fbpx

ผีน้อยไทยในเกาหลีใต้แห่รายงานตัว ตม. กว่า 5,000 ราย

กรุงเทพ 2มี.ค.-กต.เผยผีน้อยไทยในเกาหลีใต้แห่รายงานตัว ตม. กว่า 5,000 ราย ยันขอกลับประเทศได้ ไม่โดนห้ามเข้าอีก ยังไม่พบคนไทยในเกาหลีใต้ติดโรคโควิด-19


นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงมาตรการของเกาหลีใต้และการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เกี่ยวกับการดูแลคนไทยในเกาหลีใต้ จากกรณีรายงานข่าวคนไทยที่พำนักเกินวีซ่าในเกาหลีใต้เข้ารายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นครแดกู เพื่อแสดงความประสงค์เดินทางกลับไทย สาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ (2 มีนาคม 2563) นั้น ว่าปัจจุบัน ทางการเกาหลีใต้มีมาตรการให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินวีซ่า แสดงความสมัครใจออกนอกประเทศได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ และไม่มีโทษห้ามกลับเข้าเกาหลีใต้ ซึ่งกรมการกงสุลได้เคยประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้แล้ว และในขณะนี้ เกาหลีใต้ยังไม่มีมาตรการปิดเมือง หรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด โดยคนไทยในเกาหลีใต้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย สามารถเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ไปติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเขตที่พักอาศัยอยู่ได้ทันที โดยทางการเกาหลีใต้จะใช้เวลาประมาณ 3-15 วัน ในการออกเอกสารยืนยันการออกนอกประเทศ  ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกรายจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานในสถานพยาบาลที่ทางรัฐกำหนด และรัฐบาลเกาหลีใต้จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่พำนักในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหรือไม่ นอกจากนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยทุกคนจะไม่ถูกจับกุมและไม่ถูกส่งตัวกลับหากไม่สมัครใจ

ทั้งนี้ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับทราบว่า นับแต่เดือน ธ.ค. 2562 จนถึง 1 มี.ค. 2563 มีคนไทยไปรายงานตัวแล้วกว่า 5,000 คน ส่วนเฉพาะที่นครแดกู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ข้อมูลว่ามีคนไทยรายงานตัวรวมจำนวน 136 คน 


อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าสำหรับคนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะต้องผ่านมาตรการคัดกรองของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และกักตัวเพื่อดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข 

นายเชิดเกียรติ กล่าวว่าอย่างไรก็ตามตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อติดต่อประสานงาน แจ้งข่าวสาร สอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางขอรับคำปรึกษาด้านสุขภาพกับหน่วยงานของเกาหลีใต้ โดยในกลุ่มไลน์ดังกล่าว มีคนไทยในพื้นที่ระบาดสูง จ. คยองซัง-เหนือ (รวมนครแดกู) เข้าร่วมประมาณ 270 คน และมีผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยให้คำแนะนำในกลุ่มดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ติดตามสถานการณ์ความเป็นอยู่ของชาวไทยในพื้นที่ดังกล่าวกับตัวแทนเครือข่ายคนไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยรวมคนไทยยังคงใช้ชีวิตตามแนวทางของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยหลีกเลี่ยงที่ชุมชนและการเดินทางโดยไม่จำเป็น และสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังดำเนินการจัดส่งหน้ากากอนามัยให้กับคนไทยในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการหาซื้อด้วย 

ทั้งนี้หากคนไทยในเกาหลีใต้มีเหตุเร่งด่วน สามารถติดต่อฮอตไลน์สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่หมายเลข +82-106747 0095 และสามารถติดตามข่าวและประกาศของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทาง Facebook: “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล Royal Thai Embassy, Seoul”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

รมต.ใหม่ถ่ายภาพทำบัตร ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบคึกคัก รมต.ใหม่ถ่ายภาพทำบัตร ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ขณะที่นายกฯ ลงมาทักทาย “ครม.เศรษฐา 1/2” เตรียมถ่ายรูปหมู่หน้าตึกไทยฯ ก่อนประชุม ครม.ชุดใหม่ นัดแรก 7 พ.ค.นี้

อดีตตำนานหงส์แดงยินดีช่วยพีอาร์ไทยผ่านฟุตบอล

3 อดีตตำนานหงส์แดง เข้าพบนายกฯ ประทับใจประเทศไทย ยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านกีฬาฟุตบอล

ไฟไหม้โกดังพื้นที่ภาชี คุมเพลิงได้แล้ว 100%

เหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี ผู้ว่าฯ อยุธยา ยืนยันคุมเพลิงได้ 100% แล้ว จ่อตรวจสอบชนิดของสารเคมี หาสาเหตุเพลิงไหม้ ด้าน รพ.ภาชี ยังปิดต่อเนื่อง รอให้แน่ใจไฟไม่ปะทุซ้ำ