ศาล รธน. 10 ก.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องฟ้อง 15 ฝ่ายทั้งการเมือง และภาคประชาชน กรณีคลิปเสียง “ฮุน เซน-แพทองธาร” เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอล้มล้างการปกครอง
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้อง ในคดีที่นายวินิจ จินใจ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า กรณีปรากฏข้อเท็จจริงที่แพร่หลายในสื่อมวลชน ว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้เผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้ถูกร้องที่ 1 กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีเจตนาเพื่อเตรียมการรุกล้ำอธิปไตยของไทย การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวจากบุคคลหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยของนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ผู้ถูกร้องที่ 2 และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 36 คน เป็นผู้ถูกร้องที่ 3
การยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้พิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ของนายสกนธ์ การกระสัง ผู้ถูกร้องที่ 6 การแจ้งความดำเนินคดีอาญาของคณะบุคคล ประกอบด้วยนายสมชาย แสวงการ นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายคมสัน โพธิ์คง ผู้ถูกร้องที่ 12 การเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ถูกร้องที่ 4
คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ผู้ถูกร้องที่ 5 นายวรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ผู้ถูกร้องที่ 9 พรรคไทยภักดี ผู้ถูกร้องที่ 10 คณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ผู้ถูกร้องที่ 11 และแกนนำคณะรวมพลังแผ่นดิน ผู้ถูกร้องที่ 14 การลงนามถวายฎีกาของคณะนักวิชาการ นักวิจัย และอาจารย์มหาวิทยาลัย จำนวน 155 คน ผู้ถูกร้องที่ 13
รวมถึงการดำเนินงานของนายทะเบียน พรรคการเมือง ผู้ถูกร้องที่ 7 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ถูกร้องที่ 8 และคณะบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับคดีการฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเมื่อปี พ.ศ. 2567 จำนวน 228 คน ผู้ถูกร้องที่ 15
การกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 15 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 45 มาตรา 46 และมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) (2) และ (3)
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดและอัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว เห็นว่า ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นกรณีที่ได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หลักเกณฑ์ วิธีการ และกระบวนการ ยุติธรรมกำหนดขั้นตอนไว้เป็นโดยเฉพาะแล้ว จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้ง 15 กระทำการอันเป็น การใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ส่วนกรณีการกระทำอื่นใดของผู้ถูกร้องทั้ง 15 จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกันอีกส่วนหนึ่งต่างหากตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49.-314.-สำนักข่าวไทย