เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดจุดตรวจตามแนวชายแดน

26 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจ เพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนทยอยอพยพออกนอกพื้นที่ หลังกระแสข่าวกัมพูชาหันปากกระบอกปืนมาฝั่งไทย หวั่นปะทะอีก


สถานการณ์ชายแดนไทย บริเวณจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบว่ามีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจการเดินเข้า-ออก ไปยังพื้นที่ชายแดน และมีการเบิกอาวุธประจำกายมาจากที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อให้นำมาติดตัวไว้ในการปฏิบัติภารกิจหน้าแนวชายแดน หลังมีกระแสข่าวว่าจะผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนอธิปไตยไทยออกไปในวันที่ 26 ก.ย.นี้

ส่วนที่โรงเรียนบ้านหนองเสม็ด ห่างจากชายแดน เพียง 3 กิโลเมตร ปรับการเรียนการสอนให้เรียนออนไลน์ และประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วานนี้ จนถึงวันจันทร์ที่ 29 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน หากสถานการณ์ปลอดภัยก็จะกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ


ความเคลื่อนไหวของกัมพูชา ที่บริเวณแนวลวดหนามป้องกันตนเอง บ้านหนองหญ้าแก้ว ไม่มีมวลชนกัมพูชา มายืนแสดงตัวหรือกระทำการใดๆที่บริเวณแนวลวดหนาม แต่เมื่อตรวจสอบด้วยภาพมุมสูง มีการตั้งจุดรวมพล มีรถหลายสิบคัน แต่ผู้คนยังบางตา คาดหลบอยู่ใต้หลังคา หรือไม่ก็เพิงพักต่างๆ ส่วนที่ป่ายูคาใกล้หลักเขตที่ 46 บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น กำลังทหารกัมพูชา และมวลชน บางตา มีการถ่ายภาพ เจ้าหน้าที่ ฝั่งเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้บันทึกไว้เพื่อเป็นข้อมูลด้วยเช่นกัน

ที่จังหวัดศรีสะเกษ สถานการณ์แนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ ยังเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทหารตรึงกำลังเข้ม ตั้งด่านตรวจ ป้องกันบุคคลภายนอกและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไป “ผามออีแดง” หลังตลอดสัปดาห์ มีการเผชิญหน้าระหว่างกำลังทหารไทยและกัมพูชาจนหน่วยงานความมั่นคงต้องยกระดับการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดโดยจะอนุญาตเฉพาะกำลังพล ที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เท่านั้น

โดยที่หมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ อยู่ไม่ไกลจากแนวชายแดน บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบเหงาแม้ว่าหลายครอบครัวยังไม่อพยพออกไปแต่ก็ไม่ประมาทเตรียมพร้อมเก็บข้าวของ และเสบียง ใส่รถกระบะไว้แล้ว พร้อมเดินทางทันทีหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น โดยชาวบ้านบอกว่า การย้ายออกไป–กลับเข้ามาซ้ำหลายครั้งสร้างความลำบาก ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย และการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเลือกที่จะรอสัญญาณจริงจากทางการ โดยเฉพาะเสียงประกาศเตือนภัยหรือเสียงปืนใหญ่ ซึ่งถือเป็นเครื่องชี้วัดว่าจำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน


แต่ก็มีชาวบ้านบางส่วน เริ่มทยอยอพยพออกจากหมู่บ้าน หลังประเมินว่า มีโอกาสสูงที่จะเกิดการปะทะกันอีก โดยเลือกที่จะเก็บข้าวของที่จำเป็น เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง ยาประจำตัวติดตัวออกมาเพราะตั้งใจจะไปพักที่บ้านอีกหลังในต่างอำเภอ หรือไปอยู่บ้านญาติพี่น้อง ตามพื้นที่ต่างซึ่งทุกคนก็ไม่อยากให้เกิดเหตุปะทะ เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง คนในพื้นที่จะทำมาหากินไม่ได้ ทางการต้องเด็ดขาด อย่าให้บานปลายจนประชาชนเดือดร้อน

ด้านโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากแนวปะทะ ปรับแผนสอบปลายภาค จากเดิมกำหนดไว้ ในวันที่ 24–26 กันยายน เป็นให้สอบให้เสร็จ ในวันที่ 25 กันยายน เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน โดยทางโรงเรียนได้เร่งจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุ หากมีการยิงปะทะขึ้นจริง

สถานการณ์แนวชายแดนฝั่ง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านเริ่มตื่นตัวเร่งอพยพคน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและป่วยติดเตียงออกนอกพื้นที่ไปพักอาศัยกับญาติพี่น้องต่างอำเภอกันเป็นจำนวนมาก หลังมีกระแสข่าวว่าทหารกัมพูชาหันกระบอกปืนใหญ่มาทางฝั่งไทย เชื่อว่าน่าจะเกิดการปะทะกัน ในเร็วๆ นี้ ส่วนชาวบ้านที่ยังอยู่ในพื้นที่จะเป็นกลุ่มที่แข็งแรง คอยดูแลบ้าน และพร้อมอพยพได้ตลอดเวลา ประกอบกับศูนย์พักพิงชั่วคราว ยังไม่มีการเปิดรับ จึงจำเป็นต้องอยู่บ้านถึงแม้จะหวาดกลัวก็ตาม

ขณะที่บรรยากาศในตัวอำเภอชายแดน พบชาวบ้านนำรถยนต์ออกไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเตรียมความพร้อม หากได้ยินเสียงปืนใหญ่ หรือประกาศของทางการให้อพยพ ก็จะออกจากบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องไปต่อคิวเติมน้ำมัน เหมือนการปะทะครั้งที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย