สำนักข่าวไทย 30 ก.ย. – สธ. ยืนยัน ยาต้านไวรัสเอดส์ไม่หมด เพียงพอ เตรียมเดินหน้า วางแผนการจัดซื้อยาใหม่ โดยรพ.ราชวิถี เชื่อไม่มีปัญหา เพราะสปสช. รับผิดชอบ จัดซื้อยาถึงสิ้นปี 60
หลังจากเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ แห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า ยาต้านไวรัสเอดส์ กำลังจะไม่พอ และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ติดเชื้อที่ต้องรับยากว่า 3 แสนคน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจัดซื้อยา วัคซีน รวมถึง อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของ รพ.ราชวิถี เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. หลังจากที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้ว่า สปสช. ไม่มีอำนาจในการสั่งซื้อยาได้ พร้อมกล่าวว่า กระบวนการจัดซื้อยา ขณะนี้รอการโอนงบประมาณจากกระทรวงการคลัง เมื่อได้รับแล้ว ก็จะสามารถจัดซื้อได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากมีการระบบ และดำเนินการ เหมือนที่สปสช.ทำทุกอย่าง เชื่อว่าไม่กระทบต่อระบบแน่นอน
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านในการประชุมวางระบบการจัดซื้อยาก็ มีตัวแทนภาคประชาชนร่วมด้วยเสมอ ทั้ง นายนิมิตร เทียนอุดม ผู้จัดการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และนางยุพดี ศิริสินสุข ร่วมด้วยเสมอ และในการจัดซื้อยา คำสั่งได้ขยายไปในช่วงรอยต่อของกระบวนการจัดซื้อ เอประโยชน์ให้กับผู้ป่วย โดยให้สปสช.ดำเนินการไปก่อนจนถึงสิ้นปี 60 ทำให้มียาพอแน่นอน ส่วนในปี 61 ก็ให้ทางรพ.ราชวิถีดำเนินการ พร้อมกันนี้ที่ประชุมบอร์ดสปสช. ที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน จัดให้จำเงินส่วนลดจากการจัดซื้อ 5 เปอร์เซนต์ ให้นำมาจัดซื้อยาต้านไวรัสให้กับประชาชนด้วย โดยไม่ต้องเข้ากองทุนสวัสดิการสปสช. เหมือนในอดีต .-สำนักข่าวไทย