4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21
สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย บางส่วนมีการถือไม้และอุปกรณ์ต่าง ๆ สร้างแรงกดดันต่อเจ้าหน้าที่ไทย ส่งผลให้บรรยากาศในพื้นที่ตึงเครียดมากขึ้น

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้จัดกำลังเสริมทั้งทหารและตำรวจตระเวนชายแดน เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด พร้อมจัดชุดลาดตระเวนรอบพื้นที่ป่าแนวชายแดน เพื่อป้องกันความเคลื่อนไหวที่อาจบานปลายหรือกลายเป็นเหตุรุนแรง แหล่งข่าวจากฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุขุม รอบคอบ และใช้ความอดทนสูงสุด โดยเน้นย้ำ “หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและการปะทะโดยตรง” เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามจนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกันประชาชนไทยในพื้นที่บ้านหนองจานและหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้วยความกังวลใจ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของชุมชนและการดำรงชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม จนถึงช่วงสายของวันนี้ สถานการณ์ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ไทย แม้จะมีความตึงเครียดบางจุด แต่ยังไม่พบเหตุปะทะหรือการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด โดยทุกฝ่ายจับตาความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาอย่างใกล้ชิด
พลตรีสุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย ภายหลังที่ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายเตือน ยืนยันทหารไทยไม่อยากจะแจ้งข้อกล่าวหากับประชาชนชาวกัมพูชา จึงประสานไปยังฝ่ายกัมพูชาให้เข้ามาจัดระเบียบคนของตัวเอง ไม่ให้รุกล้ำเข้ามาฝั่งไทย หรือทำลายป้าย แต่หากยังฝ่าฝืน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายไทยอย่างถึงที่สุด ส่วนการจัดระเบียบชายแดนอยู่ระหว่างการหารือในการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทยทั่วไป ไทย-กัมพูชา เพื่อกำหนดกติกากรอบการปฏิบัติที่ชัดเจน

ด้านกองทัพบกร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จัดชุดพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากการสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในหมู่บ้านโจรก ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ หลังเกิดเหตุกระสุนจากอาวุธวิถีโค้งของฝ่ายกัมพูชาตกลงมาในหมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่ผ่านมา พบหลุมระเบิดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.30 เมตร บริเวณหน้าบ้านที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานสำคัญ คือ ลูกเหล็กทรงกลม หรือ Ball Bearing (ลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด/ลูกปราย) จำนวนมากปะปนอยู่ในพื้นที่
ผู้เชี่ยวชาญสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ลูกเหล็กถูกบรรจุไว้ในวัตถุระเบิดมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มอานุภาพการสังหารบุคคลในวงกว้าง เกิดอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่าเศษสะเก็ดระเบิดที่เกิดจากการแตกตัวของโลหะทั่วไป เมื่อกระสุนประเภทนี้ตกลงในพื้นที่ชุมชนพลเรือน ย่อมส่งผลทำลายชีวิตประชาชนอย่างร้ายแรงเป็นวงกว้าง และหากเป็นการยิงโดยเจตนา หรือยิงโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อพลเรือน ก็ถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล และเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงครามตามกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย