รมว.เกษตรฯ กำชับใช้งบไทยนิยมโปร่งใส

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – รมว.เกษตรฯ มอบนโยบายหน่วยงานภูมิภาค กำชับใช้งบไทยนิยมอย่างสุจริตและโปร่งใส รวมทั้งขอให้กระตือรือร้นเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงและถ่ายทอดผ่านระบบ Web Conference ไปยังหน่วยงานในภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อกำชับการดำเนินการโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งกระทรวงฯ ได้รับจัดสรรงบประมาณเพิ่มปี  2561 เป็น 24,000 ล้านบาท โดยจะมีโครงการยกระดับรายได้ของเกษตรกร 20 โครงการ

นายกฤษฎา เน้นย้ำให้ข้าราชการทุกคนทำงานด้วยความสุจริตและรอบคอบ ขณะนี้ประสานงานไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เสนอรายละเอียดและงบประมาณแต่ละโครงการให้รับทราบ รวมทั้งขอความร่วมมือให้คำแนะนำแก่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ไม่ใช่ตรวจจับผิดอย่างเดียว ซึ่ง ป.ป.ท.เป็นหน่วยงานแรกที่ทำบันทึกความเข้าใจร่วมกับกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งได้รับผิดชอบการสร้างฝายชะลอน้ำ 1,097 แห่งทั่วประเทศ งบประมาณฝายละ 100,000 บาท แบ่งเป็นงบสำหรับซื้อกระสอบ ปูน ทราย 40,000 บาท ค่าจ้างแรงงาน 60,000 บาท โดย ป.ป.ท.จะดูแลให้เป็นไปตามระเบียบราชการทั้งการจัดซื้อจัดจ้างและการจ่ายค้าจ้างแรงงาน


สำหรับการจ้างงานนั้น ต้องจ้างเกษตรกรผู้ที่มีรายชื่อในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ให้จ้างเฉพาะญาติมิตรผู้นำชุมชน ส่วนการจ่ายค่าแรงงานต้องจ่ายผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่จ่ายเป็นเงินสด เพื่อเงินจะได้ถึงผู้มารับจ้างทำงานจริง

นอกจากนี้ ยังกำชับให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระตือรือร้นในการเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยวันนี้ (26 มิ.ย.) ได้มอบหมายให้กรมชลประทานรับผิดชอบเรื่องการส่งน้ำให้ถึงแปลงเกษตร หากเกิดฝนทิ้งช่วง อีกทั้งวางแผนล่วงหน้าป้องกันน้ำท่วมช่วงปลายฤดูฝน ส่วนงานอื่น เช่น ประมงและปศุสัตว์ต้องคอยดูเรื่องสัตว์ป่วยผิดปกติ ป้องกันก่อนจะเกิดโรคระบาด ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้รับรายงานความเดือดร้อนของเกษตรกร ก่อนที่หน่วยงานในพื้นที่จะรับรู้ปัญหา ซึ่งได้คาดโทษไปแล้ว ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

เรื่องสำคัญอีกประการ คือ ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังร่วมกับกระทรวงพาณิชย์สำรวจความต้องการผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิด เพื่อวางแผนผลิตของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ระหว่างนี้ขอมอบหมายให้เกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอทำโครงการนำร่องจับคู่ค้าระหว่างผู้ประกอบการแปรรูปหรือผู้จำหน่ายสินค้าเข้ากับกลุ่มเกษตรกรโดยเริ่มต้นจากข้าว ซึ่งจะเก็บเกี่ยวเมื่อสิ้นฤดูนาปี โดยเริ่มจับคู่โรงสีให้เข้ารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาแต่ละอำเภอและจับคู่ Modern Trade ให้รับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรงเพื่อตัดพ่อค้าคนกลางออก จากนั้นจะใช้เป็นต้นแบบกับผลผลิตทางการเกษตรชนิดอื่น ๆ ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น