กรุงเทพฯ 8 พ.ค. – ตลท.เผยตลาดหุ้นไทยปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น เพราะพื้นฐานตลาดยังแข็งแกร่ง ขอให้นักลงทุนติดตามสงครามการค้าสหรัฐ-จีนใกล้ชิด
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยมาจากปัจจัยต่างประเทศไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งความไม่แน่นอนทั้งจากการเมืองในประเทศและปัจจัยต่างประเทศยังมีผลกดดันการลงทุน และมีผลต่อการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าหากความไม่แน่นอนคลี่คลายเงินทุนต่างชาติมีโอกาสไหลกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่และเอเชีย ดังนั้น ขอให้พิจารณาโอกาสในการเติบโตของธุรกิจเป็นหลัก ซึ่งพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง และบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสในการทำกำไร
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. เปิดเผยว่า ขอให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐและจีนที่กลับมาอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่เตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นร้อยละ 25 จากเดิมร้อยละ 10 ในวันศุกร์นี้ โดยขอให้นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลอย่าเพิ่งตื่นตระหนกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาระดับหนึ่งรับข่าวความตึงเครียดที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ปรับลงแรงเท่ากับตลาดหุ้นสหรัฐและจีน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง ซึ่งการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน ยังดำเนินต่อไปในวันที่ 9-10 พฤษภาคมนี้ ซึ่งต้องติดตามความคืบหน้าของการเจรจาต่อรองของมหาอำนาจ 2 ประเทศ
ส่วนภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนเมษายน 2562 ณ สิ้นเดือนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,673.52 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากสิ้นเดือนก่อน สูงเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 41,915 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบเดือนก่อน โดยผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิหุ้นไทยเป็นเดือนแรก 3,344 ล้านบาท อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนเมษายน 2562 อยู่ที่ร้อยละ 3.12 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ร้อยละ 2.74 และ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการระดมทุนใน ตลท.อยู่ที่ระดับ 6,051 ล้านบาท สูงที่สุดในอาเซียน. – สำนักข่าวไทย