ทำเนียบ 7 ส.ค.-“ประเสริฐ” เผยรัฐเดินหน้าจัดการเฟคนิวส์สร้างความแตกแยก โดยเฉพาะสถานการณ์ชายแดน กำหนด KPI ต้องวิเคราะห์ได้ใน 3 ชม. ชี้ตั้งแตปี 62 พบข่าวอยู่ในข่ายต้องตรวจ 1,100 ล้านข่าว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงภายหลังการประชุมและวิเคราะห์สื่อสังคมออนไลน์ว่า เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ปรากฏว่ามีข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรือที่เรียกว่าข่าวปลอมจำนวนมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลทางด้านลบ สร้างความแตกแยกทำให้เกิดความสับสน เกิดความไม่เข้าใจเกิดความแตกแยกในระหว่างพี่น้องประชาชน และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเมื่อ วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเชิญโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาหารือในการป้องกันปราบปรามข่าวปลอม ซึ่งทางแพลตฟอร์มยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้ข้อสรุปว่าให้ความสำคัญกับข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน จึงสนับสนุนการจัดการข่าวปลอม หรือปิดกั้นข่าวปลอม และมีมาตรการในการรองรับการดำเนินการกับข่าวปลอม หากมีการตรวจพบการดำเนินการด้านไอโอ ขอให้แจ้ง เพื่อ ระงับการเผยแพร่และการยกระดับการยืนยันตัวตนบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ โดยผู้ที่จะลงโฆษณาต้องเป็นบริษัทที่มีการยืนยันตัวตนและตอนนี้ได้เริ่มดำเนินการบางส่วนแล้ว
นายประเสริฐ กล่าวว่ ที่ประชุมยังได้พิจารณาในเรื่องของการจัดการข่าวปลอม เมื่อได้รับทราบข่าวปลอมหรือมีการพบข่าวปลอม กระทรวงดิอิทัลจะทำงานกันอย่างใกล้ชิดและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเคพีไอหรือเป้าหมายว่าภายใน 3 ชั่วโมง เราต้องวิเคราะห์ และสามารถแจ้งกลับไปได้ว่าข่าวนั้นมีลักษณะเป็นข่าวที่มีข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าพี่น้องประชาชนพบเห็นข่าวปลอม สามารถแจ้งเข้ามาที่เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com หรือสามารถพิมพ์คำว่า AFNC รัฐบาลจะทำการตรวจสอบให้ เราอยากให้พี่น้องประชาชนเป็นหูเป็นตาและช่วยสอดส่องด้วย
ทั้งนี้การจัดการกับเฟคนิวส์ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่มีการออกข่าวปลอมด้วย โดยขั้นตอนในการปฏิบัติ คือเมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็ต้องมีการตรวจสอบ หากพบเป็นข่าวปลอม ก็ต้องรีบกระจายผล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กรมประชาสัมพันธ์และสื่อต่างประเทศได้รับทราบ เป็นงภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
สำหรับ การดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยข่าวปลอมนั้น นายประเสริฐกล่าวว่ ให้ตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม ทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งขอบอกไปยัง อินฟลูเลนเซอร์และพวกไม่หวังทั้งหลายว่ารัฐบาลเอาจริง ขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอข่าวที่บิดเบือนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
นายประเสริฐ กล่าวว่ ขณะนี้มีข่าวปลอมจากประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ แต่ในช่วงเวลา ตั้งแต่ปี2562 จนถึงวันนี้ เราได้รวบรวมสถิติข่าวที่เข้ามาทั้งหมด และต้องตรวจสอบ 1,100 ล้านข่าวและวันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีจะสามารถจะจับได้มากขึ้น.-312.-สำนักข่าวไทย