“ประเสริฐ” เผยรัฐเดินหน้าจัดการเฟคนิวส์สร้างความแตกแยก

ทำเนียบ 7 ส.ค.-“ประเสริฐ” เผยรัฐเดินหน้าจัดการเฟคนิวส์สร้างความแตกแยก โดยเฉพาะสถานการณ์ชายแดน กำหนด KPI ต้องวิเคราะห์ได้ใน 3 ชม. ชี้ตั้งแตปี 62 พบข่าวอยู่ในข่ายต้องตรวจ 1,100 ล้านข่าว นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงภายหลังการประชุมและวิเคราะห์สื่อสังคมออนไลน์ว่า เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ปรากฏว่ามีข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรือที่เรียกว่าข่าวปลอมจำนวนมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลทางด้านลบ สร้างความแตกแยกทำให้เกิดความสับสน เกิดความไม่เข้าใจเกิดความแตกแยกในระหว่างพี่น้องประชาชน และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเมื่อ วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเชิญโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาหารือในการป้องกันปราบปรามข่าวปลอม ซึ่งทางแพลตฟอร์มยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้ข้อสรุปว่าให้ความสำคัญกับข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน จึงสนับสนุนการจัดการข่าวปลอม หรือปิดกั้นข่าวปลอม และมีมาตรการในการรองรับการดำเนินการกับข่าวปลอม หากมีการตรวจพบการดำเนินการด้านไอโอ ขอให้แจ้ง เพื่อ ระงับการเผยแพร่และการยกระดับการยืนยันตัวตนบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ โดยผู้ที่จะลงโฆษณาต้องเป็นบริษัทที่มีการยืนยันตัวตนและตอนนี้ได้เริ่มดำเนินการบางส่วนแล้ว นายประเสริฐ กล่าวว่ ที่ประชุมยังได้พิจารณาในเรื่องของการจัดการข่าวปลอม เมื่อได้รับทราบข่าวปลอมหรือมีการพบข่าวปลอม กระทรวงดิอิทัลจะทำงานกันอย่างใกล้ชิดและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเคพีไอหรือเป้าหมายว่าภายใน 3 ชั่วโมง เราต้องวิเคราะห์ และสามารถแจ้งกลับไปได้ว่าข่าวนั้นมีลักษณะเป็นข่าวที่มีข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าพี่น้องประชาชนพบเห็นข่าวปลอม […]

เงินบาทเคลื่อนไหวกรอบแคบ จับตาเจรจาสหรัฐฯ-ประเทศคู่ค้า และสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” เงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ตลาดจับตาผลประชุมเฟด การเจรจาสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า สถานการณ์ไทย-กัมพูชา และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท ยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ในลักษณะ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.35-32.51 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกันของเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า ตามการทยอยปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำจากโซนแนวรับระยะสั้น ตามจังหวะการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์ คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.15-32.55 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดจับตาผลการประชุม FOMC ของเฟด ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงราว […]

4 รมต.ลงพื้นที่ดูแลปชช. รับมือสถานการณ์ชายแดน

ทำเนียบ 25 ก.ค.- รัฐบาลส่ง 4 รัฐมนตรีลงพื้นที่ 4 จังหวัด ดูแลประชาชน รับมือสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมเตรียมเที่ยวบินรับคนไทยในกัมพูชา จัดชุดดูแลความปลอดภัย 24 ชม. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเน้นย้ำให้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในระดับพื้นที่และส่วนกลาง รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบและประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 […]

โฆษก ทบ.ยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจโจมตีกัมพูชา

24 ก.ค. – โฆษกกองทัพบก แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ต้องโจมตีฝ่ายกัมพูชาเลย เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร และไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกยืนยันไทยไม่มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ที่จะต้องไปโจมตีกัมพูชาเลย ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ และไม่มีเหตุผลที่เราจะทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกดำเนินการภายใต้ความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถใช้กำลังได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 โดยสามารถใช้กำลังป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธก่อน จากฝ่ายกัมพูชา ในลักษณะเพื่อป้องกันตัวเอง โดยจะทำลายเฉพาะเป้าหมายทางทหาร (military objective) เท่านั้น เหตุของการปฏิบัติการทางทหารต่อกันในครั้งนี้มีเหตุมาจากผู้นำฝ่ายกัมพูชา อาจต้องให้ระดับฝ่ายบริหารของกัมพูชาและไทยได้เจรจากัน ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการหาแนวทางสันติวิธี เริ่มจากการแก้ที่ต้นเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม มั่นใจว่าประชาชนทั้งสองประเทศไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาขัดแย้งกัน หรือสมควรต้องมาได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์โดยไม่จำเป็น.-313-สำนักข่าวไทย

หอการค้าไทยห่วงใยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – หอการค้าไทย ห่วงใยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เรียกร้องทุกฝ่ายดำเนินการรอบคอบ ยันไม่เคยมีนโยบายปิดกั้นการค้าชายแดน ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.68) ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งกำลังพลและประชาชน ตลอดจนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และเกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ในด้านการค้าการลงทุน หอการค้าไทยขอยืนยันว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยยังคงเปิดด่านการค้าอย่างต่อเนื่องและไม่เคยมีนโยบายปิดกั้นการค้าชายแดน อย่างไรก็ตาม มาตรการด้านความมั่นคงและสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวหลังสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ท้ายที่สุด หอการค้าไทยขอส่งกำลังใจไปยังกำลังพลของกองทัพไทย และหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกภาคส่วน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และขอภาวนาให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้.-516-สำนักข่าวไทย

สมช.ถกด่วนติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

24 ก.ค. – “ภูมิธรรม” เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติวาระด่วน ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุดและกำหนดท่าที นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หลังเกิดเหตุปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุดและกำหนดท่าที รวมทั้งเตรียมการแถลงผลการประชุมให้ได้รับทราบ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ศก.ทบ. มีความจำเป็นต้องปิดด่านในจุดต่างๆ เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการตามขั้นตอน จากขั้น 1-2 ที่ผ่านมา จนขณะนี้มาถึงขั้นที่ 4 สำหรับสถานการณ์การประทะระหว่างกำลังทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และกัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่ม ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ท่าทีและอธิปไตยของไทยในเวทีระหว่างประเทศอย่างเต็มที่และดีที่สุด ยืนยันว่าพร้อมทำงานอย่างมีเอกภาพ รวมทั้งท่าทีต่อสถานการณ์ล่าสุด และความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยกเลิกภารกิจที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โพสต์ประณามกัมพูชาต่อการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย ถือว่าเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติสากลตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสิทธิมนุษชนและจริยธรรมอันดีอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยพยายามอย่างเต็มที่ผ่านการเจรจาพูดคุยตามหลักปฏิบัติทางการทูต เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หลีกเลี่ยงการปะทะและความสูญเสีย ด้วยความอดทน อดกลั้น และยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด ทั้งนี้ ขอสนับสนุนทุกมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักการสากล พร้อมส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ […]

“สุริยะ”สั่ง กพท.-บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “สุริยะ” เผยหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการ กพท.- บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์-พร้อมอำนวยความสะดวกเครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ พร้อมประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติ โดยทางด้าน บวท.ได้เร่งดำเนินการทุกกระบวนการด้านความปลอดภัย และพร้อมอำนวยความสะดวกให้เครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก ทั้งนี้หน่วยงานได้ดำเนินการตามมาตรการ เร่งด่วนดังนี้ 1.เตรียมพร้อมการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศโดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญเร่งด่วน (Prioriy) ตามวิธีปฏิบัติที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติการบินของภารกิจด้านความมั่นคง 2.เตรียมพร้อมการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดรับกับสถานการณ์และภารกิจที่เกิดขึ้น ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน 3. เตรียมพร้อมให้การสนับสนุน ประสานงานและอำนวยความสะดวกการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ ตามภารกิจพิเศษต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเที่ยวบินพาณิชย์ ยังคงให้บริการตามปกติ โดย กพท. และ บวท. […]

ตลาดทุนจับตาสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “ตลาดทุน-ตลาดเงิน” จับตาสถานการณ์ชายแดน และความคืบหน้าเจรจาภาษีไทย-สหรัฐ ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.11/13 บาท/ดอลลาร์ฯ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.15 บาท/ดอลลาร์ฯ เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า หลังดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลง โดยตลาดยังคงจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาภาษีสหรัฐทั่วโลก รวมถึงการต่อรองการค้าไทยกับสหรัฐฯ เป็นหลัก รวมถึงปัจจัยใหม่ที่เข้ามาคือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดความบานปลาย สถานการณ์นี้กำลังถูกจับตามองจากสื่อระหว่างประเทศ และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศในระยะยาวและสร้างปัจจัยเสี่ยงเพิ่ม DOWNSIDE GDP ไทยในช่วงครึ่งหลังปี 68 เป็นต้นไป จากตัวเลข NET EXPORTS (การค้าระหว่างประเทศ) ที่มีสัดส่วนราว 5% ของ GDP โดยกัมพูชามีดุลการค้ากับไทยราว 8 พันล้านเหรียญฯ ณ ปี 2567 (ไทยเกินดุลการค้ากับกัมพูชาเป็นอันดับ 2) หากพิจารณา 10 […]

คลังเตรียมรับมือไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย. – “พิชัย” ประชุมด่วนภาคเอกชน รับมือผลกระทบไทย-กัมพูชา หากสถานการณ์ยืดเยื้อ ติดตามธนาคาร-ธุรกิจ มีสาขาในกัมพูชา สายการบิน โทรคมนาคม พลังงาน เปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมการเตรียมตัวของภาคเอกชนและผลกระทบหากมีการยกระดับความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ท่ามกลางสถานการณ์กำลังเปราะบาง จึงต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด ยอมรับว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แม้ฝ่ายไทยยังคงมีท่าทีสุขุม รอบคอบ และให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน นายพิชัย ในฐานะผู้กำกับดูแลเศรษฐกิจในภาพรวม กล่าวว่า รัฐบาลไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความเป็นไปได้ต่าง ๆ โดยเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจเกิดขึ้นได้หากสถานการณ์ยืดเยื้อ ได้แก่ ประการแรก คือ การประเมินผลกระทบเชิงเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ทั้งจากการค้าชายแดน ภาคการผลิตที่พึ่งพาวัตถุดิบจากกัมพูชา ภาคการเงินที่มีธุรกิจและสาขาในกัมพูชา รวมถึงภาคบริการ ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โทรคมนาคม หรือพลังงาน ประการที่สอง คือ การเตรียมมาตรการรองรับ รัฐบาลพร้อมให้แบงก์รัฐปล่อยกู้เช่น soft loan การผ่อนปรนทางภาษี มาตรการโลจิสติกส์ เช่น การเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งจากทางบกเป็นทางเรือ ตลอดจนการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดน ทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง วันนี้จะเปิดรับฟังข้อเสนอจากทุกภาคส่วน […]

นายกฯ ถอนหายใจ ปัดตอบปมแลกกระทรวง-เลื่อนถก RBC

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ ไม่ตอบเดดไลน์แลกกระทรวงมหาดไทย-สถานการณ์ชายแดน หลังกัมพูชาเลื่อนการประชุม RBC ไม่มีกำหนด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ‘การเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิ สวัสดิการ ที่จะได้รับรายบุคคล เพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ’ ระหว่าง 29 ฝ่าย (15 กระทรวง , 14 หน่วยงาน) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างเดินลงบันได จากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี นายกรัฐมนตรีได้ถอนหายใจ พร้อมปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็น การปรับคณะรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทยได้ยื่นข้อเสนอไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ขอแลกตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีสำนักนายกฯ อีกตำแหน่ง ภายใน 48 ชั่วโมง หรือถึงเวลา 15.00 น. พรุ่งนี้ (19 มิถุนายน 2568) รวมไปถึงปฏิเสธการตอบคำถาม กรณีกัมพูชาเลื่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ออกไปอย่างไม่มีกำหนด […]

“อนุทิน” ลงพื้นที่อุบลฯ ติดตามความพร้อมรับมือภัยพิบัติ 3 จว.อีสานตอนล่าง

อุบลราชธานี 13 มิ.ย.-“อนุทิน” รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่อุบลฯ ติดตามความพร้อมรับมือภัยพิบัติ 3 จังหวัดอีสานตอนล่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีติดตามการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัยในระดับพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทิน เดินทางพร้อมด้วย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ภายในงานมีการนำเสนอการคาดการณ์สถานการณ์น้ำ การแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน Thai Disaster Alert เพื่อรองรับสถานการณ์อุทกภัย รวมถึงการเสวนาเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และการแจ้งเตือนสาธารณภัยในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยมีผู้นำชุมชนจาก 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน […]

กต. เรียกร้องกัมพูชาลดความตึงเครียดตลอดแนวชายแดน

กระทรวงการต่างประเทศ 8 มิ.ย.-โฆษก กต. แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังสงบ หลังไทยออกมาตรการปิด-เปิด จุดผ่านแดน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาลดความตึงเครียดตลอดแนวชายแดน และใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหา กร้าว “กัมพูชา” ไม่ใช่ประเทศเดียวที่สื่อสาร แต่ “ไทย” ก็แจ้งข้อเท็จจริงให้มิตร-นานาประเทศรับทราบ ย้ำ “รัฐบาล-กองทัพ” ลงเรือลำเดียวกัน เอา “อธิปไตยแห่งรัฐ” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดแน่นอน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชาว่า ตามที่มติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ มอบอำนาจให้ กองทัพภาคที่หนึ่งกองทัพภาคที่สองและกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ออกมาตรการควบคุม การปิดเปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทในพื้นที่ ที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาและได้มีการออกคำสั่ง ในทุกจุดครบถ้วนตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนยังสงบ เรียบร้อยดี และตามที่ทหารได้ชี้แจงแล้ว ว่าไม่ได้ปิดด่านทั้งหมดทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นขั้นเป็นตอน เหมาะสมตามแต่สถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ซึ่งแบ่งออกเป็น4 ขั้น ได้แก่ การผ่านแดน โดยจำกัดอนุญาตเฉพาะบุคคล ที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่ง แรงงานและความจำเป็นอื่น ๆ โดยจำกัดและเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายขั้นที่สองเป็นการปรับลดเพิ่มวันเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดน และกำหนด […]

1 2
...