ศาลรัฐธรรมนูญ 27 มิ.ย.- ภาคประชาชนยื่นศาลรธน.ขอชะลอพิจารณาคำร้อง สว. ขอถอดถอนนายกฯ หวั่นสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทำการบริหารบ้านเมืองเกิดปัญหา ยันไม่มีขนม็อบชนกลุ่มไล่พรุ่งนี้
สมาคมส่งเสริมการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐภาคประชาชน(ส.ต.ป.) นำโดยนายพิชัย พิทักษ์ เลขาธิการสมาคมฯ เข้ายื่นหนังสือต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ชะลอการพิจารณาคำร้องของประธานวุฒิสภา ที่ส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 36 คนขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายพิชัย กล่าวว่า ทางสมาคมฯเห็นว่าข้อกล่าวหาของทางสว.ต่อนายกรัฐมนตรีรุนแรงเกินไปจึงต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญชะลอการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ออกไปก่อนและให้มีการแสวงหาข้อมูล พยานหลักฐานเพิ่มเติม อย่างรอบคอบก่อนที่จะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะถ้าสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย และมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่จะทำให้เกิดปัญหาในการบริหารบ้านเมือง
“ผมมองว่าการพูดดิวเบื้องต้นในลักษณะนั้นของท่านนายกฯก็เพื่อโน้มน้าวให้อีกฝั่งซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าให้เขาเห็นใจ แต่จริงๆในส่วนการบริหารบ้านเมืองจะไปบอกว่า จะยกอันนั้นอันนี้หรือขอนั่นนี่มาได้เลยในฐานะนายกทำไม่ได้อยู่แล้ว จะทำได้ต้องเป็นสภาจึงอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญชะลอการพิจารณาและการมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ไปก่อน เพราะก็มีตัวอย่างสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ที่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องแล้ว แม้ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที แต่ก็บริหารไปได้เพียงระยะหนึ่งแล้วศาลฯวินิจฉัย ท่านเศรษฐาก็ไปเลย ทำให้เกิดสูญญากาศในการบริหารบ้านเมือง จึงควรให้ท่านนายกบริหารบ้านเมืองไปก่อน คนที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็คือรัฐสภา ถ้ามีความเห็นอย่างไรแล้วค่อยมาว่ากันอีกที หรือถ้าท่านนายกจะตัดสินใจยุบสภาหรือลาออก ก็เป็นไปตามครรลองอยู่แล้ว”
นายพิชัย ยังระบุว่าได้ฟังคลิปเสียงล่าสุด ของสมเด็จฮุนเซนแล้ว ก็เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล พยายามด้อยค่าคนไทยก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง การจะบอกว่านายทักษิณ ชินวัตร บิดาของนายกรัฐมนตรีไปพูดคุยนั่นนี่ อาจเป็นการต่อรองธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ ส่วนตัวก็ยังมองว่าไม่ใช่ประเด็น เพราะถึงอย่างไรดินแดนของประเทศเราจะไปยกให้ หรือทำแบบนั้นไม่ได้
เมื่อถามว่าในพรุ่งนี้จะมีการชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรีของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ทางสตป.จะไปเคลื่อนไหวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ เราจะไม่ชุมนุม แต่จะทำตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ และอยากจะตั้งถามว่า การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นนั้นมีเป้าประสงค์อะไร
“จริงๆเราชุมนุมได้แต่เราไม่ทำ เพราะบ้านเมืองจะวุ่นวายไหม แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ในบ้านเมืองเรามีมานานแล้ว แล้วเราจะทำอีกเพื่อซ้ำเติมทำไม การที่จะให้กำลังใจรัฐบาลก็คือ ถ้าเห็นว่าไม่ดีครั้งหน้าก็ไม่ต้องเลือกตั้งมา ซึ่งเจตนารมณ์ของสมาคมต้องการที่จะปกป้องรัฐธรรมนูญ และประชาชนอยู่แล้ว และเห็นว่าพฤติกรรมของนายกจากกรณีกัมพูชายังไม่เข้าข่ายผิดจริยธรรมจนต้องถูกถอดยื่นถอดถอน”.-312 -สำนักข่าวไทย