กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ส่งผู้แทนร้องศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว ยืดระยะเวลาบังคับการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 1 มิถุนายน
ล่าสุดนายสุกรรณ์ เปิดเผยว่า ศาลได้รับคำร้องของผู้ร้องทั้ง 11 รายไว้พิจารณา พร้อมแจ้งว่าจะดำเนินการโดยไม่ชักช้า แต่ยังไม่ได้นัดไต่สวนมูลฟ้องและยังไม่ได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส
นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า วันนี้ (27 พ.ค.) ได้ร่วมกับผู้แทนเกษตรกรอีก 10 คน เป็นโจทย์ยื่นร้องต่อศาลปกครองกลางฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นจำเลยที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นจำเลยที่ 2 คณะกรรมการวัตถุอันตรายเป็นจำเลยที่ 3 และกรมวิชาการเกษตรเป็นจำเลยที่ 4 ซึ่งเกี่ยงข้องกับการแบนพาราควอตและคลอร์ไพรฟอส โดยออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2563 ยกระดับสารเคมีทางการเกษตรได้แก่ พาราควอต พาราควอตไดคลอไรด์ คลอร์ไพริฟอส และคลอร์ไพริฟอส-เมทิล จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่ 4 ซึ่งมีผลให้ห้ามผลิต นำเข้า นำผ่าน ส่งออก และครอบครอง และให้กรมวิชาการเกษตรเรียกคืนในระยะเวลาที่กำหนด โดยประกาศกระทรวงอตุสาหกรรมนี้จะผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563
นายสุกรรณ์ กล่าวว่า จะขอศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวยืดระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายนี้ไปก่อน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกร ซึ่งจะขาดสิ่งที่ต้องใข้ในการประกอบอาชีพ อีกทั้งยังไม่มีสารที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมมาทดแทน โดยเฉพาะพาราควอตเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช โดยหากใช้สารเคมีชนิดอื่นจะต้องใช้ปริมาณมากทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขณะที่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบใดๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ปากคำต่อศาล จากนั้นศาลจะวินิจฉัยว่า จะรับคำร้อง รวมทั้งจะออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการแบน 2 สารนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย