‘ทรัมป์’ เรียกเก็บภาษีสินค้าอินเดียเพิ่มอีก 25%

วอชิงตัน/นิวเดลี 7 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศในวันพุธ เรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 25% กับสินค้าจากอินเดีย โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลนิวเดลียังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก หลังจากที่การเจรจาทางการค้าไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อัตราภาษีนำเข้าใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ 21 วันหลังจากวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งจะทำให้อากรขาเข้าสำหรับสินค้าส่งออกบางประเภทของอินเดียพุ่งสูงถึง 50% ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่สูงที่สุดที่สหรัฐเคยเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า คำสั่งทางการบริหารของนายทรัมป์ที่เรียกเก็บภาษีเพิ่มไม่ได้กล่าวถึงจีน ซึ่งเป็นอีกประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แต่นายทรัมป์กล่าวในภายหลังว่า เขาสามารถประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในลักษณะเดียวกันกับสินค้าจีนได้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การกระทำของนายทรัมป์ครั้งนี้ถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-อินเดียนับตั้งแต่เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา อัตราภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเข้าถึงตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกรวมเกือบ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น สิ่งทอ รองเท้า อัญมณี และเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากความสัมพันธ์อันดีที่เคยเห็นในช่วงการพบปะกันของนายทรัมป์และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์ โดยนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงคำพูดล่าสุดของนายทรัมป์ที่เรียกเศรษฐกิจของอินเดียว่า “ตายไปแล้ว” และกล่าวว่ามาตรการกีดกันทางการค้าของอินเดียนั้น “น่ารังเกียจ” พร้อมทั้งกล่าวหาว่าอินเดียได้ผลประโยชน์จากน้ำมันรัสเซียราคาถูกในขณะที่เพิกเฉยต่อการสังหารชาวยูเครนในการรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินมาสามปีครึ่ง กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียกล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐครั้งนี้ “น่าเสียดายอย่างยิ่ง” และชี้ว่าประเทศอื่นๆ อีกมากมายก็มีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศตนเช่นกัน พร้อมกับระบุว่า อินเดียจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ […]

‘ทรัมป์’ เล็งนำรายได้จากภาษีนำเข้าสินค้ามาจ่ายเป็น “เงินปันผล”

วอชิงตัน 2 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่าเขาอาจพิจารณาให้ “เงินปันผล” แก่ประชาชนโดยนำเงินมาจากรายได้ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี นายทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตราที่สูงลิ่วจากหลายประเทศ โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยชำระหนี้และลดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันเส้นตายเรื่องภาษีนำเข้าของนายทรัมป์ในวันศุกร์ไม่ได้ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ดีขึ้นมากนัก โดยตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและผลการเจรจากับจีน สำหรับนักลงทุนที่คุ้นชินกับการข่มขู่ของนายทรัมป์ การที่เขายืนยันเก็บภาษีนำเข้าจากหลายสิบประเทศอาจเป็นสัญญาณเตือน เนื่องจากเส้นตายในการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐได้สิ้นสุดลงแล้ว และภาษีใหม่ก็เริ่มมีผลตามกำหนด อัตราภาษีนำเข้าใหม่ของนายทรัมป์ที่อยู่ในอัตราสูงนั้นรวมถึงการเรียกเก็บภาษี 35% สำหรับสินค้าหลายรายการจากแคนาดา, 50% สำหรับบราซิล, 25% สำหรับอินเดีย, 20% สำหรับไต้หวัน และ 39% สำหรับสวิตเซอร์แลนด์.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีจากไทยในอัตราร้อยละ 19

วอชิงตัน 1 ส.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐออกแถลงการณ์วานนี้ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าส่งออกจากประเทศไทย ในอัตราร้อยละ 19 จากเดิมขู่จะเก็บภาษีสินค้าไทย สูงถึงร้อยละ 36 ทำเนียบขาวประกาศเรื่องนี้ในเอกสารข้อมูล ก่อนหน้ากำหนดเส้นตายข้อตกลงทางการค้าในวันศุกร์ ซึ่งระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเมื่อวันพฤหัสบดี สำหรับอัตราร้อยละ 19 ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย ร้อยละ 19 ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 19 และกัมพูชา ร้อยละ 19 ในขณะที่เวียดนาม ถูกเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 20 สปป ลาว ร้อยละ 40 และเมียนมา ร้อยละ 40 โดยอัตราภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป คำสั่งพิเศษของนายทรัมป์ ระบุอัตราภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับประเทศต่างๆ โดยจะอยู่ในช่วงร้อยละ 10-41 สำหรับ 69 ประเทศคู่ค้า บางประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงที่ช่วยลดภาษีได้ ในขณะที่บางประเทศไม่มีโอกาสเจรจากับรัฐบาลของเขาเลย คำสั่งดังกล่าวระบุว่าสินค้าจากประเทศอื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อภาคผนวกจะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 10 […]

Vietnam's Secretary General of Communist Party To Lam

เวียดนามเตรียมกวาดล้าง “สินค้าสวมสิทธิ”

ฮานอย 10 ก.ค.- เวียดนามกำลังจัดทำบทลงโทษที่เข้มงวดขึ้น เพื่อกวาดล้างการฉ้อโกงทางการค้าและการถ่ายลำสินค้าอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งมุ่งตรวจสอบสินค้าจีน เพื่อทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับสหรัฐในการเจรจาลดอัตราภาษีศุลกากร รอยเตอร์รายงานอ้างเอกสารของกระทรวงพาณิชย์เวียดนามลงวันที่ 3 กรกฎาคมตามเวลาเวียดนามว่า รัฐบาลจะออกคำสั่งใหม่ที่จะกำหนดมาตรการลงโทษที่รุนแรงขึ้นกับการฉ้อโกงแหล่งกำเนิดสินค้า และจะออกมาตรการและการตรวจสอบที่เคร่งครัดขึ้นเพื่อป้องกันการฉ้อโกง ที่ผ่านมาทางการเวียดนามได้รับแจ้งให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มุ่งเน้นไปที่สินค้าที่เสี่ยงฉ้อโกง หรือสินค้าจีนที่ถูกสหภาพยุโรปหรืออียูและสหรัฐประกาศใช้มาตรการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้า เอกสารดังกล่าวยกตัวอย่างสินค้าที่มีการฉ้อโกง เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้, ไม้อัด, อะไหล่เครื่องจักรเหล็ก, รถจักรยาน, แบตเตอรี่, หูฟังไร้สาย และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ วิธีการฉ้อโกง เช่น ปลอมแปลงเอกสารเพื่อขอใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ปลอมแปลงใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า นำสินค้าปลอมเข้าเวียดนาม โดยระบุว่า การฉ้อโกงเพิ่มขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีศุลกากรและการใช้มาตรการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้า รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า วันที่ของเอกสารฉบับนี้เป็นวันเดียวกับที่นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษี ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอังกฤษที่บรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นกับสหรัฐ เวียดนามตกลงเก็บภาษีศุลกากรสินค้าสหรัฐในอัตราร้อยละ 0 ขณะที่สหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้าเวียดนามในอัตราร้อยละ 20 และสินค้าประเทศอื่นที่ส่งออกจากเวียดนามในอัตราร้อยละ 40.-814.-สำนักข่าวไทย

เดินหน้าผลักดัน “ท่าเรือระนอง” หลังปริมาณสินค้าผ่านท่ามีแนวโน้มพุ่งสูง

กรุงเทพ 20 มิ.ย. – “มนพร” เดินหน้าผลักดัน “ท่าเรือระนอง” หลังปริมาณสินค้าผ่านท่ามีแนวโน้มพุ่งสูง สั่งการ กทท. เร่งดำเนินการยกระดับเทียบชั้นสากลมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค พร้อมได้รับความร่วมมือท่าเรือจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ หนุนเสริมแกร่งเทคโนโลยี สนองความต้องการของผู้ใช้บริการครบทุกมิติ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ต้องการยกระดับการให้บริการท่าเทียบเรือให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Joint Working Group Meeting) ภายใต้ MOU ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ท่าเรือระนอง) และท่าเรือจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ทั้งในด้านการส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาเส้นทางการขนส่งทางทะเลฝั่งอันดามัน เสริมสร้างศักยภาพท่าเทียบเรือ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ช่วยตอบสนองความต้องการของผู้นำเข้าส่งออกด้วยการลดระยะเวลาการขนส่ง และลดค่าใช้จ่าย ทำให้ภาคการขนส่งของภาคใต้มีศักยภาพและเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างความมั่นคง ทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทั้งนี้ ภาพรวมท่าเรือระนองในปี 2567 ที่ผ่านมานั้น มีตู้สินค้าผ่านท่ารวม 324,933 ตัน เพิ่มขึ้น 251% จากปีก่อนซึ่งในปีนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ กทท. เร่งดำเนินการยกระดับท่าเทียบเรือระนอง […]

Hun Sen in Senate

“ฮุน เซน” เตือนอย่าให้เรื่องชายแดนลามไปเรื่องอื่น

พนมเปญ 8 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เตือนประชาชนอีกครั้งว่า อย่าทำให้ข้อพิพาทชายแดนกับไทยลุกลามไปยังเรื่องอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลุกลามไปเป็นการเกลียดชังทางเชื้อชาติ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนได้โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อคืนวันเสาร์ว่า ได้เห็นนายดวง ชัย ซึ่งเป็นนักธุรกิจท้องถิ่นโพสต์ข้อความเรียกร้องให้ยุติการซื้อสินค้าไทย เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้ร้องขอหลายครั้งแล้วว่า อย่ายกระดับข้อพิพาทให้ไปถึงจุดที่ลุกลามไปยังเรื่องอื่น ๆ และจุดชนวนความเกลียดชังทางเชื้อชาติ นายฮุน เซน โพสต์ด้วยว่า กองทัพไทยปิดจุดผ่านแดนปอยเปตเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม ดังนั้นไทยต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบทั้งหมดต่อการกระทำดังกล่าว ส่วนชาวกัมพูชาขอให้มีวุฒิภาวะ ใจเย็น และงดการยั่วยุใด ๆ เขาเพียงอยากจะเตือนประชาชนทั้งกัมพูชาและไทยว่า หากสินค้าไทยขาดหายไปจากตลาดกัมพูชา นั่นไม่ใช่เพราะชาวกัมพูชาพร้อมใจกันคว่ำบาตร แต่เป็นผลจากการปิดจุดผ่านแดน เพราะเมื่อประชาชนถูกปิดกั้น สินค้าก็จะถูกปิดกั้นเช่นเดียวกัน ประชาชนชาวไทยควรแก้ปัญหานี้กับรัฐบาลโดยตรง เพราะจะเป็นฝ่ายเดือดร้อนมากที่สุด ขณะที่ประชาชนชาวกัมพูชาไม่ควรโทษรัฐบาลกัมพูชา เพราะเป็นผลโดยตรงจากการตัดสินใจของไทยที่จะปิดจุดผ่านแดน สถิติการค้าปี 2567 กัมพูชาส่งออกสินค้ามายังไทยมูลค่ามากกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,000 ล้านบาท) ขณะที่ไทยส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชามากกว่า 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 170,450 ล้านบาท).-814.-สำนักข่าวไทย

เผยภาพดินแดนที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ที่ถูกเรียกเก็บภาษีจาก “ทรัมป์”

ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นพื้นที่ของเกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกดอนัลด์ ที่เป็นดินแดนเล็ก ๆ เต็มไปด้วยน้ำแข็งที่อยู่ในอาณัติของออสเตรเลีย ที่ตั้งอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา

พาณิชย์เปิดรับฟังเอกชน หลังพบสินค้าต่ำกว่าคุณภาพเข้าไทยสูง

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนทุกกลุ่ม หลังเจอปัญหาสินค้านำเข้าหลายชนิดเข้ามาในไทยคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน แถมเจอราคาต่ำอีก ย้ำหากได้ข้อมูลชัดเจนจะได้กำหนดแนวทางแก้ไขดูแลถูกจุด

กระทรวงดีอี-อก. ผนึกกำลังเสริมแกร่งขีดความสามารถชุมชน-วิสาหกิจไทย

“รัดเกล้า” เผยกระทรวงดีอี-อก. ผนึกกำลังเสริมแกร่งขีดความสามารถชุมชน-วิสาหกิจไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมใช้เครือข่ายไปรษณีย์กว่า 50,000 แห่ง และแพลตฟอร์ม e-Marketplace เพิ่มช่องทางกระจายสินค้าสู่สายตาต่างประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

“ไบเดน” ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนครั้งใหญ่

วอชิงตัน 14 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนที่มีมูลค่ารวมถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 661,000 ล้านบาท) ทำเนียบขาวแถลงวันนี้ว่า มาตรการขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนครอบคลุมตั้งแต่ยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี ชิปคอมพิวเตอร์ เวชภัณฑ์ เหล็กและอะลูมิเนียม แบตเตอรี่ แร่ธาตุสำคัญ เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ และเครน ประธานาธิบดีใช้อำนาจตามมาตรา 301 ของกฎหมายการค้าปี 2517 ขึ้นภาษีอีวีจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 100, แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับอีวีและชิ้นส่วนแบตเตอรี่อื่น ๆ จากร้อยละ 7.5 เป็นร้อยละ 25, โซลาร์เซลล์จากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 50, แร่ธาตุสำคัญบางอย่างจากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 25, เครนหน้าท่าจากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 25, กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาจากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 50, ชุดป้องกันส่วนบุคคลหรือพีพีอี ทางการแพทย์จากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 25 จากนั้นจะขึ้นภาษีอีกในปี 2568 และ 2569 กับเซมิคอนดักเตอร์โดยขึ้น 2 เท่าเป็นร้อยละ 50 […]

จีนทดสอบรถไฟสินค้าน้ำหนักบรรทุกมากสุด

รถไฟสินค้าที่มีน้ำหนักบรรทุกสูงเกิน 30,000 ตัน ซึ่งถือเป็นน้ำหนักบรรทุกมากที่สุดในจีนในปัจจุบัน ได้เสร็จสิ้นการทดสอบวิ่งบนทางรถไฟสายซั่วโจว-หวงหัว ในวันเสาร์ (20 เมษายน)

จีนปราบคดีลอบขนสินค้ากว่า 4 แสนล้านบาทในปี 2566

ปักกิ่ง 13 ก.พ. – สำนักบริหารศุลกากรทั่วไปของจีนเผยว่า หน่วยงานศุลกากรของจีนปราบปรามคดีลักลอบขนส่งสินค้าได้ทั้งหมด 4,959 คดี ในปี 2566 มูลค่า 88,600 ล้านหยวน (ราว 445,435 ล้านบาท) สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า คดีที่ปราบปรามได้มีคดี “สุ่ยเค่อ” จำนวน 697 คดี หมายถึงคดีของบุคคลที่ลักลอบขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือร่วมมือกับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมเพื่อมีส่วนร่วมในการลักลอบขนส่งสินค้า คิดเป็นมูลค่า 6,000 ล้านหยวน (ราว 30,000 ล้านบาท) คดีลักลอบขนส่งน้ำมันปิโตรเลียม  118 คดี มูลค่ารวม 18,200 ล้านหยวน (ราว 91,500 ล้านบาท) คดีลักลอบขนส่งสินค้าเกษตร 866 คดี มูลค่ารวม 11,000 หมื่นล้านหยวน (ราว 55,300 ล้านบาท) และคดีฉ้อโกงส่วนลดภาษี 52 คดี มูลค่า 14,200 ล้านหยวน (ราว […]

1 2 3 11
...