กรุงเทพฯ 6 ก.ย.- ACT สะท้อนความเห็นประชาชน ผ่านเวทีงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2568 “ไม่โกง ไม่เกิด..จริงหรือ?” ประชาชนเรียกร้องนายกฯคนใหม่ บังคับใช้กฎหมายปราบโกงให้ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ประธาน ACT ย้ำผู้นำต้องแสดงเจตจำนงทางการเมือง เป็นตัวอย่าง “ต้านโกง” ไม่ปล่อยคนใกล้ตัวทุจริต ผลักดันการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ และไม่แทรกแซงองค์กรอิสระ
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันประจำปี 2568 ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 6 ก.ย.ของทุกปี โดยนายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงเจตจำนงแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันด้วยการเป็นตัวอย่างที่จะไม่โกง สร้างความโปร่งใสให้มากที่สุด และไม่ปล่อยให้คนรอบตัว คนข้างตัว หรือคนในสังกัดไปคดโกง พร้อมสนับสนุนผลักดันการแก้ไขกฎระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ ทางราชการที่ซับซ้อนและเอื้อต่อการคอร์รัปชัน โดยเริ่มจากระดับรัฐมนตรีก่อนจะไปถึงข้าราชการ สิ่งที่เคยปกปิดก็ต้องเปิดเผยให้ระบบราชการมีธรรมาภิบาลมากขึ้น สำหรับการทำงานขององค์กรอิสระ รัฐบาลต้องหยุดแทรกแซงในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การสรรหาตัวบุคคลเข้าไปเป็นกรรมการ และปล่อยให้องค์กรทำงานเต็มที่โดยไม่เข้าไปกดดัน

“นี่คือจุดเริ่มต้นง่ายๆ จากตัวนายกฯ ที่จะทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ทำให้สังคมเปลี่ยนไปพร้อมกัน และในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ขอให้ประชาชนพิจารณาเลือกพรรคการเมือง นักการเมือง ที่ไม่โกง และซื่อสัตย์ต่อประชาชน เชื่อว่าเราจะได้นายกฯ ที่ดี เด็ดขาดกับการปราบโกง” ดร.มานะ กล่าว
ภายในงานมีการสอบถามผ่านระบบออนไลน์หัวข้อ “สิ่งที่ต้องการให้นายกคนใหม่ทำเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน” พบว่า อันดับ1 ทำให้กฏหมายการโกงชาติศักดิ์สิทธิ์ 2.ขอให้นายกฯเป็นผู้นำที่แท้จริงในการปราบโกงอย่างไม่ไว้หน้าใคร 3.จัดการคนโกงในรัฐบาลให้เด็ดขาด 4. เปิดช่องทางให้ประชาชนตรวจสอบได้ 5. ปราบปรามการทุจริต ไม่โกง ไม่กิน ไม่ขายชาติ
“ยิ่งสังคมกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติภาวะผู้นำ ประชาชนยิ่งจะต้องสะท้อนเสียงออกมาดังๆ และเริ่มทำหน้าที่พลเมืองทันทีก่อนจะไปต่อในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ให้ร่วมกันเลือกคนดีเข้าสภา เพื่อที่เราจะได้รัฐบาลที่เด็ดขาดกับการปราบโกง กล้าลงโทษคนผิด ไม่ปล่อยให้ระบบยุติธรรมถูกบิดเบือน แต่งตั้งข้าราชการโดยยึดหลักคุณธรรม ให้คนดีมาเป็นใหญ่ในระบบราชการ ไม่ใช่คนที่ชำนาญการโกงเมื่อถึงวันนั้น ประเทศไทยของเราจะดีขึ้นอย่างแน่นอน คนดีต้องเกิดได้จริง โดยไม่ต้องโกง”
ขณะที่มีการเปิดเผยผลการสำรวจซึ่งจัดทำโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2568พบว่า ประชาชนกว่า 70% ชี้ว่าต้นตอของปัญหาคอร์รัปชัน คือ “นักการเมือง” รองลงมาคือ “ข้าราชการ”(55%) และ “นักธุรกิจ/ผู้รับเหมา” (29%) โดยมี “ประชาชน” บางส่วน (7%) สมรู้ร่วมคิด ส่วนเหตุผลที่การโกงยังมีอยู่และยิ่งซับซ้อน มาจาก 1.การถอนทุนคืน หลังเข้าสู่อำนาจ (44%) และ 2.คิดว่าใคร ๆ ก็ทำกันเป็นวัฒนธรรมปกติ (41%)
เมื่อถามถึงแนวทางที่จะสามารถลดคอร์รัปชันได้จริง ประชาชนมองว่า 1.กำหนดบทลงโทษรุนแรง และลงโทษจริง2.ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบ และ 3.เปิดเผยข้อมูลภาครัฐอย่างโปร่งใส และส่วนกลุ่มที่จะมาช่วย reset ประเทศไทย มองว่า “คนรุ่นใหม่” คือ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ โดยประชาชนรุ่นใหม่ (61%) ที่จะต้องเลิกเงียบ เลิกชินกับการทุจริต, สอนลูกหลานให้เกลียดการโกง เริ่มตั้งแต่ไม่ยอมให้ลูกลอกการบ้าน เลิกยอมรับคนโกงเพียงเพราะเขาทำงานเก่ง และเลิกพูดว่า ช่วยไม่ได้ ทุก ๆ คนก็โกง นักการเมืองรุ่นใหม่ (34%) ที่จะต้องหยุดซื้อเสียง โปร่งใสด้วยการลงมือทำ ไม่ใช่แค่พูด ข้าราชการรุ่นใหม่ (23%) ต้องเป็นกลไกแห่งความยุติธรรม ไม่ใช่เครื่องมือของผู้มีอำนาจ และนักธุรกิจรุ่นใหม่ (18%) ต้องปฏิเสธการจ่ายเงินใต้โต๊ะ สร้างธุรกิจบนคุณธรรม
ภายในงานยังมีเวทีเสวนาหัวข้อ “ไม่โกง ไม่เกิด..จริงหรือ?” โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นางสาววทันยา บุนนาค อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.), ดร.เดชรัต สุขกำเนิด ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน, รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางสาวลิซ่า งามตระกูลพานิช นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันหาคำตอบว่า “ถ้าไม่โกง จะเกิดได้อย่างไร?” และ “ระบบที่ดีต้องหน้าตาแบบไหน?”.-516-สำนักข่าวไทย