“สนธิรัตน์” สั่งลดกองทุนน้ำมัน 50 สต./ลิตร ลดราคาเอ็นจีวี-แอลพีจี 3 บาท/กก.

กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – “สนธิรัตน์” ระดมสรรพกำลังด้านพลังงาน ลดภาระภาคประชาชนจาก COVID-19 ล่าสุด กบน.ลดจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน 50 สต./ลิตร ยกเว้นอี 85 และบี 20 ขอความร่วมมือ ปตท.ลดราคาเอ็นจีวีรถสาธารณะอัตราเดียวกับลดราคาแอลพีจี 3 บาท/กก. เลื่อนการประกาศยื่นประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ไม่มีกำหนด ส่วน รฟ.ชุมชน ไม่เลื่อนประกาศโครงการเริ่มกลาง เม.ย.นี้ ด้านการใช้น้ำมันทรุด มี.ค.หดตัวแล้วร้อยละ 8


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้หารือถึงเรื่องลดภาระของภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 50 สตางค์ต่อลิตรทุกประเภท ยกเว้นอี 85 จัดเก็บเพิ่ม 25 สตางค์/ลิตร และบี 20 ลดเพียง 25 สตางค์/ลิตร โดยจะมีผลวันที่ 24 มีนาคมเป็นต้นไปเป็นเวลา 2 เดือน  ทำให้ราคาน้ำมันปรับลดลงเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ขณะนี้ราคาลดลงจากราคาน้ำมันดิบของตลาดโลก 

นอกจากนี้ กบน.ยังเห็นชอบให้ปรับลดเงินกองทุนน้ำมันฯ ในบัญชีก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี ส่งผลให้ราคาแอลพีจีวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค. ) ปรับลดลง 3 บาท/กก. เป็นระยะเวลา 3 เดือน ทำให้ถังขนาดยอดนิยม 15 กก. ลดลง 45 บาท/ถัง หรือลดจากถังละ 363 บาท เหลือ 318 บาท 


นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า ได้หารือกับ บมจ.ปตท.ขอให้เข้ามาร่วมรับภาระช่วยเหลือลดผลกระทบของผู้ประกอบการรถสาธารณะที่ใช้เอ็นจีวี ทั้งรถแท็กซี่ รถเมล์ รถตู้ รถโดยสารระหว่างจังหวัด ขอให้ลดราคาเอ็นจีวีเป็นเวลา 3 เดือน โดยจะลดจากราคา 13.62 บาท/กก. เหลือ 10.62 บาท/กก. ซึ่งเรื่องนี้ทาง ปตท.จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการและเสนอเข้ามาสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริการนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 25 มีนาคม

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ได้กำชับให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) เร่งไปตรวจดูความพร้อมของระบบการคืนเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้ากับประชาชนทั่วไปและเจ้าของกิจการขนาดเล็ก ทั้งในส่วนของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) คิดเป็นวงเงินถึง 32,700 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ถึง 22.17 ล้านราย โดยเปิดให้ประชาชนตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม และเริ่มทยอยคืนเงินวันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นไป  โดยระดับครัวเรือนเงินคืนตั้งแต่ 300-6,000 บาท ส่วนประเภทกิจการขนาดเล็กนั้น ตัวเลขเงินคืนจะเป็นหลักหมื่นบาทขึ้นไป เป็นต้น

“เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมระบบรองรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะคาดว่าจะมีปริมาณผู้ยื่นขอจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ขอผ่านแอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ และระบบออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งการไฟฟ้าจะต้องอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้รับเงินคืนเร็วที่สุด ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของภาคประชาชน” นายสนธิรัตน์ กล่าว 


นอกจากนี้ จากทั่วโลกประสบปัญหาจาก COVID-19 และราคาน้ำมันดิบโลกอยู่ในช่วงขาลง ทางกระทรวงพลังงานจึงเลื่อนเวลากำหนดการประกาศเปิดให้ยื่นประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบที่ 23 ไปอย่างไม่มีกำหนดจากเดิมจะเริ่มเปิดเดือนมีนาคมนี้ เพราะหากเปิดไปแล้ว ผู้ที่จะยื่นก็จะไม่สามารถเดินทางมาได้สะดวก รวมทั้งการยื่นเสนอราคาอาจจะได้ราคาที่ต่ำสำหรับประเทศ  

ส่วนการประกาศให้ยื่นเพื่อร่วมสมัครโรงไฟฟ้าชุมชน ประเภทควิกวินนั้น จะไม่เลื่อน โดยจะเริ่มประกาศกลางเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโครงการนี้ 

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ได้ประสานงานกับกรมสรรพสามิต เพื่อขอผ่อนผันให้ ปั๊มน้ำมันเป็นพื้นที่ที่สามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นร้อยละ 70 ได้ เพื่อเป็นจุดให้ประชาชนสามารถมาซื้อไปผสมทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือได้สะดวก เพราะปัจจุบันนี้แม้มีการผ่อนผันให้โรงงานเอทานอลขายแอลกอฮอล์ได้ แต่ก็ขายให้เฉพาะโรงงานผลิตเจลเท่านั้น โดยตั้งแต่โรงงานเอทานอลเริ่มขายทำให้ราคาแอลกออล์ในท้องตลาดลดลงอย่างรวดเร็ว  โดยในส่วนของนโยบายการส่งเสริมอี 20 เป็นน้ำมันหลักของกลุ่มเบนซินนั้น ก็จะเลื่อนประกาศออกไปจากเดิมกำหนดในไตรมาส 3/2563 รวมทั้งลดการอุดหนุนอี 85 เนื่องจากต้องการให้มีแอลกอฮอล์สู่ตลาดการแพทย์ เพื่อช่วยลดปัญหาขาดตลาด จากความต้องการป้องกันโรค COVID-19    

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากปรับเปลี่ยนเงินกองทุนน้ำมันฯ วันพรุ่งนี้ ราคาน้ำมันบี 10 กับบี 20 จะต่างเพียง 25 สตางค์/ลิตร ก็จะเป็นการส่งสัญญาณ การส่งเสริมบี 10 เป็นหลัก และจากการลดราคาแอลพีจี ลดเงินกองทุนน้ำมัน 50 สตางค์ต่อลิตร ทำให้กองทุนฯ ร่วมรับภาระ มีรายได้ลดลง 2,300 ล้าน/เดือน  โดยคาดว่าอีก 3 เดือนข้างหน้าเงินกองทุนฯ จะมีฐานะสุทธิประมาณ   20,000 ล้านบาท จากฐานะสุทธิวันที่ 22 มีนาคม อยู่ที่ 36,569 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 42,038 ล้านบาท  บัญชีแอลพีจี ติดลบ 5,469 ล้านบาท

“เงินกองทุนฯ ช่วงจากนี้ไปคาดว่าอาจจะเก็บได้น้อยลง เพราะการเดินทางลดลงจากปัญหา COVID-19 โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมการใช้น้ำมันลดลงถึงร้อยละ 8 อย่างไรก็ตาม กบน.จะติดดตามสถานการณ์ และบริหารกองทุนให้ดูแลเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน” นายกุลิศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]