ศาลปกครอง 24 มิ.ย.- สภาผู้บริโภคยื่นคำร้องศาลปกครองรอบที่ 3 ขอระงับการประมูลคลื่น 2100 และ 2300 MHz ชี้การประมูลผูกพันนาน 15 ปี เสี่ยงกระทบผลประโยชน์ชาติระยะยาว หวั่นกระทบการแข่งขันเสรีและสิทธิผู้บริโภค หลังศาลเคยชี้ว่าไม่มีเหตุเร่งด่วนพอจะไต่สวนฉุกเฉิน
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค และ นายวศิน พิพัฒนฉัตร ทนายความ เดินหน้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองอีกเป็นครั้งที่ 3 เพื่อขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน และขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz เฉพาะในส่วนของ MHz 2100 MHz และ 2300 MHz และประกาศสำนักงาน กสทช. เรื่องการขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz ลงวันที่ 29 เมษายน 2568 เฉพาะในส่วนของ MHz 2100 MHz และ 2300 MHz เพื่อระงับการประมูลคลื่นความถี่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ที่มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ประกอบการเพียง 2 รายเท่านั้นเข้าร่วมการประมูลจนได้สิทธิรับใบอนุญาตในการใช้คลื่นความถี่ในครั้งนี้ หลังจากที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินและทุเลาการบังคับใช้ประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลในย่าน 2100 MHz และ 2300 MHz โดยให้เหตุผลว่ายังไม่ปรากฏกรณีเร่งด่วนเพียงพอที่ศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนฉุกเฉินตามคำร้องของสภาผู้บริโภคถึง 2 ครั้งนั้น
นายวศิน กล่าวว่า การยื่นคำร้องซ้ำหลายครั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความห่วงใยต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากมีการประมูลคลื่นทั้ง 2 ย่าน โดยไม่ได้รับการพิจารณาอย่างรอบด้าน ซึ่งอาจผูกพันสัญญาใช้งานนานถึง 15 ปี สร้างภาระระยะยาวแก่ผู้บริโภคและประเทศ เปรียบเสมือนไฟไหม้บ้านทั้งหลังที่ยากจะเยียวยาภายหลัง สภาผู้บริโภคไม่มีอำนาจที่จะระงับการประมูลในครั้งนี้จึงต้องมาพึ่งบารมีศาลปกครอง หากศาลปกครองยังคงใจเย็นและปล่อยให้มีการประมูลเกิดขึ้นแล้วเกิดความเสียหายต่อผู้บริโภคในอนาคต ขอแจ้งให้สาธารณชนทราบว่าสภาผู้บริโภคได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วในการคุ้มครองประชาชนและผลประโยชน์ชาติ แต่ไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลปกครองซึ่งเป็นอำนาจอธิปไตยสูงสุดของชาติได้
นอกจากนี้ สภาผู้บริโภคยังได้ขอแก้ไขคำฟ้องให้มีความรัดกุมมากขึ้น และยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดในกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งจำหน่ายคดีที่ฟ้อง กสทช. ในข้อกล่าวหาเรื่องละเลยต่อหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภค และไม่ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรี ซึ่งเป็นการทำให้สภาผู้บริโภคสูญเสียสิทธิในการไกล่เกลี่ยหรือดำเนินการปกป้องประโยชน์สาธารณะต่อไป -สำนักข่าวไทย