กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตรวางพวงหรีดหน้าพระพิรุณทรงนาค ทวงความยุติธรรมให้เกษตรกร หลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบนสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ระบุขาดการศึกษารอบด้าน ค้านคำสั่งนายกรัฐมนตรี ชี้จะกระทบโครงสร้างภาคเกษตรกรรมของประเทศ
นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นำพวงหรีด 4 พวง มาวางที่ประติมากรรมพระพิรุณทรงนาค สัญลักษณ์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลานหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อไว้อาลัยต่อมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ให้ยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมเป็นการประชุมที่ไม่มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยข้อมูลที่นำไปพิจารณาในที่ประชุมนั้น ไม่เป็นไปตามบัญชาของนายกรัฐมนตรีที่ให้กระทรวงเกษตรฯ หารือและทำความเข้าใจกับผู้แทนผู้เกี่ยวข้อง 4 ฝ่าย ประกอบด้วยภาครัฐ เกษตรกร ผู้บริโภค และผู้ประกอบการ คณะทำงาน 4 ฝ่าย มีนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน ควรทำประชาพิจารณ์จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้บริโภค จากผลการลงมติที่เป็นไปอย่างรวบรัดแล้วนำส่งไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงทำให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายลงมติยกเลิกตามข้อเสนอของคณะทำงานชุดดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่าการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีนายภานุวัฒน์ ตริยางกรูศรี รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน นั้น ปกติแล้วประธานต้องไม่ลงคะแนนเสียงเพื่อให้เกิดความเป็นกลาง แต่จะลงคะแนนกรณีความเห็น 2 ฝ่ายเท่ากัน เพื่อชี้ขาดเท่านั้น การที่ประธานลงคะแนนเสียงจึงแสดงถึงความพยายามชี้นำที่ประชุมให้ลงความเห็นยกเลิกสารเคมี 3 ชนิด ผิดหลักธรรมาภิบาลอย่างชัดเจน
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า กลุ่มเกษตรกรที่คัดค้านการแบน 3 สาร คงร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอความเป็นธรรม จากนี้กรมวิชาการเกษตรต้องรับผิดชอบเรื่องการอายัดสารคมีที่ถูกสั่งแบนทั้งหมด เพื่อทำลายซึ่งค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า 1,000 ล้านบาท และรัฐอาจต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตในการนำเข้าและจำหน่ายด้วย.-สำนักข่าวไทย