เกษตรฯ จัดสรรงบบรรเทาผลกระทบโควิด-19 และภัยแล้ง

กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งทุกหน่วยสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายปี 2563 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และภัยแล้ง


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และภัยแล้ง โดยครอบคลุมการปรับเปลี่ยนงบประมาณรายจ่ายประจำ งบประมาณรายจ่ายลงทุน งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับการปรับรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำได้กำหนดให้ทุกส่วนราชการพิจารณาปรับลดงบประมาณ ปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินงานให้ได้ร้อยละ 1 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีนี้รัฐบบาลกำหนดรายจ่ายประจำไว้ที่ 2.39 ล้านล้านบาท ทำให้มีวงเงินสำหรับการรับมือสถานการณ์โควิด-19 และภัยแล้งประมาณ 200,000 ล้านบาท โดยงบประมาณที่ปรับเปลี่ยนดังกล่าวให้จัดทำโครงการที่ก่อให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ ผู้ผลิตรายย่อย และการจ้างแรงงานระยะสั้น

สำหรับกระทรวงเกษตรฯ ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 งบกลาง รายการเงิน สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 17,310.4509 ล้านบาท โดยมี 6 หน่วยงานได้รับงบประมาณสำหรับรับมือสถานการณ์โควิด-19 เป็นเงิน 45.0372 ล้านบาทและภัยแล้ง 2,879.4878 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากกรอบวงเงินงบประมาณดังกล่าว หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 หรือใช้จ่ายงบประมาณจากแหล่งเงินอื่น ได้กำชับให้เร่งดำเนินการและรายงานการปรับแผนงาน/งบประมาณ และแผนการปฏิบัติงานต่อไป ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินงานภายในเวลา 12.00 น. ทุกวัน เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับแผนปฏิบัติการให้ทันสถานการณ์


“ให้พิจารณาปรับแผนการเดินทางไปราชการต่างประเทศที่ตั้งไว้สำหรับศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา และอบรมในต่างประเทศมาดำเนินการแก้ปัญหาภายในประเทศ เน้นย้ำให้เปลี่ยนแปลงไปดำเนินการที่ก่อให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ ผู้ผลิตรายย่อย การจ้างแรงงานระยะสั้น” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก