวางทางรถไฟแลทางหลวง พ.ศ. 2464
       1.4 แผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรำ อนึ่ง ทางสายหลัก จะเป็นแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนที่ 2 ตั้งแต่ตำบลท่าช้าง จังหวัดนครราชสีมา ถึง จังหวัดสุรินทร์
  2. การแจ้งการครอบครองที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง
    ในปี พ.ศ. 2497 มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 บัญญัติให้ผู้ที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน อยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ แจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การรถไฟฯ จึงดำเนินการแจ้งการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน เพื่อเป็นการยืนยันสิทธิการครอบครองที่ดินตามที่ปรากฏในแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรำ อันเป็นที่มาของใบแจ้งการครอบครองที่ดิน (สค.1) เลขที่ 1180 เนื้อที่ 5,083 ไร่ 80 ตารางวา
  3. ขอบเขตที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง
    การกำหนดขอบเขตที่ดินเริ่มจากการที่ข้าหลวงพิเศษและกรมรถไฟแผ่นดิน เห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้หิน ดิน และวัสดุอื่นๆ สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟและการเดินรถ จึงสำรวจและวางแนวทางรถไฟแยกออกจากเส้นทางรถไฟสายนครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี (เส้นทางสายหลัก) บริเวณกิโลเมตรที่ 375+650 ออกไปเพื่อทำทางรถไฟเข้าไปขนหินย่อยที่เขากระโดงและบ้านตะโก เป็นระยะทางรวม 8 กิโลเมตร โดยจากผลการสำรวจปรากฏว่ามีผู้ครอบครองที่ดินบริเวณตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรำ จำนวน 18 ราย ซึ่งอยู่ช่วง กม. 0 ถึง กม.4+450 แต่ช่วงระยะทางจาก กม. 4+450 ถึง กม. 8+000 มีความกว้างจากกึ่งกลางแนวกรุยทางรถไฟข้างละ 1,000 เมตร ในขณะนั้นเป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีสภาพเป็นป่าไม้และเป็นที่เนินเขา ไม่มีเจ้าของ กรมรถไฟจึงจ่ายค่าทำขวัญแก่ผู้ครอบครองที่ดิน จำนวน 18 ราย (ตามหนังสือกรมรถไฟแผ่นดิน เลขที่ ค.อ. ๕๐๘/๖๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๔๖๗) และเข้าครอบครองกำหนดให้เป็นที่ดินรถไฟ เพื่อประโยชน์แก่กิจการรถไฟสำหรับลำเลียงหิน ระเบิดหินและย่อยหินบริเวณที่ดินรถไฟเขากระโดง เพื่อใช้ในการก่อสร้างและเดินรถไฟ
    การที่มีผู้กล่าวอ้างว่า ที่ดินรถไฟเขากระโดงควรมีระยะห่างออกไปข้างละ 40 เมตร นั้น เป็นกรณีที่ระบุแนวเขตที่ดินรถไฟสำหรับทางรถไฟสายระหว่างย่านสถานีเท่านั้น ไม่รวมย่านสถานี หรือย่านเก็บกองสินค้า หรือบริเวณที่เป็นแหล่งวัสดุในการสร้างทางรถไฟ แต่อย่างใด
  4. การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหวงห้ามที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินอันเป็นที่ดินว่างเปล่า พ.ศ. 2478
    ที่ดินตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรำ นั้น เป็นที่ดินที่จัดหามาเพื่อใช้ในกิจการรถไฟโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 3 (2) แห่งพระราชบัญญัติจัดวางทางรถไฟแลทางหลวง พ.ศ. 2464 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ในเวลานั้น ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมรถไฟแผ่นดิน ตามมาตรา 25 และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว คือ ห้ามไม่ให้ยกกำหนดอายุความขึ้นต่อสู้สิทธิของแผ่นดินเหนือที่ดินรถไฟหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นของรถไฟ และห้ามมิให้เอกชนหรือบริษัทใดๆ หวงห้ามหรือถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินรถไฟหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น การได้มาซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวจึงได้มาก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติหวงห้ามที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินอันเป็นที่ดินว่างเปล่า พ.ศ. 2478
    การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 และรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของกรมรถไฟแผ่นดิน ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงเป็นเจ้าของถือกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรำ การที่ราษฎรอ้างว่าจับจองที่ดินบริเวณดังกล่าวก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ จึงเป็นการขัดต่อกฎหมาย ไม่ทำให้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามที่กล่าวอ้างได้
  5. ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 คำพิพาษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 เลขแดงที่ 1112/2563 ได้วินิจฉัยไว้ชัดเจนว่า ที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และที่ดินที่บริเวณที่ศาลมีคำพิพากษาเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งสามารถใช้จัดทำบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนทั่วไปได้ คำพิพากษาดังกล่าวจึงใช้ยันบุคคลภายนอกได้ มิได้มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความในคดี ตามมาตรา 145 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เท่านั้น ทั้งนี้ เป็นไปตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566

การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอยืนยันว่า ที่ดินตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรำ เป็นที่ดินของรัฐ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ทับซ้อนกับที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ มาโดยตลอด เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของรัฐและเป็นการป้องกันมิให้เกิดผลเสียหายต่อประชาชน ระบบเศรษฐกิจ รวมถึงกระบวนการบริหารจัดการของรัฐ โดยได้เตรียมมาตรการรองรับสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนเอกสารสิทธิของกรมที่ดินด้วย


คำพิพากษาศาลปกครองกลางเป็นที่สุด และมีผลผูกพันทุกฝ่าย โดยที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดงตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรำ อยู่ในท้องที่ตำบลอิสาณ และตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ซึ่งทุกภาคส่วนควรเคารพต่อคำพิพากษาอันเป็นบรรทัดฐานสูงสุดทางกฎหมาย

การรถไฟแห่งประเทศไทย เห็นว่าคำพิพากษาศาลฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ถือเป็นที่สุด และมีผลผูกพันทุกฝ่าย ว่าที่ดินรถไฟตอนแยกเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ บริเวณตำบลอิสาณ ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย อันเป็นที่ดินของรัฐ การออกเอกสารสิทธิในที่ดินทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยคลาดเคลื่อนและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทุกภาคส่วนควรเคารพต่อคำพิพากษาอันเป็นบรรทัดฐานสูงสุดทางกฎหมาย โดยการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายในการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าว เพื่อนำที่ดินมาเป็นของรัฐต่อไป.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]