สงขลา 17 พ.ค.-ทีมแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ แถลงสาเหตุที่ต้องตัดขาหญิงสาวชาวจังหวัดกระบี่ทั้งสองข้าง ไม่ใช่มาจากถูกสุนัขกัด แต่เป็นมะเร็งเนื้อรกชนิดที่มาอุดตันเส้นเลือด
ความคืบหน้ากรณี นางสาวภัทรธวดี นิลอุปถัมภ์ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดกระบี่ ถูกหมากัดอาการบานปลายจนต้องส่งตัวไปรักษาถึง 4 โรงพยาบาล สุดท้ายต้องถูกตัดขาทั้ง 2 ข้าง ล่าสุดนายแพทย์เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่ทำการรักษาคนไข้รายนี้ ได้ร่วมกันแถลงณ์ข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่ต้องตัดขา นางสาวภัทรธวดี ว่าทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์รับคนไข้รายนี้มาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม จากโรงพยาบาลทุ่งสง ด้วยเรื่องขาขาดเลือดทั้งสองข้าง จากภาวะเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงขาอุดตัน ทางทีมแพทย์ได้ประเมินเบื้องต้น พบว่ามีภาวะกล้ามเนื้อตายจากการขาดเลือดของขาทั้งสองข้าง แต่กล้ามเนื้อยังไม่ตาย รวมทั้งมีภาวะสารพิษที่เกิดจากการตายของกล้ามเนื้อน่องทั้งสองข้าง เข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณสูง
ทางแพทย์จึงได้คุยกับผู้ป่วยเรื่องของการผ่าตัดรักษา ว่า จะต้องตัดขาส่วนที่กล้ามเนื้อตายแล้วทิ้งไป เพื่อป้องกันภาวะสารพิษที่จะไหลเวียนเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตได้จึงได้ตัดขา และนำสิ่งอุดตันออกจากเส้นเลือด โดยผ่าตัด 2 ครั้ง ครั้งแรกตัดขาเพื่อช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยไว้ก่อน ครั้งที่สองตัดแต่งบาดแผลเพื่อหายดีแล้วจะสามารถใส่ขาเทียมได้
ขณะที่จากการตรวจชิ้นเนื้อที่อุดตันบริเวณเส้นเลือด พบว่าเป็นชิ้นเนื้อมะเร็งชนิดหนึ่งชื่อมะเร็งเนื้อรกชนิดที่มาอุดตันเส้นเลือด ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดที่พบได้ยากมาก และอาจจะเป็นครั้งแรกของโลกที่พบมะเร็งชนิดนี้ และเป็นเฉพาะในผู้หญิง คนไข้เป็นมะเร็งในระยะที่ 4 ซึ่งกระจายไปในเส้นเลือด ปอดขวาและสมองอยู่ในขั้นรุนแรงมาก จึงเป็นสาเหตุให้แพทย์ต้องตัดขาเพราะไปอุดตันเส้นเลือด ส่วนสาเหตุที่คนไข้ตรวจปัสสาวะและพบว่าท้องเกิดจากมะเร็งชนิดนี้สร้างสารชนิดหนึ่งที่คล้ายกับคนที่ท้อง ทำให้เมื่อตรวจด้วยเครื่องตรวจด้วยตัวเองทำให้เข้าใจผิดว่าท้อง ส่วนประเด็นที่ถูกสุนัขกัด นั้น ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่ต้องทำให้ถูกตัดขาทั้งสอง ซึ่งทีมแพทย์ได้อธิบายและทำความเข้าใจให้ญาติและผู้ป่วยถึงสาเหตุที่ต้องตัดขาแล้วซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ติดใจอะไร.-สำนักข่าวไทย