ชัวร์ก่อนแชร์: การสักลาย เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

26 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีผู้ใช้ Instagram อ้างว่า การสักลายเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากในน้ำหมึกที่ใช้สักลายมีส่วนประกอบของสารโลหะหนัก และอ้างงานวิจัยที่พบว่าผู้สักลายมีความเสี่ยงป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่าผู้ไม่สักถึง 81% พร้อมแนะนำวิธีถอนพิษด้วยการใช้อาหารเสริมที่มีแร่ซีโอไลต์ บทสรุป : 1.งานวิจัยการสักลายกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่ชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์หรือไม่2.แม้มีสารก่อมะเร็งในน้ำหมึกที่ใช้สักลาย แต่ไม่มีข้อมูลว่าการสัมผัสจากการสักบนผิวหนังทำให้เสี่ยงมะเร็ง3.ซีโอไลต์ไม่ช่วยล้างพิษจากการสักลาย FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ความนิยมในการสักลาย ผลสำรวจปี 2023 ของ Pew Research Center พบว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเกือบ 1 ใน 3 หรือ 32% มีรอยสักอย่างน้อย 1 ลายบนร่างกาย และมีถึง 22% ที่มีรอยสักมากกว่า 1 ลายบนร่างกาย ข้อมูลยืนยันว่าความนิยมการสักลายเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อผลสำรวจในปี […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ซิลิโคนเสริมหน้าอก เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

25 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีการเชื่อมโยงการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนกับการป่วยเป็นมะเร็งเต้านม บทสรุป : 1.การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวไม่เรียบ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง BIA-ALCL เล็กน้อย2.แต่การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวเรียบ ไม่พบความเสี่ยงมะเร็ง BIA-ALCL แต่อย่างใด3.ผู้เสริมหน้าอกตวรตรวจคัดกรองเต้านมเป็นประจำทุก 2-3 ปี FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลพิสูจน์ว่า การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม แต่พบว่าการใช้ซิลิโคนบางชนิด เพิ่มความเสี่ยงเล็กน้อยต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดที่หาได้ยาก BIA-ALCL มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจากซิลิโคนเสริมหน้าอก BIA-ALCL เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดที่หาได้ยาก ที่รู้จักในชื่อ Anaplastic Large Cell Lymphoma (ALCL) ซึ่งการเกิด ALCL จากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนจะเรียกอาการนี้ว่า Breast Implant-Associated Anaplastic Large Cell Lymphoma หรือ BIA-ALCL BIA-ALCL […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ฉีดโบท็อกซ์ เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

24 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีความเชื่อว่าการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดการหย่อนคล้อยบนใบหน้าเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง เนื่องจากเป็นสารที่สกัดจากพิษของแบคทีเรีย และการฉีดเพื่อให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าเป็นอัมพาต ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องจนนำไปสู่มะเร็ง บทสรุป : 1.ไม่มีหลักฐานว่าการฉีดโบท็อกซ์ก่อให้เกิดมะเร็ง2.โบท็อกซ์ทางการแพทย์มีความปลอดภัยสูง3.ผลเสียจากโบท็อกซ์มาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : โบท็อกซ์ เป็นชื่อการค้าของสาร โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) สารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม แบ่งได้ 7 ชนิดได้แก่ โบทูลินัม ท็อกซิน เอ ถึง จี โบท็อกซ์เพื่อการรักษา โบทูลินัม ท็อกซิน หรือ โบท็อกซ์ ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาหลากหลายอาการ ทั้งการรักษาภาวะทางระบบประสาท เช่น ภาวะกล้ามเนื้อบิดเกร็ง (Dystonia) และภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity) ใช้รักษาการปวดไมเกรน อาการคอบิดเกร็ง […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ใช้ยาย้อมผม เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

22 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีคดีฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิตยาย้อมผมในสหรัฐอเมริกา ในข้อหาปกปิดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งจากการใช้ยาย้อมผม โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อช่างทำผมที่ย้อมผมให้ลูกค้าเป็นประจำจนป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ บทสรุป : 1.มีคดีฟ้องร้องบริษัทยาย้อมผมข้อหาทำให้ช่างทำผมป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ2.หน่วยงานมะเร็งของ WHO ไม่พบว่าการย้อมผมเป็นประจำทำให้เสี่ยงมะเร็ง3.แต่พบว่าช่างทำผมที่สัมผัสยาย้อมผมเป็นประจำมีความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ4.งานวิจัยความเสี่ยงมะเร็งชนิดอื่น ๆ จากยาย้อมผมยังไม่ชัดเจน FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : คนย้อมผมไม่เสี่ยงมะเร็ง แต่ช่างทำผมมีความเสี่ยงมะเร็ง ข้อมูลจากองค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer : IARC) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อ้างอิงงานวิจัยของประเทศเยอรมนีในปี 2010 ที่ศึกษางานวิจัยจำนวน 42 ชิ้น พบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของการป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในกลุ่มช่างทำผม โดยเฉพาะช่างทำผมที่ทำงานเกินกว่า 10 ปี IARC จึงระบุว่า ผลจากการทดลองในสัตว์ทดลองและมนุษย์พบว่า การสัมผัสสารที่อยู่ในยาย้อมผมเป็นเวลานาน ทำให้ช่างทำผมและช่างตัดผมมีความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ส่วนความเสี่ยงมะเร็งชนิดอื่น […]

Britain's King Charles at media reception march 26,2025

กษัตริย์อังกฤษพบแพทย์เรื่องรักษามะเร็ง

ลอนดอน 28 มี.ค.- สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ของอังกฤษเสด็จฯ ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากทรงมีพระอาการข้างเคียงจากการรับการถวายการรักษามะเร็ง โฆษกสำนักพระราชวังบักกิงแฮมของอังกฤษออกแถลงการณ์ว่า พระองค์เสด็จฯ ไปพบแพทย์เป็นเวลาสั้น ๆ และได้เสด็จฯ กลับพระตำหนักแคลเรนซ์แล้ว ส่วนหมายกำหนดการที่พระองค์จะเสด็จฯ พบปะพสกนิกรที่เมืองเบอร์มิงแฮมทั้งหมด 4 งานในวันนี้จะมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง พระองค์ทรงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถปรับเปลี่ยนหมายกำหนดการได้ทันเวลา และทรงขอโทษทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อให้หมายกำหนดการทั้งหมดเกิดขึ้น สำนักพระราชวังไม่ให้รายละเอียดเรื่องพระอาการข้างเคียง แต่แหล่งข่าวระบุว่า เป็นพระอาการเล็กน้อยที่ไม่กระทบต่อแนวทางการรักษาที่กำลังดำเนินไปอย่างดี และไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับการรักษามะเร็ง พระองค์ทรงฟื้นพระวรกายดีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าหมายกำหนดการเสด็จฯ เยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการพร้อมกับสมเด็จพระราชินีคามิลลาในเดือนหน้าจะเป็นไปตามกำหนด สำนักพระราชวังอังกฤษแถลงเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงได้รับการวินิจฉัยว่าประชวรด้วยโรคมะเร็งชนิดหนึ่ง แต่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียด ส่วนก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม สำนักพระราชวังแถลงว่า จะเสด็จฯ ประทับที่โรงพยาบาลเพื่อรับการถวายการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต.-814.-สำนักข่าวไทย

ชัวร์ก่อนแชร์: เคี้ยวหมากและใบพลู ฆ่าเชื้อในปาก ต้านโควิด-มะเร็ง จริงหรือ?

21 มีนาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโรคมะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งช่องปากเผยแพร่ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าการเคี้ยวหมากและใบพลู มีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่างต่อร่างกาย ทั้งฆ่าเชื้อในปาก ต้านการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และต้านการเกิดมะเร็ง บทสรุป : WHO ประกาศให้การเคี้ยวหมากและใบพลู เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งในช่องปาก แม้จะเคี้ยวโดยไม่ร่วมกับการใช้ยาสูบก็ตาม FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : แต่เดิมมีความเชื่อว่าใบพลูที่กินร่วมกับหมากจะมีคุณสมบัติด้านการฆ่าเชื้อในปาก แต่การที่หมากและใบพลูเป็นยาเสพติดชนิดอ่อน การเคี้ยวหมากและใบพลูอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายตามที่กล่าวอ้างแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งหลายชนิด เมื่อปี 2003 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การเคี้ยวหมากและใบพลู เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งในช่องปาก แม้จะเคี้ยวโดยไม่ร่วมกับการใช้ยาสูบก็ตาม ข้อมูลจากการศึกษาเมื่อปี 1985 พบว่า การเคี้ยวหมากและใบพลูร่วมกับการใช้ยาสูบมีคุณสมบัติเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ หลังพบพฤติกรรมดังกล่าวอย่างแพร่หลาย ไม่เพียงแต่ในทวีปเอเชีย แต่รวมถึงกลุ่มผู้อพยพชาวเอเชียที่ไปอาศัยในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย เมื่อการเปรียบเทียบพบว่า กลุ่มผู้อพยพที่นิยมเคี้ยวหมากกับใบพลู มีสัดส่วนเป็นมะเร็งในช่องปากมากกว่าประชากรท้องถิ่น ข้อมูลพบว่าการเคี้ยวหมากกับใบพลู ร่วมกับการใช้ยาสูบ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งในช่องปาก […]

งานวิจัยมะเร็งหลอดอาหารกับการดื่มน้ำอัดลม

19 มีนาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล มีการนำความนิยมของการดื่มน้ำอัดลม ไปเชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC) ที่เพิ่มขึ้นถึง 350% นับตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970s เป็นต้นมา นำไปสู่การวิจัยถึงความสัมพันธ์อย่างแพร่หลาย แต่ผลการเชื่อมโยงมะเร็งหลอดอาหารกับการดื่มน้ำอัดลมยังไม่เป็นที่แน่ชัด เพราะมีทั้งงานวิจัยที่ไม่พบความสัมพันธ์และงานวิจัยที่พบว่าการดื่มน้ำอัดลมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารเช่นกัน งานวิจัยปี 2006 ของ Yale ไม่พบว่าการดื่มน้ำอัดลมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารชนิด EAC จุดประสงค์งานวิจัยมาจากข้อสันนิษฐานเรื่องการดื่มน้ำอัดลมทำให้เกิดอาการท้องอืด รบกวนการทำงานของหลอดอาหารส่วนล่าง และความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มน้ำอัดลมกับอาการจุกเสียดแน่นท้องในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC) แต่ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยเยล เมื่อปี 2006 นำโดย ซูซาน เมย์น ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ ได้เปรียบเทียบกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งจำนวน 1,095 ราย และกลุ่มควบคุม 657 ราย เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลม ทั้งแบบธรรมดาและแบบไม่มีน้ำตาล ทีมวิจัยพบว่า การบริโภคเครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC) โดยเฉพาะน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล และการบริโภคมากเกินไปไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหารหรือมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดย่อยใด ๆ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: เครื่องดื่มร้อนเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหาร จริงหรือ?

18 มีนาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีความเชื่อเกี่ยวกับการดื่มน้ำร้อนกับโรคมะเร็งหลอดอาหารเผยแพร่ในต่างประเทศ เมื่อมีการอ้างว่าการดื่มชาหรือกาแฟในอุณหภูมิที่สูง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหาร บทสรุป : 1.ความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดโรคมะเร็งและการดื่มน้ำร้อนจากการวิจัยในมนุษย์ยังมีอย่างจำกัด2.ไม่อาจสรุปได้ว่าการดื่มเครื่องดื่มร้อนเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหาร FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : แม้องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะจัดให้การดื่มน้ำร้อนมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งในระดับ Group 2A แต่ผลการวิจัยในมนุษย์ยังมีอย่างจำกัดและไม่อาจสรุปได้ว่าการดื่มเครื่องดื่มร้อนเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารมากน้อยแค่ไหน สมิตา โจชิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งและโรคระบบทางเดินอาหาร ศูนย์วิจัยมะเร็ง Memorial Sloan Kettering Cancer Center (MSK) อธิบายว่า ความเชื่อเรื่องเครื่องดื่มร้อนเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหาร มีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930s จากทฤษฎีที่ว่าเครื่องดื่มร้อน เช่น ชาหรือกาแฟ อาจไปทำลายเยื่อบุชั้นในของหลอดอาหาร กระตุ้นการแบ่งตัวที่ผิดพลาดในเซลล์เยื่อบุ นำไปสู่การเกิดมะเร็ง รวมถึงความเชื่อที่ว่า เยื่อบุชั้นในของหลอดอาหารที่ถูกทำลายจากการดื่มน้ำร้อนอย่างต่อเนื่อง เมื่อสัมผัสกับสารเคมีที่อยู่ในบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้ง่ายขึ้น ในอดีตมีการศึกษากับสัตว์ทดลอง พบว่าการให้สัตว์ดื่มน้ำร้อนมาก ๆ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารเช่นกัน […]

ชัวร์ก่อนแชร์: มะเร็งหลอดอาหารสามารถสังเกตได้ง่าย จริงหรือ?

16 มีนาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโรคมะเร็งหลอดอาหารเผยแพร่ในต่างประเทศ โดยอ้างว่ามะเร็งหลอดอาหารเป็นโรคที่สามารถสังเกตได้ง่ายในระยะเริ่มต้น เหมือนกับการตรวจคัดกรองมะเร็งทั่วไป บทสรุป : 1.ความผิดปกติทางกายหลายอย่างของมะเร็งหลอดอาหารอาการคล้ายคลึงกับโรคอื่น ๆ2.ปัจจุบันยังไม่มีคำแนะนำให้มีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งหลอดอาหารในประชาชนทั่วไป FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : หน้าที่ของหลอดอาหาร หลอดอาหาร เป็นอวัยวะซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงอาหารจากคอหอยไปยังกระเพาะอาหาร ในผู้ใหญ่จะมีความยาวประมาณ 23-25 เซนติเมตร สาเหตุมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งหลอดอาหารเกิดจากผลกระทบที่เกิดกับเซลล์ในมะเร็งหลอดอาหาร ทำให้เซลล์เปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด มะเร็งหลอดอาหารมีหลายประเภท แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ Adenocarcinoma (EAC) และ Squamous-cell carcinoma (ESCC) มะเร็งหลอดอาหาร Adenocarcinoma (EAC) เกิดในเซลล์บริเวณรอยต่อระหว่างหลอดอาหารกับกระเพาะอาหาร มักพบในประชากรประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป มะเร็งหลอดอาหาร Squamous-cell carcinoma […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ใช้ Hydrogen Peroxide ทาผิวรักษามะเร็ง จริงหรือ?

22 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโออ้างว่า สาร Hydrogen Peroxide ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อโรค หากนำมาทาที่ผิวหนัง Hydrogen Peroxide จะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายไปทำลายเนื้อเยื่อของก้อนเนื้อร้าย และสามารถรักษามะเร็งให้หายขาดได้ บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : บุคคลที่กล่าวอ้างได้แก่ ชาร์ลอต เกอร์สัน บุตรสาวผู้ล่วงลับของ แม็กซ์ เกอร์สัน แพทย์เจ้าของแนวคิด Gerson therapy ที่ใช้การแพทย์ทางเลือกบำบัดผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งได้รับการยืนยันในภายหลังว่าไม่ได้ผลและยังเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย Hydrogen Peroxide เป็นสารเคมีที่นำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งใช้เป็นน้ำยาฟอกขาว สารฟอกสี น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาบ้วนปาก ฯลฯ อย่างไรก็ดี ไม่มีหลักฐานว่า การทา Hydrogen Peroxide บนผิวหนังจะสามารถทำลายเนื้อเยื่อของก้อนเนื้อร้ายตามที่กล่าวอ้าง สถาบันโรคมะเร็งสหรัฐฯ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: สาร Selenium ใช้เพื่อรักษามะเร็ง จริงหรือ?

21 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีคลิปวิดีโออ้างว่า สาร Selenium ซึ่งพบในอาหารทั่วไป มีประโยชน์ในการรักษามะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่เหตุที่ไม่มีการศึกษาวิจัยในวงกว้าง เนื่องจากเป็นสิ่งที่หาได้ในธรรมชาติ จึงไม่สร้างกำไรให้กับบริษัทผู้ผลิตยานั่นเอง บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Selenium เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย พบในอาหารหลายชนิด เช่น อาหารทะเล เนื้อไก่ เนื้อวัว ถั่ว และธัญพืช ศูนย์การแพทย์ Memorial Sloan Kettering Cancer Centre (MSKCC) แนะนำว่า ในแต่ละวันควรรับแร่ธาตุ Selenium ในปริมาณ 55 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่หาได้จากแหล่งอาหารทั่วไป โดยระดับสูงสุดที่ร่างกายรับได้ควรไม่เกิน 400 ไมโครกรัมต่อวัน หากรับแร่ธาตุ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: Fenbendazole ยาฆ่าพยาธิรักษามะเร็งได้ จริงหรือ?

19 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิผลการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งด้วยยาฆ่าพยาธิเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่า Fenbendazole ยารักษาปรสิตในสัตว์ ได้รับการกล่าวอ้างถึงประสิทธิผลด้านการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งการยืนยันโดย เมล กิบสัน นักแสดงฮอลลีวูด ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Joe Rogan Experience และการเผยแพร่เรื่องราวของ โจ ทิปเพนส์ ชาวอเมริกันที่อ้างว่าหายจากมะเร็งปอดจากการใช้ยา Fenbendazole นอกจากนี้ ยังมีการอ้างว่า สาเหตุที่ยารักษาปรสิตใช้ได้ดีในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากเซลล์มะเร็งก็คือปรสิตที่อยู่ในร่างกายมนุษย์นั่นเอง บทสรุป : 1.Fenbendazole ใช้รักษาโรคจากปรสิตในสัตว์เท่านั้น2.มีการทดลองใช้ Fenbendazole รักษามะเร็งในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง2.แต่ยังไม่มีการทดลองใช้ Fenbendazole รักษามะเร็งในมนุษย์ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ความเหมือนและแตกต่างระหว่างปรสิตและเซลล์มะเร็ง ปรสิตและเซลล์มะเร็งต่างพึ่งพาแหล่งอาหารจากร่างกายของ Host เพื่อใช้ในการเติบโตหรือการแบ่งตัวเหมือนกันทั้งคู่ และยังสามารถต้านทานการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันของ Host ได้เช่นกัน แต่ปรสิตไม่ถือเป็นส่วนเดียวกับร่างกายของ […]

1 2 3 17
...