ชัวร์ก่อนแชร์: การสักลาย เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

26 กรกฎาคม 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลน่าสงสัย :

มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีผู้ใช้ Instagram อ้างว่า การสักลายเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากในน้ำหมึกที่ใช้สักลายมีส่วนประกอบของสารโลหะหนัก และอ้างงานวิจัยที่พบว่าผู้สักลายมีความเสี่ยงป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่าผู้ไม่สักถึง 81% พร้อมแนะนำวิธีถอนพิษด้วยการใช้อาหารเสริมที่มีแร่ซีโอไลต์


บทสรุป :

1.งานวิจัยการสักลายกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่ชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์หรือไม่
2.แม้มีสารก่อมะเร็งในน้ำหมึกที่ใช้สักลาย แต่ไม่มีข้อมูลว่าการสัมผัสจากการสักบนผิวหนังทำให้เสี่ยงมะเร็ง
3.ซีโอไลต์ไม่ช่วยล้างพิษจากการสักลาย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


ความนิยมในการสักลาย

ผลสำรวจปี 2023 ของ Pew Research Center พบว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเกือบ 1 ใน 3 หรือ 32% มีรอยสักอย่างน้อย 1 ลายบนร่างกาย และมีถึง 22% ที่มีรอยสักมากกว่า 1 ลายบนร่างกาย

ข้อมูลยืนยันว่าความนิยมการสักลายเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

เมื่อผลสำรวจในปี 2003 และ 2012 พบว่าชาวอเมริกันมีรอยสักเพียง 16% และ 21% ตามลำดับ

กระบวนการสักลาย

การสักเกิดจากการฉีดหมึกเข้าไปในหนังแท้ซึ่งเป็นหนังชั้นที่ 2 ใต้หนังกำพร้าชั้นนอก เข็มจะเจาะผิวหนังและฉีดหมึกเข้าไปในชั้นหนังแท้เพื่อสร้างลวดลาย จากนั้นร่างกายจะทำการรักษาแผลที่เกิดจากการเจาะด้วยการสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ขึ้นมาใหม่ ทำให้รอยสักได้รับการปกป้องและสีสันคงอยู่ถาวร

ความกังวลมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจากการสัก

มีการเชื่อมโยงการสักลายกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมื่อมีการตรวจสอบพบว่า หลังทำการสักลายไปแล้วหลายสัปดาห์ มีการพบเม็ดสีจากน้ำหมึกอยู่ในต่อมน้ำเหลืองที่มีอาการบวมโต ซึ่งเกิดจากเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันทำปฏิกิริยากับสารเคมีที่อยู่ในน้ำหมึก แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีอันตรายหรือไม่

งานวิจัยปี 2024 ทางวารสาร eClinicalMedicine เปรียบเทียบผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจำนวน 1,398 รายและกลุ่มควบคุมที่ไม่ป่วยจำนวน 4,193 ราย โดยเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างปี 2007 ถึง 2017 พบว่าในกลุ่มผู้สักลายป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่ากลุ่มไม่สัก 21%

ความเสี่ยงจะผกผันตามระยะเวลาที่เริ่มสัก โดยพบว่าความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในกลุ่มผู้สักจะสูงถึงเป็น 81% ในช่วง 2 ปีแรกที่เริ่มสัก แต่ในช่วงปีที่ 3-10 ความเสี่ยงจะไม่แตกต่างจากกลุ่มควบคุมที่ไม่สัก แต่หลังจากสักไปแล้วเกิน 11 ปี ความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในกลุ่มผู้สักจะมากกว่าผูัไม่สักที่ 19%

ที่น่าแปลกใจคือ จำนวนและขนาดของรอยสัก กลับไม่เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแต่อย่างใด

แม้จะเป็นงานวิจัยที่มีกลุ่มตัวอย่างจำนวนมาก แต่งานวิจัยชิ้นนี้ยังเป็นงานวิจัยแบบสังเกตการณ์ และไม่สามารถยืนยันได้ว่าการสักคือสาเหตุการเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจริงหรือไม่ เพราะอาจมีตัวแปรกวนในกลุ่มผู้สักลายที่เพิ่มความเสี่ยงนอกเหนือจากการสักได้เช่นกัน

นอกจากนี้ หากการสักเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปัจจุบันจะต้องพบจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากอย่างผิดปกติ เนื่องจากความนิยมของการสักลายในสังคมที่เพิ่มขึ้น

สารก่อมะเร็งในน้ำหมึกที่ใช้สักลาย

องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer : IARC) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้สารที่อยู่ในน้ำหมึกที่ใช้สักลายเป็นสารก่อมะเร็ง ทั้งระดับที่ Group 1, Group 2A และ Group 2B ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่อยู่ในน้ำหมึกแต่ละสี เช่น สารโครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแคดเมียม

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นการประเมินความเสี่ยงจากการสัมผัสสารในโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งการสูดดม การสัมผัส หรือการกิน ซึ่งไม่มีข้อมูลที่สรุปว่า การสัมผัสสารดังกล่าวผ่านกระบวนการสักลาย มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในมนุษย์มากน้อยแค่ไหน

ซีโอไลต์ไม่ช่วยล้างพิษจากการสัก

ในข้อมูลที่เผยแพร่ทาง Instagram ยังอ้างว่า ผู้ที่ต้องการล้างพิษของสารโลหะหนักในน้ำหมึกที่ใช้สักลาย ต้องใช้อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของแร่ซีโอไลต์

อย่างไรก็ดี นอกจากจะไม่มีหลักฐานด้านการล้างพิษหรือรักษามะเร็งด้วยแร่ซีโอไลต์ ทางองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ยังเคยส่งจดหมายเตือนไปยังผู้ผลิตอาหารเสริมแร่ซีโอไลต์ เรื่องการโฆษณาสรรพคุณอาหารเสริมเกินจริง

ความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการสักลาย

การสักลายกับช่างสักที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือมีความชำนาญ ลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจากการสักลายได้มาก

แต่การสักลายก็มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น หากดูแลแผลไม่ดีอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสบริเวณผิวหนัง หรืออาการแพ้น้ำหมึกที่ใช้สักลาย ซึ่งจะพบได้หลังจากสักใหม่ ๆ หรืออาจมีอาการหลังจากสักไปแล้วนานนับ 10 ปี

ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ข้ออ้างเรื่องความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกับการสักลาย เป็นความกังวลที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดในปัจจุบันจนกว่าจะมีการศึกษาที่ชัดเจนกว่านี้

ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้หันไปเน้นความสำคัญกับความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจากปัจจัยอื่น ๆ ที่ได้รับการยืนยันว่ามีความเสี่ยงมากกว่า เช่น การสัมผัสรังสี การได้รับสารเคมี การติดเชื้อไวรัสบางชนิด การป่วยเป็นโรคระบบภูมิคุ้มกัน ประวัติการป่วยในครอบครัว และอายุที่เพิ่มขึ้น

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.health.harvard.edu/blog/do-tattoos-cause-lymphoma-202407193059
https://healthfeedback.org/claimreview/tattoos-do-carry-some-health-risks-but-there-is-currently-insufficient-evidence-for-the-claim-that-tattoo-ink-causes-cancer/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]